‘เพื่อไทย’ ชี้ เขี่ย ‘ภท.’ พ้นรัฐบาล ได้เก้าอี้เพิ่ม- เรียกเชื่อมั่น ปชช.

18 มิ.ย. 2568 - 08:41

  • ‘เพื่อไทย’ ปิดทางปรับ ครม.แบบเซ็ตซีโร่

  • ชี้ เขี่ย ‘ภท.’ พ้นรัฐบาลได้เก้าอี้เพิ่ม- เรียกเชื่อมั่น ปชช. ลดขัดแย้ง-เดินหน้านโยบายได้เต็มที่

  • เชื่อประคองรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำรอดครบเทอม

‘เพื่อไทย’ ชี้ เขี่ย ‘ภท.’ พ้นรัฐบาล ได้เก้าอี้เพิ่ม- เรียกเชื่อมั่น ปชช.

รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมสส.พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.  มีการหารือถึงการปรับครม. สส.ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ต้องการให้พรรคเอาตำแหน่ง รมว.มหาดไทย คืนมาจากพรรคภูมิใจไทย ซึ่งจากที่ได้หารือกับผู้บริหารพรรคและสส. ต่างก็เห็นด้วยในแนวทางนี้ ล่าสุด อนุทิน ก็ได้ประกาศแยกทางจากรัฐบาลแล้ว เท่ากับว่า ไม่ต้องมีการเซ็ตซีโร่ ปรับครม. ทั้งหมดแล้ว สุดท้ายแม้ไม่มีพรรคภูมิใจไทยอยู่ร่วมรัฐบาล เท่ากับว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย จะได้เก้าอี้ในสัดส่วนของพรรคภูมิใจไทยคืนมาถึง 8 เก้าอี้ เช่น รมว.มหาดไทย รมว.ศึกษาธิการรมว.แรงงาน  รมว.การอุดมศึกษาฯ และรัฐมนตรีช่วยอีก 4 เก้าอี้ รวมถึงรองประธานสภาฯ ตรงนี้จะทำให้ สส.ของพรรคเพื่อไทยมีโอกาสเข้ามาทำงานเพื่อขับเคลื่อนนโยบายได้อย่างเต็มที่ เพราะ สส.ของพรรคที่ต่อสู้กันมา ก็ควรได้มีโอกาสเข้ามาปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรี รวมถึงสามารถเกลี่ยให้พรรคที่จะเข้ามาช่วยเติมเสียงให้รัฐบาลได้ ซึ่งการแยกทางกับพรรคภูมิใจไทย ถือว่า เป็นทางเลือกที่ดี เพราะที่ผ่านมาการทำงานของพรรคภูมิใจไทยมีความขัดแย้งกับเพื่อไทยมาโดยตลอด เช่น นโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ รวมถึงนโยบายการปราบปราบยาเสพติดที่กระทรวงมหาดไทยเหมือนจะเกียร์ว่าง ไม่ทำอย่างจริงจัง รวมถึงมีการเล่นเกมใต้ดินในรูปแบบต่างๆ

รายงานข่าว แจ้งว่า หากรัฐบาลไม่มีพรรคภูมิใจไทย จะทำให้ภาพลักษณ์ของเราดีขึ้น เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับประชาชน สามารถทำตามนโยบายต่างๆ ได้เต็มที่ เพราะที่ผ่านมาประชาชนจะเห็นภาพความขัดแย้งในรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทยกับภูมิใจไทยมาโดยตลอด นอกจากนี้ สส.ของเราก็มีโอกาสได้เป็นรัฐมนตรีมากขึ้น ส่งผลดีที่สามารถให้เราทำตามแนวทาง ตามนโยบายที่ประกาศไว้ตอนหาเสียงได้ แม้เสียงรัฐบาลจะเหลือประมาณ 260 เสียง ก็เชื่อว่าจะสามารถประคับประคองกันไปได้

ส่วนที่มีการเสนอกระทรวงสาธารณสุขหรือกระทรวงพาณิชย์เพื่อแลกนั้น สส. ในพรรคเห็นว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากเป็นกระทรวงใหญ่ เชื่อมโยงกับประชาชนในเรื่องปากท้อง ชีวิตความเป็นอยู่ ถือเป็นฐานเสียงใหญ่ของพรรค หากปล่อยให้ไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย เท่ากับไปเพิ่มกำลังฐานเสียงให้กับเขาที่จะใช้ในการเลือกตั้งได้ ดังนั้นการปรับ ครม. ครั้งนี้ พรรคต้องมองไปที่การเลือกตั้งครั้งหน้า เป็นปัจจัยในการพิจารณาด้วย เพราะจะส่งผลถึงคะแนน ความนิยมของพรรคในอนาคตด้วย

อย่างไรก็ตาม การไม่มีพรรคภูมิใจไทยร่วมรัฐบาล พรรคเพื่อไทยจะต้องเจอกับนิติสงครามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พรรคเพื่อไทยจะต้องเตรียมรับมือกับคดีความทางการเมืองที่จะต้องมีมากขึ้น เพราะเขามีเครือข่ายอยู่ในองค์กรต่างๆ ส่วนงานสภาฯ พรรคเพื่อไทยก็ต้องจัดระเบียบให้ดี กำชับกับสส. ให้ความสำคัญ กับกฎหมายที่จะเข้าพิจารณา เช่น กฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ กฎหมายงบประมาณฯ รวมถึงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ

“วันนี้ต้องกล้า การให้เวลากับพรรคภูมิใจไทย 48 ชั่วโมงนั้นถือว่ามากเกินไปแล้ว เพราะภูมิใจไทยก็ยืนยันมาอย่างชัดเจนด้วยคำพูดของหัวหน้าพรรคว่าหากไม่ได้กระทรวงมหาดไทยก็จะไม่ร่วมรัฐบาล จึงถือว่าหมดเวลาแล้วสำหรับพรรคภูมิใจไทยกับรัฐบาลนี้และไม่มีความจำเป็นที่ต้องเอากระทรวงใดๆไปแลก”

แหล่งข่าว ระบุ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์