กลายเป็นมหากาพย์แชตหลุดสะเทือนทำเนียบขาว หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯ เผลอดึงนักข่าวเข้ากลุ่มแชทโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมาซึ่งมีการพูดถึงแผนการโจมตีกลุ่มกบฏฮูษี ท่ามกลางการตั้งคำถามถึงความประมาทหละหลวมในการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงมาตรการความปลอดภัยในการรักษาข้อมูลลับที่อาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศ
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นหลังจากที่ เจฟฟรี่ย์ โกลด์เบิร์ก นักข่าวจากสำนักข่าว Atlantic ถูกดึงเข้ากลุ่มแอปฯ ส่งข้อความ ‘Signal’ ซึ่งมี เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดี และ พีต เฮกเซท รัฐมนตรีกลาโหม รวมอยู่ด้วย
ก่อนหน้านี้โกลด์เบิร์กเผยแพร่ข้อความแค่บางส่วนเท่านั้น แต่เมื่อวันพุธ (26 มี.ค.) เขาก็ตัดสินใจเผยแพร่บทสนทนาเกือบทั้งหมดลงในบทความของ Atlantic หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงยืนกรานว่าไม่มีการแชร์ข้อมูลลับใดๆ ในกลุ่มดังกล่าว “คำกล่าวเหล่านี้ทำให้เราเชื่อว่าผู้คนควรดูข้อความเหล่านี้เพื่อที่จะสรุปผลด้วยตัวเอง” โกลด์เบิร์ก เขียน
SPACEBAR พาไปดูว่ามีอะไรหลุดออกมาบ้าง...
\- เวลาโจมตีเยเมน -
“12.15 : ปล่อย F-18 (โจมตี ‘package’ ครั้งแรก)
13.45 : โจมตี F-18 เริ่มต้นขึ้น (เป้าหมายผู้ก่อการร้ายอยู่ตำแหน่งที่ทราบ ดังนั้นควรจะโจมตีตรงเวลา – เริ่มโจมตีด้วยโดรน ‘MQ-9’
14.10 : ยิง F-18 เพิ่ม (โจมตี ‘package’ ครั้งที่ 2)”
14.15 : โจมตีโดรนให้ตรงเป้าหมาย (นี่คือเวลาที่ระเบิดลูกแรกจะตกลงมาอย่างแน่นอน ขึ้นอยู่กับเป้าหมาย ‘Trigger Based’ ก่อนหน้านี้)”
...
ข้อมูลนี้ถือเป็นข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนสูง ฟิลิป อิงแกรม อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองทางทหารของกองทัพอังกฤษบอกกับสำนักข่าว BBC ว่า “ข้อมูลที่คล้ายคลึงกันนี้จัดอยู่ในประเภท ‘ข้อมูลลับสุดยอด’”
หลังจากเปิดเผยการสนทนาดังกล่าว ทำเนียบขาวและเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายอื่นก็ออกมาโต้แย้งว่าข้อมูลนี้ไม่ถือเป็น ‘แผนการสงคราม’
เฮกเซทโพสต์บน X ว่า “Atlantic เปิดเผยสิ่งที่เรียกว่า ‘แผนการสงคราม’ โดยที่แผนการดังกล่าวประกอบไปด้วย : ไม่มีชื่อ ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีสถานที่ ไม่มีหน่วย ไม่มีเส้นทาง ไม่มีแหล่งที่มา ไม่มีวิธีการ”
\- อัปเดตการโจมตี -
“JV (เจดี แวนซ์) : ผมภาวนาเพื่อชัยชนะ
...
JV (เจดี แวนซ์) : เยี่ยมมาก
JR (จอห์น แรคคลิฟฟ์) : เริ่มต้นได้ดี”
...
จากข้อความในแชท ไมค์ วอลท์ซ ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติให้ข้อมูลอัปเดตการโจมตี ซึ่งในภาษาทหารเรียกว่า ‘การประเมินความเสียหายจากการสู้รบ’ หรือ ‘BDA’
วอลท์ซตั้งข้อสังเกตว่าอาคารเป้าหมายพังทลายลงมา และก่อนหน้านี้กองทัพสหรัฐฯ ได้ระบุตัวเป้าหมายได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็น ‘คนยิงขีปนาวุธ’ ของกลุ่มฮูษี ที่เดินเข้าไปในอาคาร โดยเชื่อกันว่าเป็นบ้านพักของแฟนสาวของเขา
การโจมตีในครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 53 รายจากการโจมตีทางอากาศครั้งแรกของสหรัฐฯ ต่อเป้าหมายกลุ่มฮูษีในเยเมน ซึ่งโจมตีเป้าหมายมากกว่า 30 แห่ง ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ฝึกอบรม โครงสร้างพื้นฐานด้านโดรน สถานที่ผลิตและจัดเก็บอาวุธ รวมถึงศูนย์ควบคุมและสั่งการ
แต่ไม่ชัดเจนว่า วอลท์ซอ้างถึงเป้าหมายใดในแชทกลุ่ม
\- กิจกรรมข่าวกรอง (CIA) ในเยเมนรั่วไหล -
บทสนทนาระหว่าง โจ เคนท์ ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติ และ จอห์น แรคคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลาง
เคนท์บอกว่า กองทหารอิสราเอลโจมตีเป้าหมายกลุ่มฮูษีในเยเมนซ้ำแล้วซ้ำเล่านับตั้งแต่เริ่มต้นสงครามในฉนวนกาซา เพื่อตอบโต้การโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนของกลุ่มฮูษีต่อเป้าหมายของอิสราเอลที่ดำเนินการเพื่อสนับสนุนกลุ่มฮามาส โดยการโจมตีล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 และ 26 ธันวาคมของปีที่แล้ว
เคนท์กล่าวในแชทว่า : “รัฐบาลอิสราเอลจะพยายามเติมเต็มคลังอาวุธที่ใช้ในการโจมตีครั้งต่อไป” แม้ว่าเขาเชื่อว่านั่นเป็นเพียงปัจจัยรองก็ตาม
ขณะที่ แรทคลิฟฟ์บอกว่า : “สหรัฐฯ กำลัง ‘ระดมทรัพยากร’ เพื่อช่วยโจมตี แต่ความล่าช้าจะไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อการทำงานของหน่วยงานในเยเมน”
‘ทรัพยากร’ ในบริบทนี้อาจหมายถึงสายลับที่ดำเนินการโดย CIA บนพื้นที่ในเยเมน หรือหมายถึงวิธีการทางเทคโนโลยี เช่น เที่ยวบินโดรนเพื่อการเฝ้าระวัง
ไมเคิล แพทริก มัลรอย อดีตรองผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมและอดีตเจ้าหน้าที่กึ่งทหารของซีไอเอ กล่าวว่า “ข้อความของแรทคลิฟฟ์มีความละเอียดอ่อนมาก โดยพื้นฐานแล้ว เราไม่อยากแชร์ว่า CIA มุ่งเน้นไปที่อะไร”
แต่แรทคลิฟฟ์ปฏิเสธเมื่อวันพุธว่าเขาไม่ได้ส่งข้อมูลลับ...
(Photo by WIN MCNAMEE / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / Getty Images via AFP)