บุญชู ศัยศักดิ์พงษ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ เปิดเผยว่า ในส่วนของจังหวัดตรังขณะนี้ ภาคเอกชนทั้งหลายทุกองค์กร อยากให้ภาครัฐ คือ กรมท่าอากาศยาน กระทรวงคมนาคม เร่งรัดเปิดใช้อาคารที่พักหลังใหม่ท่าอากาศยานตรังโดยเร็ว เพราะเลือนเปิดมาหลายปีแล้ว
“แม้ล่าสุดที่ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (รมช.คมนาคม) เดินทางมาตรวจราชการและให้นโยบายกรมท่าอากาศยานต้องเปิดใช้อาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ในเดือนมิถุนายน 2568นี้แต่ส่วนตัวได้ฟังจากผู้รับเหมาบอกว่าไม่น่าจะเปิดได้ทันอาจจะต้องเลื่อนออกไปอีก ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ก็จะเกิดความเสียหายในการขนส่งทางอากาศ การท่องเที่ยว อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
รองประธานสภาอุตฯภาคใต้ กล่าวต่อว่า สภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทยเรา โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ประสบปัญหาเรื่องสินค้าการเกษตรตกต่ำ เช่นราคายางพารา ราคาปาล์มที่อยู่ในขั้นต่ำ ไม้ยางพารายอดส่งออกยังไม่ดี ทำให้รายได้ภาคการเกษตรเม็ดเงินที่ไหลเข้าไม่มากพอที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้โตได้มาก
ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในภาวะเศรษฐกิจซบเซาอันเนื่องจากการค้าระหว่างอเมริกากับจีนซึ่งไทยเราก็ทำการค้ากับทั้ง 2 ประเทศสินค้าภาคการเกษตรน้ำยางพารา ยางพาราอบแห้ง และไม้ยางพารา เราต้องอาศัยตลาดจีนในการขายสินจากยาง หากจีนไม่สามารถส่งออกสินค้าที่ผลิตในประเทศได้ จีนก็สั่งซื้อวัตถุดิบลดน้อยลง
“ประเทศไทยเราภาคเอกชนซึ่งทำธุรกิจการค้าร่วมกับประเทศจีนนั้น เรายังตกเป็นรองจีนมาตลอด ส่วนตัวมองว่า หากรัฐบาลหรือภาครัฐยังไม่มีความสามารถพอในการแก้ปัญหา หรือไปเจรจาการค้ากับจีน และประเทศอื่นๆ ได้ ผมว่าไม่ต้องไปคิดเลย รัฐบาลและภาครัฐไม่มีความสามารถเข้ามาแก้ปัญหาตรงนี้ให้กับภาคเอกชนได้”
ในขณะนี้กลุ่มทุนใหญ่ๆ เช่นธนาคาร สถาบันการเงิน กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ในไทย ยังอยู่ได้อย่างมั่นคง แต่ธุรกิจ SME และ ธุรกิจขนาดกลาง จะอยู่ไม่ได้ ด้วยเหตุผลหากกู้เงินมาลงทุน แต่ธุรกิจขาดทุน ไม่เห็นกำไร มีค่าใช้จ่ายจำเป็น 1. จ่ายเงินเดือนพนักงาน แรงงาน 2.จ่ายเงินเพื่อชำระหนี้คู่ค้าเพื่อให้ธุรกิจเดินได้ และ 3.จ่ายเงินกู้ให้สถาบันการเงิน เพื่อรักษาเครดิต ดังนั้นตนมองว่าเพื่อความอยู่รอด ข้อ 1 และข้อ 2 ต้องจ่ายให้ได้ ธุรกิจฟื้นตัวแล้วจ่ายหนี้ข้อ 3 สถาบันการเงิน
รายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย ปี 2567 จังหวัดตรัง อันดับที่ 38 ในเรื่อง GDP ต่อหัวอยู่ที่ 1.13 คะแนน แท้จริงแล้วรายได้เศรษฐกิจของจังหวัดตรังภาคการเกษตร ประมง ท่องเที่ยวดี ด้านการค้าปลีก ค้าส่งโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มาลงทุนในพื้นที่จังหวัดตรัง เมื่อนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีเงินได้ ก็จะไปอยู่ที่กรุงเทพมหานครเพราะบริษัทเหล่านี้มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ กรุงเทพหรือภาคกลาง ถ้าจำไม่ผิดมีห้างบิ๊กซีเพียงห้างเดียวที่รายได้ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีเงินได้ จ่ายให้กับจังหวัดตรัง
บุญชู กล่าวอีกว่า ตนเองในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง บริษัทตรังผลิตภัณฑ์อาหารทะเล จำกัด(มหาชน) ส่งไปขายต่างประเทศลูกค้ารายใหญ่คือจีน ญี่ปุ่น ยุโรปและอเมริกา พบว่าขณะนี้ถ้าเราจะแข่งขันกับประเทศจีนในเรื่องของราคานั้นเราแพ้จีน จึงได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เอาคนจีนมาลงทุนร่วมคือให้คนจีนค้าขายแข่งกับคนจีนด้วยกันเอง เราเป็นคนไทย เจ้าของโรงงานผลิตสินค้าให้เขาขาย ณ วันนี้การค้าแข่งกับคนจีนนั้น คนไทยเราไม่มีช่องทางชนะได้เลย เพราะรัฐบาลจีนเค้าจะเข้ามาดูแลช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ส่งสินค้าไปขายต่างประเทศหรือผลิตสินค้าภายในประเทศให้ต้นทุนต่ำแต่คุณภาพดี
หากหันกลับมาดูประเทศไทยผู้นำรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะนำประเทศไปแข่งขันกับประเทศจีนหรือประเทศอื่นๆ ได้ ทุกวันนี้ภาคเอกชนที่ทำธุรกิจที่เดินได้ด้วยลำแข้งลำขาของตัวเอง ที่ต้องฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อความอยู่รอด
“สิ่งที่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอยากร้องขอรัฐบาลคืออย่าออกกฎหมายหรือระเบียบที่มาขัดขวางการประกอบธุรกิจของประชาชนก็แล้วกัน เพราะพวกท่านไม่มีความสามารถที่จะแก้ปัญหาให้กับภาคเอกชนได้ ดังนั้นขออย่ามาออกกฎหมายหรือระเบียบที่ขัดกับการประกอบอาชีพของภาคเอกชนโดยเด็ดขาด ที่เห็นชัดในตอนนี้ ออกกฎหรือคำสั่งห้ามรถโดยสารสาธารณะสองชั้น วิ่งขึ้นภูเขาหรือที่ลาดชัน 8% มีระยะทาง 5 กิโลเมตร ถนนทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงเขาพับผ้า ตรัง-พัทลุง ก็ห้ามรถโดยสาร 2 ชั้นวิ่งเช่นนี้ กระทบหนักเลย”
ด้านสิทธิชญาน์ ชลวิศิษฎ์ รองประธานหอการค้าตรัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ภาคเอกชนมีความต้องการให้กรมท่าอากาศยาน เร่งดำเนินการเปิดใช้อาคารที่พักผู้โดยสารท่าอากาศยานตรังหลังใหม่โดยเร็ว เพราะเลื่อนการเปิดมาหลายครั้งแล้ว จึงเป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการพัฒนาด้านการขนส่งทางอากาศและส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว
อีกทั้งก่อนหน้านี้เอเยนซีหลายประเทศสนใจจะนำเครื่องบินเช่าเหมาลำบินมาท่องเที่ยวจ.ตรัง ท่าอากาศยานของตรังไม่พร้อมรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีขณะนั้นเห็นความสำคัญในการขยายท่าอากาศยานตรังนำมาสู่การให้งบประมาณและก่อสร้างขยายท่าอากาศตรังในปัจจุบัน
หากเปิดอาคารหลังใหม่ได้เร็ว จะสร้างเม็ดเงินไหลเข้าจังหวัดตรัง ซึ่งตอนนี้จังหวัดตรังพบปัญหาการทิ้งงานในโครงการภาครัฐจำนนวน 20 กว่าโครงการ มูลค่าหลาย 2,000 กว่าล้านบาท เช่นนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ลบให้กับผู้ที่จะมาลงทุนในจังหวัดตรัง สาธารณูปโภคและทุกหน่วยงานต้องพร้อมที่จะให้บริการผู้ที่จะมาลงทุนในพื้นที่ จ.ตรัง
ดังนั้นจะเห็นว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้การลงทุนในจังหวัดตรังยังไม่มีการลงทุนที่เป็นเมกะโปรเจคของภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดตรังแต่อย่างใด สาเหตุหนึ่งมาจากความไม่เชื่อมั่นในงานสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกของจังหวัด
หากที่มีนักลงทุนกลุ่มหนึ่งจะเลือกลงทุนในจังหวัดพังงา กระบี่ และตรัง ณ วันนี้มาดูความพร้อมของจังหวัดตรัง มีความพร้อมแค่ไหนที่จะให้เขามาลงทุนการค้า การลงทุนด้านการท่องเที่ยว
“ผมเชื่อมั่นว่าจังหวัดตรังอยู่ในจังหวัดท้ายสุดด้วยปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาไม่ได้รับการแก้ไขทันทวงที นักลงทุนเขาต้องคิดก่อนจะมาลงทุน ลงทุนจังหวัดตรัง ใช้เวลา 10 ปีถึงจะมีกำไรไปลงทุนในจังหวัดกระบี่หรือพังงา อาจจะใช้เวลา5ปีคืนทุนมีกำไร นักลงทุนทุกคนจะต้องไปลงทุนพื้นที่ที่มีผลตอบแทนรวดเร็วและสูง”
สิทธิชญาน์ กล่าวอีกว่าตรังยังเป็นจังหวัดที่ประกอบอาชีพด้านการเกษตรและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกับการเกษตร หากเปรียบเทียบระหว่างธุรกิจท่องเที่ยวกับโรงงานอุตสาหกรรม ธุรกิจท่องเที่ยวจะมีผู้เกี่ยวข้องหรือประกอบอาชีพเกี่ยวเนื่องเป็นกลุ่มคนที่จะได้รับผลประโยชน์อย่างกว้างขวาง เจ้าของสายการบิน เรือ รถ โรงแรม รีสอร์ท อาหาร ของฝาก สถานีบริการน้ำมัน ชาวบ้านขายสินค้าริมชายหาดหรือสถานที่ท่องเที่ยว และผู้ใช้แรงงานในภาคการท่องเที่ยว
ส่วนธุรกิจอุตสาหกรรมนั้นความมั่งคั่งจะอยู่แต่คนแค่กลุ่มเดียวคือเจ้าของกิจการ คู่ค้า ผู้ใช้แรงงานเท่านั้น ดังนั้นภาคการท่องเที่ยวยังมีความสำคัญต่อการพัฒนาเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งนักท่องเที่ยวพร้อมที่จะเดินทางเข้ามา
สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดตรังนอกเหนือจากพื้นที่ชายฝั่งทะเลและเกาะติดอยู่ในอุทยานแห่งชาติและอยู่ในเขตป่าไม้แล้วก็จะมีปัญหาเรื่องการกำหนดผังเมืองสีต่างๆ ผังเมืองทั้งจังหวัด หากจะพัฒนาเศรษฐกิจ ก็ต้องเปลี่ยนผังเมืองให้สอดรับกับสภาพ การค้า การลงทุน การเกษตรและสิ่งแวดล้อม ในปัจจุบัน หากไม่ปรับเปลี่ยนผังเมือง ทำให้อุปสรรคต่อการพัฒนา จึงทำให้ภาคเอกชนไม่สนใจมาลงทุนในพื้นที่ จ.ตรัง เพราะที่ดินนั้นอยู่ในพื้นที่ที่ถูกกฎหมายบังคับไว้เกือบทั้งหมด
“ดังนั้นรัฐบาลหรือหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่จะต้องเปิดช่องเปิดโอกาสให้นักธุรกิจหรือนักลงทุนเข้ามาประกอบการได้ไม่ใช่ว่าจะออกกฎหมายมากีดกันหรือบังคับจนไม่สามารถลงทุนได้”
สิทธิชญาน์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการพัฒนาเมืองกันตังหรือท่าเรือกันตังนั้น ในอดีตต้องยอมรับกันตังคือเมืองท่าฝั่งทะเลอันดามัน พร้อมๆ กับปีนัง และสิงคโปร์ ที่มีความเจริญสูงสุดเรามีการค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้านทางเรือ วันนี้ธุรกิจประมงถึงจะซบเซาแต่ก็ยังสามารถที่จะประกอบอาชีพไปได้ จำนวนเรือลดลงไปมากแต่ธุรกิจก็ยังเดินได้ในระดับหนึ่ง
ส่วนการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ท่าเรือกันตัง รับรองสินค้าส่งออกที่ผลิตในจังหวัดตรังและจังหวัดใกล้เคียง มีสินค้าทางด้านการเกษตรเช่นผลิตภัณฑ์จากยางพารา น้ำยางผสมเสร็จ ยางพาราอบแห้ง ไม้ยางพาราแปรรูป แร่ยิปซั่ม หรือแร่ชนิดอื่นๆ ที่ส่งขายไปยังประเทศจีนและประเทศต่าง ๆ ส่วนสินค้านำเข้ามี เครื่องจักร อะไหล่ ที่ใช้ในโรงงานและสินค้าทั่วไป สินค้าส่งออกและนำเข้าต้องอาศัยท่าเรือกันตัง ในการส่งออกส่งสินค้าไปขึ้นเรือใหญ่ที่ท่าเรือปีนังและท่าเรือพอตร์กรัง มาเลเซีย ก่อนที่จะขึ้นเรือใหญ่ไปยังปลายทางเช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ใต้หวัน และอื่นๆ
ท่าเรือกันตังขณะนี้ประสบปัญหาเรื่องของ ร่องน้ำกันตังตื้นเขิน เพราะไม่มีการขุดลอกมา 5 ปีแล้ว ทางผู้ประกอบการเรือประมงและเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ต้องอาศัยล่องน้ำกันตัง หรือแม่น้ำตรัง ต้องให้มีการขุดลอกร่องน้ำ 9 เมตรจากระดับน้ำลงต่ำสุด
“ส่วนตัวอยากเสนอให้ขุดเป็นรูป ‘สี่เหลี่ยมคางหมู’ เพราะพื้นที่จะรองรับตะกอนที่ไหลมากับกระแสน้ำได้มากทำให้การตื้นเขินช้าลง เรือจะวิ่งผ่านร่องน้ำได้สะดวก หากเราขุดเป็นรูป ‘สามเหลี่ยม’ ตะกอนจะตื้นเขินเร็ว เรืออาจจะได้รับผลกระทบท้องเรือชนร่องน้ำได้ ดังนั้นหากจะพัฒนาหรือขุดลอกร่องน้ำครั้งต่อไปอยากจะเสนอความลึกอยู่ที่ 9 เมตรจากระดับน้ำลมต่ำสุด และขุดเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู หากเรือเข้าออกได้สะดวก ทั้งเรือประมง และเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศก็จะได้รับความสะดวกยิ่งขึ้น”
ท่าเรือกันตังหรืออำเภอกันตังทางด้านภูมิศาสตร์จะเห็นว่าเป็นแม่น้ำตรังที่ไหลพลาดผ่านอำเภอต่างๆ ของจ.ตรัง ผ่านอำเภอกันตัง ไปออกทะเลปากน้ำกันตัง ระยะทาง 20 กิโลเมตร แม่น้ำตรังยาวกว่า 123 กิโลเมตร ดังนั้นเรือขนาดใหญ่ที่กินน้ำลึก ไม่สามารถมารับขนส่งสินค้าที่ยังท่าเรือกันตังได้ หากขุดลอกความลึก 9 เมตรจากระดับน้ำลงต่ำสุด เรือบาสขนาด 4,000ตันเข้ามาขนส่งสินค้าได้
สิทธิชญาน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ที่ผ่านมาร่องน้ำกันตังตื้นเขินทำให้ผู้ประกอบการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์จากท่าเรือกันตัง-ปีนัง มาเลเซีย ลดลง ทั้งที่ค่าใช้จ่ายในการขนส่งถูกกว่าเส้นทางอื่นๆ ผู้ประกอบการบางรายใช้เส้นทางรถไฟเริ่มที่สถานีกันตัง-ทุ่งสง-สะเดา-ท่าเรือปีนัง ขนส่งสินค้าทางรถยนต์ ตรัง-สะเดา-ปีนัง จะมีค่าขนส่งที่แพงกว่าทุกเส้นทาง ดังนั้นผู้ประกอบการขนส่งสินค้าไปยังต่างประเทศจึงไม่นิยมใช้ขนส่งทางรถยนต์
“หากขุดร่องน้ำแล้วเสร็จเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจ เรือประมง และการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจะเติบโตขึ้นมาเพื่อฟื้นเมืองกันตังอีกครั้ง เมืองกันตังอาจจะฟื้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวก็สามารถทำได้ในระดับหนึ่งเช่นการส่งเสริมมาเที่ยวเมืองเก่ากันตัง การจัดกิจกรรม เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ก็จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งเม็ดเงินการท่องเที่ยวไหลเข้าเมืองกันตัง”
“ถึงเวลาแล้วที่ภาคเอกชน หอการค้า สภาอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสมาคมการท่องเที่ยว และพ่อค้า นักธุรกิจต้องมาระดมสมอง มีแบบแผนเป็นระบบ เพื่อนำเสนอต่อ ผู้ว่าราชการจังหวัด นำเสนอต่อรัฐบาลต่อไป จะเสนอผ่าน กรอ.หรือรัฐบาลโดยตรงก็ได้ ภาคเอกชนใน จ.ตรังของเรา จะต้องคิดใหญ่ คิดที่ชัดเจน” รองประธานหอการค้าตรัง กล่าว
