รัฐบาลเดินหน้าแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หลังเศรษฐกิจโลกยังเผชิญความผันผวนต่อเนื่อง ล่าสุด คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจล็อตแรก ภายใต้กรอบวงเงินรวม 115,375 ล้านบาท จากกรอบรวม 157,000 ล้านบาท เพื่อฟื้นความเชื่อมั่น สร้างการจ้างงาน และเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยกระจายงบประมาณลงสู่ 50 หน่วยงาน ผ่าน 481 โครงการ รวมกว่า 8,900 รายการ คาดว่าจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.4% และเกิดการจ้างงานไม่น้อยกว่า 7.4 ล้านคน
พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นที่วางเป้าหมายผลสัมฤทธิ์ระยะยาว ด้วยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การท่องเที่ยว เศรษฐกิจชุมชน และการพัฒนาแรงงานและดิจิทัล พร้อมวางแนวทางเชิงระบบในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกยังเปราะบาง สำหรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีสาระสำคัญ ประกอบด้วย
4 แกนหลักกระตุ้นเศรษฐกิจ
1. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน - งบกว่า 85,000 ล้านบาท
เป็นรายการใช้จ่ายขนาดใหญ่ที่สุด ครอบคลุมทั้งระบบน้ำและการคมนาคม ได้แก่
- โครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ 39,136 ล้านบาท เน้นการพัฒนาน้ำอุปโภคบริโภค ระบบกระจายน้ำ และป้องกันน้ำท่วม คาดว่าจะช่วยเกษตรกรกว่า 900,000 ครัวเรือนในพื้นที่ 4.7 ล้านไร่ และเพิ่มน้ำใช้ได้ 192 ล้าน ลบ.ม. พร้อมสร้างงานกว่า 7.3 หมื่นตำแหน่งต่อเดือน
- โครงสร้างพื้นฐานคมนาคม 45,864 ล้านบาท เน้นพัฒนาถนนเชื่อมเมืองรอง ความปลอดภัย และแก้ปัญหาคอขวดจราจร รวมถึงปรับปรุงถนน 417 กม. ซ่อมแซมและยกระดับ 1,689 จุด สร้างงานกว่า 2.85 แสนคน
2. ขับเคลื่อนการท่องเที่ยว - งบกว่า 10,000 ล้านบาท
ครอบคลุมโครงการ 922 รายการใน 420 โครงการ มุ่งเน้นปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยว สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบความปลอดภัย รวมถึงกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรอง คาดว่าจะเพิ่มนักท่องเที่ยวกว่า 2.7 ล้านคน และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจถึง 55,000 ล้านบาท
3. ลดผลกระทบด้านส่งออกและแรงงาน - งบกว่า 11,000 ล้านบาท
ครอบคลุมทั้งเกษตร แรงงาน และดิจิทัล โดย...
ด้านแรงงาน : ตั้งวงเงิน 10,000 ล้านบาท สนับสนุน SMEs และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า เช่น ภาษีทรัมป์ ผ่านสินเชื่อสนับสนุนการจ้างงานกว่า 100,000 คน
ด้านดิจิทัล : 962 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี สนับสนุนภาคเกษตร การค้าระหว่างประเทศ และบริการประชาชน
4. พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน - งบกว่า 9,200 ล้านบาท
ผ่านโครงการกองทุนหมู่บ้าน, พัฒนาศักยภาพมนุษย์ และสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน โดยเฉพาะ SML ซึ่งจะเป็นกลไกในการกระจายงบประมาณลงสู่รากฐาน
เงินเข้าสู่ระบบ-คนได้งาน-GDP ได้แรงหนุน
จากกรอบวงเงินรวม 115,375 ล้านบาท คาดว่าเงินลงทุนจะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยตรงประมาณ 34,000 ล้านบาทในรูปแบบค่าจ้าง แรงงานไม่น้อยกว่า 7.4 ล้านคนจะได้รับประโยชน์ และส่งผลต่อเศรษฐกิจขยายตัวในระดับ 0.4% โดยยังเหลือวงเงินอีกกว่า 40,000 ล้านบาท ที่เตรียมพิจารณาในลำดับถัดไป
พิชัย ยังย้ำ นี่คือการเดินหน้าเศรษฐกิจแบบมีเป้าหมาย เป็นการลงทุนเพื่อคนไทย เพื่อเศรษฐกิจฐานราก และเพื่อให้ประเทศไทยพร้อมเผชิญกับโลกใหม่ที่ไม่แน่นอนในระยะยาว
อย่างไรก็ตามการอนุมัติข้อเสนอโครงการฯ เป็นการอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณเท่านั้น ในขั้นตอนการขอรับการจัดสรรและการเบิกจ่ายงบประมาณ จะต้องมีการตรวจสอบโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
