อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซียออกแถลงการณ์เรียกร้องให้กัมพูชาและไทยใช้ความยับยั้งชั่งใจและแสวงหาทางออกอย่างสันติสำหรับความขัดแย้งชายแดนที่เป็นอยู่ตอนนี้ โดยยึดหลักการของอาเซียน
ในฐานะประธานอาเซียน อันวาร์เผยว่า เขาได้หารือกับนายกฯ ฮุนมาเนต และนายกฯ แพทองธาร ชินวัตรแล้ว “ผมได้พูดคุยกับนายกฯ ของไทยและกัมพูชา เพื่อแสดงความขอบคุณต่อความมุ่งมั่นของทั้งสองฝ่ายในการแก้ไขปัญหาชายแดนที่กำลังดำเนินอยู่ผ่านการเจรจาและช่องทางการทูต”
อันวาร์บอกด้วยว่า “มาเลเซียให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับทั้งสองประเทศ และขอให้ทั้งสองฝ่ายลดความตึงเครียด พร้อมร่วมมือกันหาทางออกอย่างสันติ” เขาแสดงความมั่นใจว่าหลักการของอาเซียนจะเป็นแนวทางสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้
“ผมมั่นใจว่าจิตวิญญาณแห่งความร่วมมือในภูมิภาคและหลักการของอาเซียนในการแก้ไขข้อพิพาทอย่างสันติจะเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งในการจัดการกับความขัดแย้งใดๆ” อันวาร์ กล่าว
หนังสือพิมพ์ The Star ของมาเลเซียรายงานว่า อันวาร์เดินทางถึงกรุงเทพฯ เพื่อหารือกับนายกฯ แพทองธารอย่างเร่งด่วนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา
ขณะที่นายกฯ ฮุนมาเนตออกแถลงการณ์ยืนยันกับนายกฯ มาเลเซียอีกครั้งว่า “กัมพูชาจะรักษาความสัมพันธ์กับไทยผ่านกลไกที่มีอยู่ทั้งหมด เพื่อประโยชน์ร่วมกันของประชาชนทั้งสองประเทศ เป้าหมายคือการแสวงหาทางออกสำหรับข้อพิพาทโดยเร็ว ด้วยวิธีที่สันติ และยั่งยืน โดยหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนในระยะยาวและความขัดแย้งทางอาวุธที่อาจเกิดขึ้น”
อย่างไรก็ดี การแทรกแซงทางการทูตของอันวาร์นั้นเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่ เตีย เซ็ยฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชาพบกับ ภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย ที่จังหวัดสระแก้วของประเทศไทย โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะลดความตึงเครียดและรักษาช่องทางการสื่อสารเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุปะทะเพิ่มเติม
แม้ว่า เตีย เซ็ยฮา จะปฏิเสธคำขอของภูมิธรรมที่จะถอนทหารกัมพูชาออกจากจุดปะทะล่าสุดที่บริเวณมอมเบย แต่รัฐมนตรีกลาโหมทั้งสองก็ตกลงที่จะใช้กลไกที่มีอยู่ เช่น คณะกรรมการชายแดนทั่วไป, คณะกรรมการพรมแดนร่วม (JBC), และคณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาค เพื่อจัดการกับพื้นที่พิพาทอื่นๆ ต่อไป
กัมพูชามีกำหนดจัดการประชุม JBC กับไทยในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ที่กรุงพนมเปญ แต่ได้แจ้งว่า 4 พื้นที่ที่มีความอ่อนไหว ได้แก่ บริเวณบอมเบย, ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาเมือนโตช และปราสาทตาควาย จะไม่ถูกรวมไว้ในวาระการประชุมครั้งนี้ เนื่องจากกัมพูชาได้ยื่นเรื่องข้อพิพาทเหล่านี้ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือศาลโลกที่กรุงเฮกแล้ว
(Photo by MOHD RASFAN / POOL / AFP)