สูตร ‘แช่แข็งกลาโหม’
ปรับ ครม. ยุค ‘รบ.เพื่อไทย’ ตั้งแต่ ‘นายกฯ เศรษฐา’ มาถึง ‘นายกฯ แพทองธาร’ เก้าอี้ ‘รมว.กลาโหม’ กลายเป็น ‘เป้านิ่ง’ ถูกเขย่า ไม่ต่างจาก ‘กระทรวงใหญ่’ อื่นๆ เหตุจาก ‘เพื่อไทย’ ไม่แลนด์สไลด์ การจัด ครม. ต้องแบ่ง ‘โควต้าเชิงซ้อน’ ระหว่าง ‘พรรคร่วม รบ.’ และ ‘ก๊กในพรรค’ ที่หวังให้ สส. ขั้วตัวเอง ได้เก้าอี้ ‘รัฐมนตรี’
ในฝั่ง ‘เพื่อไทย’ ที่มี สส.อีสาน มากที่สุด แต่กลับได้ ‘รัฐมนตรี’ น้อยกว่าอัตราที่มี สส. ในมือ ทำให้โผ ครม. ที่ปรับแต่ละครั้งฝุ่นตลบ โยงมาถึงเก้าอี้ ‘รมว.กลาโหม’ ที่ในยุค ‘รบ.เศรษฐา ทวีสิน’ ตกเป็นของ ‘สุทิน คลังแสง’ สส.บัญชีรายชื่อ ‘บ้านใหญ่มหาสารคราม’ เป็นประวัติศาสตร์ที่ ‘พลเรือนคนแรก’ นั่ง รมว.กลาโหม แม้ว่าไม่ได้เป็น นายกฯ ตามมาด้วย ‘ภูมิธรรม เวชยชัย’ ในยุค ‘รบ.แพทองธาร ชินวัตร’
การปรับ ‘ครม.อิ๊งค์1/2’ ฝุ่นตลบที่เก้าอี้ รมว.กลาโหม ที่โยงมาจากเก้าอี้ รมว.มหาดไทย ที่สกัด ‘ภูมิธรรม’ แต่ด้วยพลังสายตรง ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’ ทำให้ ‘ภูมิธรรม’ เข้ายึด ‘มหาดไทย’ ได้ แม้จะมีการมองว่า ‘บิ๊กเล็ก’พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม จะได้ขึ้นเป็น รมว.กลาโหม หรือไม่ เพื่อไม่ต้อง ‘เปลี่ยนม้ากลางศึก’ ในการรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
ทว่ากลับเกิด ‘สูตรพิสดาร’ ชนิดที่สะเทือนไปทั้ง ‘กองทัพ’ ที่มีแนวคิด ‘แช่แข็ง’ เก้าอี้ รมว.กลาโหม ขึ้นมา โดยให้ พล.อ.ณัฐพล รักษาการ รมว.กลาโหม ไป 3 เดือน เพื่อรอให้ ‘บิ๊กแก้ว’พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ อดีต ผบ.ทหารสูงสุด ปลดล็อคพ้นเก้าอี้ สว. ที่เป็นโดยตำแหน่ง ผบ.เหล่าทัพ ครบ 2 ปี 30ก.ย.68 มารับตำแหน่งการเมืองได้
‘บิ๊กแก้ว’ น้องรัก ‘บิ๊กแดง’ - ดีลลับลังกาวี
สำหรับ พล.อ.เฉลิมพล เป็น ตท.21 จปร.32 เติบโตมาจากสาย ‘ทหารม้า’ จาก พล.ม.2 รอ. ซึ่ง ตท.21 หลายคนสนิทกับ ‘บิ๊กแดง’พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ. ที่จบ ตท.20 เป็น ‘ผบ.ทบ.ทหารคอแดง’ คนแรก ส่วน พล.อ.เฉลิมพล ก็เป็น ผบ.สูงสุด ที่เป็น ‘ทหารคอแดง’ คนแรก เช่นกัน
พล.อ.เฉลิมพล ได้ชื่อว่าเป็นทั้ง ‘เพื่อนรัก’ และ ‘น้องเลิฟ’ ของ พล.อ.อภิรัชต์ ที่สนับสนุนให้ขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ด้วย
แม้ในปัจจุบัน ผบ.ทบ. และ ผบ.ทหารสูงสุด จะไม่ได้เป็น ‘ทหารคอแดง’ แล้วก็ตาม ภายหลังมีการ ‘ปรับโครงสร้าง’ หน่วยทหารคอแดงฯ ไปเมื่อ 1 พ.ย.67
ทั้งนี้ พล.อ.เฉลิมพล เคยเป็น เจ้ากรมยุทธการ ทบ. ก่อนโยกเป็น รองเสธ.ทบ. และ ขึ้นเป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทบ. ติดยศ ‘พลเอก’ ก่อนโยกออก ทบ. มายัง บก.กองทัพไทย ขึ้นเป็น เสธ.ทหาร และขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ยาว 3 ปี
ย้อนไปเมื่อปี 2566 ปรากฏข่าวเที่ยวบิน ช่วง 5 พ.ค. และ 7 พ.ค. ที่มีชื่อ พล.อ.อภิรัชต์ และ พล.อ.เฉลิมพล บินไป ‘ลังกาวี’ ทำให้ทั้ง ‘บิ๊กแดง-บิ๊กแก้ว’ ถูกเชื่อมโยงกับ ‘ดีลลับลังกาวี’ ในการไปพบกับ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ หรือไม่ ? หากดูจากไทม์ไลน์จะพบว่า ‘ก่อนเลือกตั้ง’ 14พ.ค.66
ต่อมามีการออกมาให้ข่าวโดย ‘แหล่งข่าวระดับสูง’ ปฏิเสธกระแสข่าว ว่าไม่ได้ไปพบ ‘ทักษิณ’ แต่เป็นการเดินทางไปเพื่อแก้ปัญหา จ.ชายแดนภาคใต้ ที่ พล.อ.อภิรัชต์ มีคอนเนกชั่นส่วนตัว มีสายข่าวต่างๆ เพราะขณะเป็น ‘พันเอก’ เคยอยู่ในพื้นที่ จชต. ส่วน พล.อ.เฉลิมพล คอยติดตามปัญหา จชต. มาตลอด และทำงานร่วมกับ พล.อ.อภิรัชต์
ซึ่งในขณะนั้น พล.อ.อภิรัชต์ มี ‘ตำแหน่งสำคัญ’ จึงไม่สามารถออกมาชี้แจงอย่างเป็นทางการด้วยตัวเอง ส่วน พล.อ.เฉลิมพล ในขณะนั้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด
ดังนั้นการปรากฏชื่อ พล.อ.เฉลิมพล ขึ้นมา ทำให้คำว่า ‘ดีลลังกาวี’ ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง ที่ถูกเชื่อมโยงไปในมิติการเมืองว่า ‘ดีลข้ามขั้ว’ ยังคงถูก ‘ประคอง’ ต่อไปหรือไม่?
โยงประคอง ‘ดีลข้ามขั้ว’
หนึ่งในสิ่งชี้ชัดคือ ‘พรรคร่วมไทยสร้างชาติ’ ยังคง ‘ร่วมรัฐบาล’ ต่อไป ที่มี ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ เป็น หัวหน้า รทสช. ถึงขั้น รทสช. ต้อง ‘กลับลำ’ เพราะเคยมีมติตั้งเงื่อนไข ‘เปลี่ยนนายกฯ’ เพื่อร่วมรัฐบาล ด้วยในวงประชุม รทสช. มีการวิเคราะห์สถานการณ์หาก นายกฯ ‘ยุบสภา’ ก็จะทำให้ ‘พรรคประชาชน’ ชนะเลือกตั้ง
ดังนั้นการรักษา ‘ดีลข้ามขั้ว’ ระหว่าง ‘เพื่อไทย-อนุรักษนิยม’ ก็เพื่อสกัด ‘พรรค ปชน.’ ไว้ก่อน
ย้อนความสัมพันธ์ ‘พีระพันธุ์-บิ๊กแดง’ต่างเป็น ‘ลูกบิ๊กทหาร’ และรู้จักกันมาตั้งแต่เรียน ‘ร.ร.เซนต์คาเบรียล’ ที่สำคัญ พล.อ.อภิรัชต์ คือผู้เสนอชื่อ ‘พีระพันธุ์’ ให้มาทำงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยได้รับแต่งตั้งเป็น ‘ที่ปรึกษานายกฯ’ ก่อนมาเป็น หัวหน้า รทสช.
คีย์แมน ‘แผนจักรพงษ์ภูวนาถ’
อย่างไรก็ตาม พล.อ.เฉลิมพล ไม่ได้เติบโตมาแค่ ‘สายบู้’ แต่เป็น ‘สายบุ๋น’ ด้วย เพราะสมัยเป็น ‘พันเอก’ เคยไปโตที่ ‘กรมยุทธการ ทบ.’ ในหลายตำแหน่ง ที่สำคัญเป็น ‘คีย์แมน’ เขียน ‘แผนจักรพงษ์ภูวนาถ’ ในศึกเขาพระวิหาร ปี2554 ดังนั้น พล.อ.เฉลิมพล จึงเคยผ่านศึกระหว่างไทย-กัมพูชา มาก่อน
อีกทั้งในช่วงปี 2563 ขณะเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ช่วงโควิดระบาด ก็ทำงานเคียงข้าง ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในขณะนั้น หลังได้รับแต่งตั้งเป็น หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ด้วย
นับจาก ต.ค.66 ที่ พล.อ.เฉลิมพล เกษียณฯ ก็เก็บตัวเงียบ-โลว์โปร์ไฟล์ จนมาปรากฏเป็นข่าว เข้าสู่สนามการเมือง รมว.กลาโหม อีก 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งต้องจับตาว่า ‘รบ.เพื่อไทย-นายกฯอิ๊งค์’ จะอยู่ถึงหรือไม่ หากอยู่ถึงก็เท่ากับว่าจะมีการ ‘ปรับ ครม.’ อีกครั้ง ทั้งหมดนี้ต้องรอดูว่า ‘ครม.อิ๊งค์1/2’ จะเป็นไปตามนี้หรือไม่
อนาคตไม่มีความแน่นอนใดๆ !!