อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ชี้แจงกรณีสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรียกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดี “ฮั้วเลือก สว.” โดยหนึ่งในนั้นมี พรเพิ่ม ทองศรี สว.กลุ่มที่ 13 จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพี่ชายของ ทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย หนึ่งในแกนนำคนสำคัญของพรรคภูมิใจไทย ว่า “เรื่องนี้ผมและพรรคภูมิใจไทยไม่เกี่ยว, ส่วน พรเพิ่ม กับ ทรงศักดิ์ เขาเป็นครอบครัวเดียวกัน อยู่ที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งการถูกรับทราบข้อกล่าวหาก็ขอให้เตรียมข้อมูลไป, คนที่เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย ที่ผมทราบก็มี นภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ ซึ่งได้ไปตามกำหนดการและให้ความร่วมมือทุกอย่าง”
ผมเห็นว่าทุกฝ่ายก็ให้ความร่วมมืออย่างดี และ กกต. ก็รับข้อมูลไปประกอบการพิจารณา แต่เรื่องของ สว. ย้ำว่าไม่เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากรับทราบข้อกล่าวหาของ นภินทร นั้น ได้มารายงานให้ทราบว่า ได้รับความร่วมมือและให้เกียรติกันเป็นอย่างดี เท่าที่ทราบก็มีแค่ นภินทร ส่วนคนอื่นยังไม่ได้รับรายงาน
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า นภินทร ได้ชี้แจงข้อกล่าวหาหรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวระบุว่าเป็นการแจ้งข้อกล่าวหาแบบกว้าง ๆ ? อนุทิน แสดงท่าทีพยักหน้าและตอบกลับว่า “กว้าง ๆ, ซึ่งมีการตอบคำถามเพียงแค่ 1-2 คำถามเท่านั้น แต่ผมจำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร”
ส่วนการ “กล่าวหา” เช่นนี้ จะมองว่าเป็นการกล่าวหาไปก่อนหรือไม่? อนุทิน กล่าวว่า “หากทุกฝ่ายทำทุกอย่างด้วยความเป็นธรรมและเจตนารมณ์ดี คนที่ชี้แจงก็ให้ความร่วมมือ อย่าไปดื้อ ประชด พูดกระแทกแดกดัน มันจะจบได้เร็ว ความจริงก็มีอยู่แค่นี้ ทุกอย่างจะพิสูจน์ได้ด้วยความจริงเท่านั้นเอง”
‘มท.’ มีความพร้อม! หากเกิดเหตุฉุกเฉินพื้นที่ชายแดน ‘ช่องบก’
นอกจากนี้ เมื่อถามถึงการเตรียมความพร้อมรับมือในการดูแลประชาชนหากเกิดเหตุฉุกเฉินในพื้นที่บริเวณชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี
รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้การดูแลความปลอดภัยประชาชนในเขตไทย ยืนยันว่าขณะนี้มีความพร้อม ทั้งเรื่องอาหาร ศูนย์อพยพ ยารักษาโรค และการประกาศให้ประชาชนออกมาอยู่บริเวณนอกเขตอันตราย ส่วนเรื่องการเจรจา การเตรียมความพร้อมกำลัง เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคง ทหาร กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนกระทรวงมหาดไทย จะใช้มิติของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในการช่วยประชาสัมพันธ์ โดยใช้เครือข่ายทั้งหมด จึงให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอยู่ในพื้นที่ตลอด