‘ทวี’ขู่ฟัน ‘ผู้ว่าฯอำนาจเจริญ’ ขวางสอบฮั้ว สว. โทษคุก 1-10 ปี
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยอ้างมีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอข่มขู่อดีตผู้สมัคร สว. ให้ยอมรับว่ามีการฮั้ว สว. เกิดขึ้น ว่า ได้รับรายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว พนักงานสอบสวนได้เดินทางไปตรวจสอบที่จังหวัดอำนาจเจริญ และพยานบุคคลกว่า 10 ปาก ซึ่งพยานให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ส่วนเรื่องหนังสือของผู้ว่าฯ นั้น กำลังตรวจสอบ เนื่องจากโดยหลักการสอบสวนคดีพิเศษ เรามีกฎหมายมาตรา 22 ถ้าเป็นคดีพิเศษผู้ว่ามีอำนาจในการสืบสวนสอบสวน หากมีการประสานงานไปต้องให้ความร่วมมือ ถ้าไม่ร่วมมือจะมีโทษที่เกี่ยวข้องจำคุก 1-10 ปี ซึ่งได้ให้อธิบดี ดีเอสไอ ใช้กฎหมายและข้อบังคับ เพราะที่ จ.อำนาจเจริญมีพยานกว่า 300 ปาก แต่ไม่จำเป็นต้องสอบทั้งหมด เนื่องจากได้หลักฐานที่เป็นพยานวัตถุ เทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์ สามารถย้อนกลับไปดูในที่เกิดเหตุได้ รวมถึงร่องรอยทางโทรศัพท์
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีอุปสรรคในการสืบสวนสอบสวน แต่ถ้ามีอุปสรรคก็ขอให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ใช้กฎหมายและข้อบังคับ ที่ออกในปี 2547 ดำเนินคดีได้ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด
ส่วนที่มีเจ้าหน้าที่ 3 คน ที่ลงพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ และถูกร้องเรียน เป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจริงหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ยอมรับว่า เป็นพนักงานสอบสวนของดีเอสไอจริง และได้รับความร่วมมือดี
เหตุใดผู้ว่าฯอำนาจเจริญ ถึงได้แจ้งว่ามีการข่มขู่พยาน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ยังไม่เคยแจ้งมาที่ตน หากผู้ว่าฯ พบการข่มขู่ ขอให้รายงานมาที่ตน อีกทั้งพนักงานสอบสวนของดีเอสไอลงพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ ตามคำเรียกร้องของพยาน ว่าถูกข่มขู่จากผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จึงอยากให้ดีเอสไอไปสอบปากคำ ขณะเดียวกันไม่มีเงินที่จะเดินทางมาที่ กทม.
สำหรับขั้นตอนคดีการฮั้วเลือก สว. จะเสร็จแล้วหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อยู่ในกระบวนการของพนักงานสอบสวน ตนไม่สามารถแทรกแซงได้ แต่ไม่มีปัญหาและอุปสรรค
คดีนี้ถูกมองว่าเป็นเรื่องการเมืองระหว่างพรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า ไม่มีเรื่องการเมือง ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน เพราะเรื่องเป็นคดีพิเศษก็ว่ากันไป ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน จะทำอะไรนอกเหนือกฎหมาย ข้อบังคับ และพยานหลักฐาน ไม่ได้ เช่นเดียวกันบุคคลจะมีอิทธิพลเหนือกฎหมายไม่ได้
ทางดีเอสไอเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา 138 สว. และอีก 2 สว. สำรอง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ต้องไปถามอธิบดีดีเอสไอ ซึ่งขณะนี้ก็ทำงานหนัก และให้คำนึงว่าเรื่องนี้ประชาชนให้ความสนใจ ขอให้ทุกขั้นตอนมีพยานค้ำยันทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงเส้นทางการเงิน และการใช้โทรศัพท์ติดต่อ ประกอบกับหลักและเหตุผล
เมื่อถามว่าจะมีโอกาสแจ้งข้อกล่าวหาภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ หลังครบ 2 เดือนแล้ว พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า มีรายงานว่ามาจะเร่งรัดตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม ก็รอดูอยู่ ทั้งนี้ตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องการสอบพยานมากนัก เพราะกลัวมีข้อครหาว่าการเมืองเข้าไปยุ่งเกี่ยว ส่วนการเรียกผู้ถูกกล่าวหามาให้ข้อมูลนั้น ก็ให้รอหมายเรียก ยังไม่แน่ชัดว่าจะทยอยออก หรือออกครั้งเดียว
การสอบสวนจะเชื่อมโยงไปยังนักการเมืองหรือไม่นั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า หากถึงใครก็ดำเนินการหมด ไม่มีละเว้นใคร
ก่อนหน้านี้มีชื่อรัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้อง ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เคยออกจากปากตน
‘อนุทิน’ ปัดตอบเอกสาร ‘ดีเอสไอ’ ส่ง กกต. เชื่อถือได้หรือไม่ ?
อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีผู้ว่าราชการอำนาจเจริญ ทำหนังสือลับแจ้งปลัด มหาดไทย พบกลุ่มบุคคลอ้างเป็นดีเอสไอ บังคับอดีตผู้สมัคร สว. 2 ราย ให้ยอมรับว่าฮั้วเลือกตั้ง สว. ว่า โดยปกติผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดต้องดูแลประชาชนอยู่แล้ว อะไรที่ผิดปกติท่านก็รายงานเข้ามามายังผู้บังคับบัญชา คือปลัดกระทรวงมหาดไทย จึงถือเป็นเรื่องปกติ และการรายงานของผู้ว่าราชการจังหวัดเรามีไลน์กลุ่มอยู่ วันๆ อ่านกันแทบไม่ไหว มีคดีนั้นคดีนี้หรือเหตุการณ์นั้นเหตุการณ์นี้ ก็มีรายงานเข้ามาตลอด เมื่อรายงานเข้ามาแล้วก็จะมีการพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร
ขณะนี้เพิ่งมีเพียงเคสเดียวคือกรณีของ จ.อำนาจเจริญใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เพิ่งได้เห็นจากข่าวเมื่อวานนี้ (5 พ.ค.)
ส่วนจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเอกสารพยานที่ ดีเอสไอ ส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะไม่ได้เกิดจากการบังคับมา อนุทิน กล่าวว่า ไม่ทราบเลย เพราะไม่ได้กำกับดูแลหน่วยงานนั้น ตอนอยู่กระทรวงมหาดไทย ทำแต่เรื่องบำบัดทุกข์บำรุงสุข