แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย ได้ชี้แจงกรณี คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน (ส่วนกลาง) คณะที่ 26 เชิญ หัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย ไปชี้แจงนำข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการฮั้ว สว. ในวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย.) ว่า หัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย พร้อมจะให้ความร่วมมือไปชี้แจงนำข้อกล่าวหาตามที่ได้รับเชิญและขอยืนยันอีกซ้ำอีกครั้งว่า หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย และสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ทุกท่าน ได้ดำเนินไปอย่างซื่อสัตย์ ยึดมั่นต่อระบอบการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญที่ถูกกล่าวหาดังต่อไปนี้
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับประกาศพรรคภูมิใจไทยให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ผู้มีอำนาจแทนพรรคเมื่อสมัครเป็นสมาชิกแนวทางรัฐธรรมนูญภูมิใจไทย กำหนดไว้ว่า ที่เป็นการดำเนินงานประกอบรัฐธรรมนูญต้องกระทำได้จึงส่งสมาชิกผู้สมัคร ส.ว.2561 และ ทุกคนที่อยู่เกี่ยวข้อง เป็นการแสดงเจตจำนงของหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งสมาชิกทุกท่าน ได้ปฏิบัติตามแนวทางของหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อย่างเคร่งครัด
พรรคภูมิใจไทย ขอเรียนชี้แจงข้อกล่าวหาที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง แจ้งต่อหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค มี 4 ประเด็น คือ
- เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ
- จ่ายเงินสดให้เป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา
- จัดทำใบยืนยันเลือกสมาชิกวุฒิสภา
- ให้ผู้สมัครเลือกสมาชิกวุฒิสภา ที่ผ่านการเลือกตั้งจังหวัด เขียนใบลาออกล่วงหน้า ไม่ลงวันที่ ส่งให้เจ้าหน้าที่ที่สำนักงานพรรคภูมิใจไทย
โดยทั้ง 4 ประเด็นนี้ ทำให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภา ไม่สุจริตและเที่ยงธรรมที่ยึดหลักการพื้นฐานการปกครองระบบประชาธิปไตยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
พร้อมระบุว่า การแจ้งข้อกล่าวหาจะกระทบต่อหลัก ขัดต่อหลักการพื้นฐานการปกครองระบอบประชาธิปไตยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่หัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย ยึดมั่น และเคารพเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ซึ่ง หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค ทุกท่าน ที่ถูกกล่าวหาจะใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย เพื่อปกป้องและรักษาเกียรติของตนเอง ต่อไป
พรรคภูมิใจไทย ขอเรียนว่าหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค ทุกท่าน ได้รับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหามีเป็นข้อกล่าวหาจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่แตกต่างจากการแจ้งข้อกล่าวหาครั้งก่อนๆ ในการเลือกตั้งทุกระดับที่ผ่านมา ซึ่งจะมีการระบุพฤติกรรมการกระทำความผิดตามข้อกล่าวหาอย่างชัดเจน ว่า บุคคลใด ชื่อ นามสกุล กระทำผิดอย่างไร วันเดือนปี และสถานที่ แต่การแจ้งข้อกล่าวหาครั้งนี้ ไม่มีรายละเอียด และไม่มีพยานหลักฐานประกอบข้อกล่าวหา
พรรคภูมิใจไทย มีข้อสังเกตว่าการแจ้งข้อกล่าวหาต่อหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค ครั้งนี้ มีเนื้อหาใกล้เคียงกับเนื้อหาที่ พล.ต.ต.คำรณ ปัญญาแก้ว อดีต ส.ว.สำรอง และ นายณฐพร โตประยูร เคยร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ คณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะรัฐธรรมนูญ และปปช. โดยทั้งสองท่าน ให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชนหลายครั้งว่า ได้รับข้อมูลจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 มีพนักงานสอบสวน ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ จำนวน 3 ท่านร่วมอยู่ด้วย
ประกอบกับการดำเนินการของพนักงานสอบสวน คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 มีพฤติกรรมที่แปลก และแตกต่างจากมาตรฐานการดำเนินงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ผ่านมา จึงขอตั้งสังเกตว่า การประชุมและการดำเนินการสืบสวนและไต่สวนของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ถูกชี้นำ หรือครอบงำโดยพนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ใช่หรือไม่
โฆษกพรรคภูมิใจไทย ย้ำว่า สิ่งที่เกิดขึ้นหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย ในขณะนี้ เป็นไปตามแนวทางยุทธศาสตร์ภูมิใจไทย ของคนไทยที่สนับสนุนพรรคภูมิใจไทย สังเกตได้จากการแจ้งข้อกล่าวหา หัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค ทุกท่าน ที่กระทำด้วยมโนธรรมอันดีงาม โดยมีกฎหมายกำหนดให้ต้องแจ้ง ทั้งบุคคลที่ได้เคยแสดงความคิดเห็น และบุคคลที่ยังมีข้อเคลือบแคลงใจ ซึ่งหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย ทุกท่าน จะใช้สิทธิ์ชี้แจงและต่อสู้ตามกฎหมาย ด้วยความเชื่อในหลักนิติรัฐ เพื่อปกป้องสิทธิและรักษาเกียรติภูมิของพรรคภูมิใจไทย
ทั้งนี้ โฆษกพรรคภูมิใจไทย ยัง ตั้งข้อสังเกตว่าการกล่าวหาพรรคภูมิใจไทยในประเด็นนี้ อาจเป็นเกมการเมืองที่มุ่งหวังให้มีการยุบพรรคภูมิใจไทย โดยตั้งข้อสังเกตจากการที่คนที่ถูกออกหมายเรียก ล้วนเป็นกรรมการบริหารพรรค ส่วนกระแสข่าวว่ามีแกนนำอักษรย่อ น. ถูกหมายเรียกให้เข้าชี้แจงต่อ กกต. โดยมีการคาดการว่าเป็นเธอ โฆษกพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะเธอไม่รับหมายเรียกแต่อย่างใด
ส่วนหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคภูมิใจไทยที่ถูกออกหมายเรียกจะเข้าชี้แจงต่อ กกต. เมื่อไหร่นั้น โฆษกพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า ยังไม่ทราบ แต่เบื้องต้นทีมกฎหมายได้ทำหนังสื่อขอเลื่อนวันชี้แจงไปยัง กกต. แล้ว ส่วนจะเป็นวันใดนั้นขึ้นอยู่กับ กกต. เป็นผู้พิจารณา
