‘อังคณา’ ชี้ รัฐบุรุษโลกยังติดคุกได้ แต่ ‘ทักษิณ’ ไม่ติดสักวัน

27 พ.ค. 2568 - 04:32

  • ‘อังคณา’ จับตาคดี ‘ทักษิณ’ 13 มิ.ย.นี้ สร้างแรงกระเพื่อมทางการเมือง ยก รัฐบุรุษที่สำคัญของโลกยังติดคุกได้ แต่ ‘ทักษิณ’ ไม่ติดสักวัน หวังไปเอง จะไม่ป่วยหนัก

  • มอง ‘นายกฯ มาเลเซีย’ ชื่นชม ‘ทักษิณ’ ข้ามหัว ‘นายกฯ อิ๊งค์’ ส่งผลความเชื่อมั่นรัฐบาล งง ‘ป.ป.ส.’ เชิญ ‘ทักษิณ’ ปาฐกถาพิเศษปราบยาเสพติด ทั้งที่ยุคนั้นมีอุ้มหาย คดียาเสพติดกว่า 3,000 คน แต่จนท.ไม่ได้รับโทษ

  • กระตุกขาเพื่อน สว. เรียกร้องสปิริตขอให้ ‘ชะลอเลือกองค์กรอิสระ’ 30 พ.ค.นีเตรียมขอพูดกลางที่ประชุม สว. บอกขึ้นอยู่กับท่านประธาน ‘มงคล’ จะใจกว้างหรือไม่ ย้ำหากเลือกไปแล้วคดีฮั้ว สว.มีความผิดทำอย่างไร ชี้ ไม่สง่างาม

  • ลั่น! ของแบบนี้อยู่ที่จิตสำนึก ฉะ ‘กกต.’ ทำงานช้า ขนาด สส.500 คน ยังมี ‘ใบส้ม-เหลือง-แดง’

‘อังคณา’ ชี้ รัฐบุรุษโลกยังติดคุกได้ แต่ ‘ทักษิณ’ ไม่ติดสักวัน

อังคณา นีละไพจิตร ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวถึง คดีชั้น 14 ของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ศาลฎีกานัดคู่ความไต่สวนวันที่ 13 มิถุนายนนี้ว่า ประชาชนคลุมเครือขณะเดียวกัน ก็มีกระแสข่าวเรื่องดีลเข้ามาเยอะมาก ทั้งเรื่องทักษิณและคดีฮั้วสว. และมีการจับตาว่าทุกอย่างจะจบที่พรรคการเมืองใหญ่คุยกันได้หรือไม่

 

ส่วนกรณีที่ทักษิณพักรักษาตัวที่ชั้น 14 เป็นระยะเวลานานนั้น อังคณา มองว่า เป็นการเลือกปฏิบัติโดยหยิบยกเหตุการณ์ที่ได้ไปเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ คนไข้ที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ ก็ยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลทัณฑสถาน แต่ทักษิณไม่ได้มาอยู่ในส่วนของโรงพยาบาลราชทัณฑ์เลย ทำให้ ถูกมองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ ดังนั้นประชาชนจึงจับตา คำสั่งของศาลฎีกาวันที่ 13 มิถุนายนนี้ ก่อนจะทิ้งท้ายว่า รัฐบุรุษที่สำคัญของโลกก็ยังติดคุกได้ แต่ทำไมทักษิณไม่ติดเลยสักวันเดียว ทำให้ชาวบ้านมีความสงสัย

 

อังคณา ยังกล่าวถึงคำสั่งของศาล ที่จะมีในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ว่า ไม่ว่าจะออกมาทางใด ส่งผลกระทบทางการเมืองแน่นอน เพราะมีรัฐบาลที่มี แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งเป็นลูกสาวของทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี รวมถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีไปประชุมที่ประเทศมาเลเซีย แต่นายกฯ มาเลเซียกล่าวชื่นชมทักษิณ ถือเป็นการข้ามหัว นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ทำให้อาจถูกมองว่า ทักษิณเป็นนายกฯ ตัวจริง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในรัฐบาล เรื่องนี้ทำให้กรรมาธิการเห็นว่า มีชนชั้นที่จะทำอะไรก็ได้ในการเลือกปฏิบัติ

 

เมื่อถามว่า วันที่ 13 มิถุนายนนี้ จะเห็นผลที่เป็นแรงกระเพื่อมทางการเมืองจะทำให้เห็นว่าทักษิณเสียเปรียบหรือได้เปรียบอย่างไรนั้น อังคณา กล่าวว่า ต้องรู้ว่าศาลสั่งออกมาอย่างไร และทักษิณจะให้การประสานหรือไม่ หรือจะป่วยหนักในวันนั้นหรือไม่ ถ้าหากยังเชื่อว่าอำนาจอธิปไตยศาลจะตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจของฝ่ายบริหารได้ ส่วนตัวหวังว่า ทักษิณจะไปศาล และชี้แจงเรื่องของการรักษาตัวชั้น 14 ซึ่งคนทั่วไปเชื่อว่าไม่ได้ป่วยจริง แม้นายกฯ จะยืนยันว่า ป่วยจริง ผลจากคำสั่งศาลในวันนั้น อาจทำให้ได้เห็นถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับชั้น 14

 

ส่วนผลของวันที่ 13 มิถุนายน จะกลับเพิ่มไปถึง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่นั้น อังคณา กล่าวว่า ต้องการที่จะรู้จุดมุ่งหมายของพรรคเพื่อไทยว่า ต้องการแค่นำทักษิณกลับ และนำยิ่งลักษณ์กลับ โดยที่ไม่ต้องติดคุก และยิ่งลักษณ์ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ แต่ไปรับปากเรื่องสวัสดิการให้กับประชาชน แต่สุดท้ายกลายเป็นว่า มีความต้องการแค่ให้คนในครอบครัวหรือไม่

 

อังคณา ยังกล่าวถึงการกล่าวปาฐกถาที่พิเศษที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ปปส.)ของทักษิณในวันนี้ว่า รู้สึกงงมาก จากการให้สัมภาษณ์ของเลขาธิการ ป.ป.ส. โดยอ้างอิงว่า ทักษิณประสบความสำเร็จในการปราบปรามยาเสพติด จึงแนะนำให้ไปอ่านรายงานของ คตน.ของ คณิต ณ นคร ที่มีรายงานการอุ้มหายเกี่ยวกับคดียาเสพติดกว่า 3,000 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่มีคนใดได้รับโทษ จึงต้องข้อสังเกตว่า เหตุใดเลขาป.ป.ส.ถึงมองว่า ทักษิณประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งเรื่องนี้ไทยถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติ

 

ส่วนการเชิญทักษิณแบบนี้ถือเป็นการข้ามหัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่ อังคณา กล่าวว่า ทุกคนมองเช่นนั้น โดยเฉพาะที่พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้เชิญทักษิณมาร่วมงาน อาจจะเป็นการเปิดทางให้พูดชี้แจงเรียกร้องความเห็นใจ ซึ่งสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันขณะนี้มีมาก จนทำให้เกิดการตั้งข้อสงสัยว่า นายกรัฐมนตรีจะรับมืออย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาสว. ปัญหาภายในของวุฒิสภา ที่ไม่กี่วันนี้จะต้องเลือกองค์กรอิสระ และเวลาเดินทางไปต่างประเทศก็มีทูตสอบถามเรื่องฮั้ว สว. ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นตั้งแต่ทักษิณกลับมาไทย จะดีลหรือไม่ดีลเชื่อว่า ทักษิณรู้อยู่แก่ใจ และปัญหาด้านเศรษฐกิจที่ค่อนข้างน่ากังวล ขณะเดียวกันปัญหาที่เกิดขึ้นนายกรัฐมนตรี ก็ตอบคำถามคล้ายไม่สนใจ เป็นการตอบโต้มากกว่าการชี้แจง และวันนี้ก็ยังไม่เห็นภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรีอย่างที่ควรจะเป็น อย่างวันนี้ที่ ทักษิณออกมาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเกี่ยวกับนโยบาย หรือปัญหาส่วนตัว และที่สำคัญทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นคือ นโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลให้คำมั่นตามที่หาเสียงไว้ เช่น การแจกเงินดิจิทัล ไม่ได้ทำเลย ขณะที่เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ก็ไม่คืบหน้า

 

อังคณา ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีเสียงเรียกร้องให้การประชุมวุฒิสภา สมัยวิสามัญ ในวันที่ 30 พ.ค. นี้ ชะลอการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบประวัติองค์กรอิสระ เพราะสมาชิกบางคนถูกกล่าวหาว่าฮั้วเลือก สว. ว่า พูดตรงๆ ในฐานะที่มีส่วนได้ส่วนเสีย เราตั้งข้อสงสัยว่าทุกครั้งที่มีการตั้งคณะกรรมการ ทำไมคณะ กมธ.พัฒนาการเมืองฯ สว. จึงไม่ถูกเลือกให้เข้าไปเป็นหนึ่งในกรรมการสรรหาองค์กรอิสระ ซึ่งเป็น กมธ.เดียวใน 21 คณะ ที่ไม่ได้เข้าไปเลยสักครั้ง และเราพูดมาตลอดว่าหลักการต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้บริสุทธิ์ เป็นสิ่งที่พูดก่อนจะมีรายชื่อ สว. ที่เป็นผู้ต้องสงสัย วันนี้เมื่อเปิดเผยรายชื่อออกมาแล้ว และมี สว.ไปรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่อย่างน้อยที่สุด สว.เหล่านี้ต้องพิจารณาตัวเอง คำนึงถึงเรื่องหลักจริยธรรม หากถามว่าผิดกฎหมายหรือไม่ มันไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดจริยธรรม แล้วถ้า สว.ไม่เลือกองค์กรอิสระก็ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีคนทำหน้าที่ เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่าหากกรรมการองค์กรอิสระหมดวาระ คืออายุ 70 ปี หากไม่สามารถสรรหาคนมาแทนได้ และไม่ครบองค์ประชุม รัฐธรรมนูญเปิดให้ประธานศาลฎีกาและประธานศาลปกครองสูงสุดแต่งตั้งบุคคลเข้ามาปฏิบัติหน้าที่แทนได้อยู่แล้ว จึงไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้

 

“ดิฉันยืนยันตลอดว่า ทุกคนต้องได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ช่วงที่เป็นผู้ถูกกล่าวหา โดยเฉพาะถูกกล่าวหาว่าเข้าไปเกี่ยวข้อง กับการได้มาซึ่ง สว.ที่ไม่ชอบธรรม ดิฉันคิดว่าเป็นสปิริต และเป็นจริยธรรมของแต่ละบุคคล ซึ่งคงจะมีการพูดเรื่องนี้ในที่ประชุม แต่ต้องดูก่อนว่าท่านประธานวุฒิสภาจะใจกว้างให้มีการถกแถลงเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน และอยู่ที่ สว.แต่ละคนด้วยว่าคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เพราะหากเลือกไปแล้ว สมมติว่าวันข้างหน้ามีการชี้ออกมาแล้วว่าใครที่ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง สว. แต่บุคคลเหล่านั้นเข้าไปเลือกองค์กรอิสระแล้ว จะเป็นโมฆะหรือไม่ ดิฉันคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง พูดตรงๆ อยู่ที่จิตสำนึกของความรับผิดชอบของแต่ละคน”

อังคณา กล่าว

 

อังคณา กล่าวต่อว่า ในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ค.) วิปวุฒิสภาจะมีการประชุม จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญขึ้นมาพิจารณาคุณสมบัติขององค์กรอิสระ แต่ดูแล้ว สว.ส่วนมาก อาจจะคำนึงถึงแค่ข้อกฎหมายและคงจะเดินไปข้างหน้าอย่างเดียว แต่หากย้อนกลับมาเรื่องจริยธรรมและความรับผิดชอบคิดว่ามีทางออกที่จะให้ สว.ทุกคน มีที่ยืนอย่างสง่างาม และคิดว่าการทำความจริงให้ปรากฎเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่ว่าไปดีลแล้วจบ โดยที่ไม่มีใครรู้ ไม่สามารถเปิดเผยข้อเท็จจริงได้ว่าผิดหรือถูก ก็จะทำให้การเมืองไทยถดถอยและเป็นอะไรที่ไม่มีเกียรติมีศักดิ์ศรีเลย

 

เมื่อถามว่า ล่าสุดมีคลิปเสียงที่เชื่อว่าเป็นการสัญญาว่าจะให้ในการจัดตั้งกลุ่มฮั้ว สว.ออกมา มองอย่างไร อังคณา กล่าวว่า ตอนนั้นเราเข้าไปนั่งในคูหาเลือกตั้ง เราไม่ได้ยินว่ามีการสัญญาว่าจะให้เงินหรือไม่ แต่ได้ยินว่ามีการแลกคะแนนกัน อังคณาชื่อขึ้นต้น อ. อยู่ท้ายๆ เลยเป็นที่จับตาของเจ้าหน้าที่ เวลาจะเดินเข้ามีเจ้าหน้าที่มาห้าม แต่ผู้สมัครหลายคนสามารถเดินไปมาได้ มองว่าเรื่อง สว. ไม่ควรมาถึงตรงนี้หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ


“ขนาด สส. 500 คน ยังสามารถออกใบเหลือง  ใบส้ม ใบแดงได้ แต่ สว.แค่ 200 คน ทำไม กกต.ถึงล่าช้า เป็นประเด็นสำคัญที่ทุกคนถาม แล้ว สว.ก็จะไปเลือก กกต. ป.ป.ช. อีก ดิฉันคิดว่าองค์กรอิสระที่เป็นรากฐานของสังคม มีการคัดสรรมาโดยที่อาจจะเป็นคนของใครหรือไม่ หรือทำเพื่อประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง นอกเหนือจากประโยชน์ของประชาชน ดิฉันคิดว่า เป็นกระบวนการที่เซาะกร่อนบ่อนทำลายสังคมไทยในอนาคตได้ เพราะ องค์กรอิสระอื่นอยู่ 7 ปี ป.ป.ช. อยู่ 9 ปี ซึ่งยาวนานมาก และ สว.หลายคนก็ไปร้อง ป.ป.ช. แล้ว สว.จะมาคัดเลือกอีก ดิฉันคิดว่าเป็นอะไรที่ไม่มีความสง่างาม จึงหวังว่าเพื่อน สว.จะใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบ ระมัดระวังในเรื่องนี้ และศักดิ์ศรีความเป็น สว.ก็อยู่ที่ว่าเราจะรับผิดชอบและมีจิตสำนึกต่อสังคมอย่างไร”

อังคณา กล่าว

ช่วงท้ายผู้สื่อข่าวได้แซวว่า อลงกต วรกี สว. ตัวตึง ก็ชื่อ อ. เหมือนกัน ยังเดินไปทั่วได้ อังคณา กล่าวทันทีว่า “คนละกลุ่ม เขาเดินไปเดินมา แต่ดิฉันนั่งยาวมาก ไม่ได้ไปไหนเลย” ก่อนจะหัวเราะ

 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์