กลาโหมกัมพูชาอ้างปราสาทตาควายอยู่ในแผ่นดินเขมร โต้ไทยใช้แผนที่ฝ่ายเดียวซึ่งไม่มีคุณค่าทางกฎหมาย

7 ก.ค. 2568 - 08:48

  • กระทรวงกลาโหมกัมพูชายืนยันว่าปราสาทตาควายอยู่ภายในดินแดนและอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาโดยสมบูรณ์

  • แถลงการณ์ฝั่งกัมพูชาระบุว่า ฝ่ายไทยอาศัยแผนที่ฝ่ายเดียวซึ่งไม่มีคุณค่าทางกฎหมายภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ

กลาโหมกัมพูชาอ้างปราสาทตาควายอยู่ในแผ่นดินเขมร โต้ไทยใช้แผนที่ฝ่ายเดียวซึ่งไม่มีคุณค่าทางกฎหมาย

กระทรวงกลาโหมกัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวที่ไม่มีมูลความจริงและโอหังของสื่อมวลชนไทย เจ้าหน้าที่ทหาร และพลเรือนบางคนที่ยืนยันว่าปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของไทยอย่างหนักแน่น

แถลงการณ์กระทรวงกลาโหมระบุว่า “ข้ออ้างเหล่านี้เป็นการบิดเบือนความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง เนื่องจากฝ่ายไทยอาศัยแผนที่ฝ่ายเดียวซึ่งไม่มีคุณค่าทางกฎหมายภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ”

กระทรวงกลาโหมระบุต่อว่า กัมพูชายืนยันว่าปราสาทตาควายที่ตั้งอยู่บนทิวเขาพนมดงรัก ในหมู่บ้านมโนรมย์สัญชัย ตำบลคอกโพธิ์ อำเภอบันเตียออมปึล จังหวัดอุดรมีชัย อยู่ภายในดินแดนและอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาโดยสมบูรณ์ โดยตำแหน่งดังกล่าวมีมาจากแผนที่ที่ได้รับการรับรองทางกฎหมายและได้รับการยอมรับจากชุมชนระหว่างประเทศ

กระทรวงกลาโหมกัมพูชาระบุอีกว่า ไทยต้องให้ความร่วมมือกับกัมพูชาในการนำคดีปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และสามเหลี่ยมมรกตขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เพื่อกำหนดความเป็นเจ้าของปราสาทตาควายให้แน่ชัด

กระทรวงกลาโหมกัมพูชาอ้างว่า ทหารไทยห้ามชาวกัมพูชาสวมผ้าพันคอที่มีธงชาติกัมพูชาติดอยู่ แต่กลับอนุญาตให้คนไทยสวมเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่ติดธงชาติไทยอย่างเปิดเผย การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดข้อตกลงทวิภาคีที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้

กระทรวงกลาโหมกัมพูชาย้ำว่า ชาวกัมพูชามีสิทธิ์สวมเสื้อผ้าและใช้สิ่งของที่มีธงชาติกัมพูชาเมื่ออยู่ในปราสาทตาควาย เนื่องจากการกระทำดังกล่าวไม่ได้ละเมิดข้อตกลงร่วมใดๆ

แถลงการณ์ทิ้งท้ายว่า “กัมพูชายังคงยึดมั่นอย่างเต็มที่ที่จะรักษาข้อตกลงทวิภาคีอย่างเคร่งครัดและมีความรับผิดชอบในฐานะเพื่อนบ้านที่ดี ประเทศไทยยังต้องยึดมั่นตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้อย่างสอดคล้องและมีวินัย เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างความตึงเครียดหรือเหตุการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายไม่ต้องการให้เกิดขึ้น”

แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพชาเป็นไปในทางเดียวกับแถลงการณ์ของกระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์กัมพูชาเมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ปฏิเสธคำกล่าวของ แพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของไทย ที่อ้าง ว่ากลุ่มปราสาทตาเมือนอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศไทย

ตอนหนึ่งของแถลงการณ์ระบุว่า “ข้ออ้างของฝั่งไทยซึ่งยึดตามแผนที่ที่วาดขึ้นมาฝ่ายเดียวไม่มีคุณค่าทางกฎหมาย” เนื่องจากขัดกับบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ตามเจตนารมณ์ของอนุสัญญาฝรั่งเศส-สยามปี 1904 และสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยามปี 1907 ซึ่งยังคงมีผลบังคับใช้อยู่

Photo by POOL / AFP

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์