‘ภูมิใจไทย’ ลั่น​อย่าโยงปลุกม็อบ-ปล่อยคลิป​ ‘อังเคิลฮุน’ ย้อนใครกันแน่ซุกทรัพย์สิน

24 มิ.ย. 2568 - 11:59

  • ‘ภูมิใจไทย’ ลั่น​อย่าโยงปลุกม็อบ-ปล่อยคลิป​ ‘อังเคิลฮุน’ แจงไม่มี​ ‘สส.-หัวหน้าพรรค-เนวิน’ ซุกธุรกิจ-ทรัพย์สิน​ ในกัมพูชา​ ย้อนถามใครกันแน่ที่มีทรัพย์สิน​ ซุกไว้

  • ‘พิพัฒน์’ ปัดยก สส. ใต้ภูมิใจไทย ซบพรรคอื่น ซัด รังเกียจคนปลุกกระแสหวังสร้างความแตกแยกของพรรค ลั่นไม่ไปไหนอายุมากแล้ว ขอรักษาชื่อเสียงไว้จุดนี้

‘ภูมิใจไทย’ ลั่น​อย่าโยงปลุกม็อบ-ปล่อยคลิป​ ‘อังเคิลฮุน’ ย้อนใครกันแน่ซุกทรัพย์สิน

ที่พรรคภูมิใจไทย แนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงถึงกรณีมีการใส่ร้ายป้ายสีพรรคภูมิใจไทย​ อยู่เบื้องหลังการจัดตั้งม็อบ ว่า​ ตอนนี้​เกือบ 77 จังหวัด​ ที่ประกาศจัดม็อบ เพราะฉะนั้นอย่าพยายามดูถูกพลังความรักชาติของประชาชนชาวไทย​ ที่เขาต้องการแสดงออก​ กับการไม่เห็นด้วยในการปฏิบัติตัวของนายกรัฐมนตรี​ เพราะฉะนั้น​ที่จะให้เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย​ เราปฏิเสธอย่างชัดเจนว่า​ ไม่จริงและไม่ใช่ เราพร้อมจะทำหน้าที่​ ในรัฐสภาอย่างเต็มที่

ส่วนที่มีการกล่าวหาที่รุนแรงว่าหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย​ มีทรัพย์สินอยู่ที่ประเทศกัมพูชา​ แนน บุณย์ธิดา​ กล่าวยืนยันว่า​ ไม่มีเราได้พูดคุยกับทางสมาชิกและหัวหน้าพรรคแล้ว เราไม่เคยมีกิจการ ไม่เคยมีทรัพย์สินใดๆ อยู่ที่ประเทศกัมพูชา เราพร้อมให้ตรวจสอบ และขอเรียกร้อง ว่า​ ท่านใดก็ตามแต่ที่ปล่อยข่าว ​รีบปล่อยออกมาเถอะว่าใคร ใครกันแน่ที่มีทรัพย์สิน​ เอาไปฝาก เอาไปซุก เอาไปซ่อนอยู่ที่นั่น​ การที่จะใช้โซเชียลมีเดียกล่าวหาคนนั้นคนนี้ต้องมีหลักฐาน ส่วนที่มีการกล่าวหาว่า​ พรรคภูมิใจไทย​ เป็นคนปล่อยคลิป ระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายฮุนเซน​ ​ยืนยันว่า​ ไม่เป็นความจริงเช่นกัน

“ที่สำคัญที่สุดที่ทำให้พวกเราชาวไทยรู้สึกแบบไหน และไม่เห็นต้องแปลกใจเลยว่าคนปล่อยคลิปไม่ใช่เรา เพราะทุกท่านเห็นอยู่แล้วว่าใครกันแน่เป็นคนปล่อยคลิปกันแน่ อังเคิลของท่านนั่นแหละ เพราะฉะนั้นอย่าลากพรรคภูมิใจไทยไปเกี่ยว​ เรามีศักดิ์ศรีของเรา ถ้าเราหวงผลประโยชน์​ เราคงไม่ลาออกทุกตำแหน่ง ขณะนี้หน้าที่ 69 สส.ของเรายังคงอยู่”

ขณะที่ ไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ยืนยันด้วยว่า ไม่ว่าจะตนหรือครอบครัวของตน​หรือที่หลายท่านเรียกว่าผู้นำทางจิตวิญญาณ พ่อของตนเองไม่มีแน่นอน ใครที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่จะมีธุรกิจทรัพย์สินหรือผลประโยชน์แอบแฝงอยู่กับประเทศเพื่อนบ้าน ตรงนี้​ยืนยัน และไม่ว่าจะมีการปล่อยคลิปปล่อยข่าวจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างไร ยืนยันว่า​ พวกตนไม่มี​ เพราะฉะนั้นหากมีข่าวที่บอกเป็นอย่างอื่นได้เลย​ ตามสบายไม่ใช่ของพวกตนแน่นอน

ส่วนการทำหน้าที่ฝ่ายค้านของพรรคภูมิใจไทยนายไชยชนก​ กล่าวว่า​ ตนมีประสบการณ์เป็นฝ่ายค้านเป็นศูนย์ แต่ในการประชุมพรรค​ มีการแชร์ประสบการณ์​ แต่ไม่ได้เป็นรัฐบาลชีวิตเป็นอย่างไร ทำให้ตนได้คำตอบ ว่า​ วิธีการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน​ ของพวกเรา​ ก็จะเป็นตัวเราเองแบบนี้ไม่ได้ดูต้นแบบจากคนอื่น​ ไม่ได้ดูว่าต้องทำแบบไหน​ แต่จะเป็นแบบนี้ด้วยความภาคภูมิใจ

ไชยชนก ยังฝากด้วยว่า ปัจจุบันสถานการณ์หลายสิ่งหลายอย่างไม่แน่นอนดุเดือดขึ้นเรื่อยเรื่อยทั้งเรื่องการเมือง และปัญหาต่างๆของประเทศ วันนี้สิ่งหนึ่งที่ดุเดือดขึ้นด้วยคือเวทีสงครามการสื่อสาร จึงอยากฝากถึงพี่น้องประชาชน​ ว่า​ เวลานี้เป็นช่วงที่สำคัญที่ประเทศชาติต้องการสติของพวกท่านมากที่สุดในเวลานี้ อยากให้ทุกท่านประเมินข้อมูลทุกสถานการณ์อย่างรอบคอบ ไม่อยากให้มองแค่สิ่งที่ถูกพูด หรือประกาศแม้แต่กระทั่งพรรคตนเองแต่อยากให้ตัดสินใจจากการกระทำ ไม่ว่าจะรัฐบาลชุดใหม่รัฐบาลชุดเก่าหรือพรรคอื่นๆที่ไม่ได้อยู่ในรัฐบาลก็ตาม เวลานี้อยากให้พวกท่านตั้งใจดูตัดสินใจจากการกระทำ

  • ‘พิพัฒน์’ ปัดยก สส. ใต้ภูมิใจไทย ซบพรรคอื่น ซัด รังเกียจคนปลุกกระแสหวังสร้างความแตกแยกของพรรค ลั่นไม่ไปไหนอายุมากแล้ว ขอรักษาชื่อเสียงไว้จุดนี้

ขณะที่ พิพัฒน์ รัชกิจประการ แกนนำภาคใต้พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาปรากฎข่าวว่าตนจะนำสส.ภาคใต้ ไปร่วมงานกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่น โดยมีผู้ใหญ่จากพรรคการเมืองหนึ่งโทรศัพท์ติดต่อมาให้ถอยจากพรรคภูมิใจไทย ว่า ขอยืนยันว่ายังไม่เคยมีใครโทรมาหาตนเลยแม้แต่ท่านเดียว ดังนั้น อะไรก็แล้วแต่ที่มีการปั่นกระแสอยู่ในขณะนี้ตนขอปฏิเสธ

พร้อมระบุว่า การที่ตนได้มานั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีสมัยที่สอง เมื่อเข้ามาทำงานทางการเมืองแล้วสิ่งที่ตั้งใจไว้ คือทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะฉะนั้น ตลอดระยะเวลาที่อยู่ร่วมกับรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ตนก็ทำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง และพอมาอยู่ร่วมกับรัฐบาลที่ผ่านมา ตนก็มั่นใจว่าได้ทำหน้าที่ในส่วนของตนอย่างเต็มกำลังเช่นกัน

จึงขอพูดอย่างตรงไปตรงมาว่าตนรังเกียจการที่มีบุคคลใดบุคคลหนึ่งปั่นกระแส เพื่อให้พรรคภูมิใจไทยแตกแยกกัน จึงฝากไปถึงเพื่อนพี่น้องคนไทยทุกๆคนว่า ตนชัดเจนว่าเราไม่ใช่มาพร้อมเพื่อนแล้วสละเรือเสร็จแล้วจะไปแทงหลังเพื่อน ตนอายุมากแล้วปัจจุบันอายุ 70 ปีแล้ว คงจะโลดแล่นทางการเมืองอีกไม่นาน จึงเลือกที่จะรักษาชื่อเสียงของตนเองไว้ในจุดยืนตรงนี้

“ผมนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ขอยืนยันว่าเราอยู่พรรคภูมิใจไทย และไม่มีบุคคลใดบุคคลหนึ่งในพรรคอื่นโทรมาหาผมตามที่ปรากฎในสื่อโซเชียลฯ”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์