Bitget คาดราคาบิตคอยน์ระยะยาวยังแข็งแกร่งแนวโน้มสามารถฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง แม้ระยะสั้นนักลงทุนเทขายเพื่อลดความเสี่ยงจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน แต่แรงซื้อของนักลงทุนสถาบันผ่าน Bitcoin ETF ยังคงเติบโต ยังคงเป้าหมาย 120,000 ดอลลาร์ในไตรมาส 3 แนะจับตาการเข้า IPO ของ Circle บริษัทผลิต Stablecoin จะเป็นแรงหนุนให้กับตลาดคริปโทในระยะยาว
เกรซี่ เฉิน (Gracy Chen) กรรมการผู้จัดการของ บิตเก็ต (Bitget) แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีและบริษัท Web3 ชั้นนำของโลก เปิดเผยว่าการปรับตัวลงล่าสุดของบิตคอยน์มาจากการลดความเสี่ยงซึ่งเกิดจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ปะทุขึ้นอีกครั้ง หลังอิสราเอลโจมตีทางอากาศใส่อิหร่าน นักลงทุนจึงหันไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยแบบดั้งเดิม เช่น ทองคำและพันธบัตร สร้างความระมัดระวังในระยะสั้นในตลาดคริปโท
แม้ราคาจะลดลง แต่กระแสเงินลงทุนไหลเข้ากองทุน Bitcoin ETF ยังคงแข็งแกร่ง แสดงถึงความเชื่อมั่นของสถาบันที่ยังคงอยู่ เป็นสัญญาณว่าภาพรวมเชิงโครงสร้างของตลาดคริปโทยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงและมองว่าจะมีโอกาสฟื้นตัวกลับได้หลังจากนี้
“หากไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเพิ่มเติม คาดว่าราคาบิตคอยน์จะเคลื่อนไหวในกรอบราคา102,000-110,000 ดอลลาร์สหรัฐ และยังไม่ปรับเป้าหมายราคา 120,000 ดอลลาร์ ในไตรมาสที่สามนี้” เกรซี่ เฉิน
ทั้งนี้ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมามีเหตุการณ์ที่น่าจับตาคือ บริษัท Circle ผู้ผลิตเหรียญ Stablecoin อย่าง USDC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กซึ่งราคาหุ้นพุ่งขึ้นเกือบ 170% ในวันแรก แสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ Stablecoin ภายใต้การกำกับดูแลอย่างชัดเจน ด้วยการสนับสนุนจากสถาบันการเงินรายใหญ่ และแรงส่งจากกฎหมายสนับสนุนต่างๆ เช่น GENIUS Act และ Digital Commodity Exchange Act เหตุการณ์นี้นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ยกระดับ Stablecoin จากเครื่องมือเฉพาะกลุ่ม สู่การเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของระบบการเงิน
การ IPO ครั้งนี้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า Stablecoin กำลังได้รับการยอมรับอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดึงดูดความสนใจจากสถาบัน และเสริมบทบาทในด้านการชำระเงินทั่วโลกและใน DeFi และจะเป็นแรงหนุนต่อตลาดคริปโทฯในระยะยาว
ในฐานะบริษัทจดทะเบียน Circle จะต้องถูกจับตามองมากขึ้น และนักวิเคราะห์ตลาดควรเฝ้าดูการนำ Stablecoin ไปใช้ที่แพร่หลายขึ้นในกลุ่มธนาคาร ฟินเทค และการออกกฎหมาย หากประสบความสำเร็จ Circle อาจกลายเป็นตัวอย่างสำคัญของการผสานคริปโทเข้ากับระบบการเงินกระแสหลักในยุคต่อไป อย่างไรก็ตามความท้าทายที่สำคัญคือการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย และการปรับตัวต่อกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
ไรอัน ลี (Ryan Lee ) หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ Bitget Research กล่าวว่าประเด็นที่น่าจับตาของตลาดคริปโทหลังจากนี้คือการอนุมัติกองทุน ETF ของเหรียญ Altcoin ต่างๆ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจากการประเมินของBloomberg โดยเฉพาะเหรียญมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่อย่าง Solana และ XRP ซึ่งจะทำให้ตลาดคริปโทในภาพรวมมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น