ชุมชนกาดก้อม และชุมชนศรีปิงเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในพื้นที่น้ำท่วมขังซ้ำซาก หากฝนตกลงมา เพราะน้ำไม่สามารถระบายลงคลองสายหลักอย่างคลองแม่ข่า ได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนในอดีต แม้ฝนตกเพียงน้อยนิด น้ำก็เริ่มเอ่อล้นเข้าท่วมชุมชนแทบทุกครั้ง ซึ่งปัญหานี้ยังไม่สามารถแก้ไขได้ และสะสมมายาวนานกว่า 30 ปี


อนุรักษ์ ราชามูล ชาวบ้านชุมชนศรีปิงเมือง เปิดเผยว่า ปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซากเกิดขึ้นมายาวนานหลายสิบปี ทุกครั้งที่ฝนตกหนักเพียงไม่กี่ชั่วโมง น้ำก็จะท่วมขังรอการระบาย และยังไม่มีการแก้ไขระบบระบายน้ำอย่างเป็นรูปธรรมจากหน่วยงานท้องถิ่นหรือจังหวัด ทำให้หลายครอบครัวต้องเดือดร้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งปัจจุบันปัญหานี้เริ่มหนักขึ้น ฝนตกเพียงเล็กน้อย ทำให้น้ำเริ่มท่วมขังในชุมชน บางจุดที่เป็นพื้นที่ต่ำนั้นจะถูกน้ำท่วมบ้านทุกครั้ง ซึ่งถือว่าได้รับผลกระทบอย่างหนัก

“ปัญหานี้ยังไม่มีท่าทีว่าจะแก้ไขได้ และเป็นจุดเดียวในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่เกิดซ้ำซากเป็นประจำทุกครั้ง ปีหนึ่ง ไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง จึงอยากวอนให้รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตั้งระบบระบายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเร่งแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซากที่เกิดขึ้นมายาวนาน ก่อนที่ฝนระลอกใหม่จะซ้ำเติมความเดือดร้อนอีกครั้ง”
ผศ.วสันต์ จอมภักดี นักวิชาการอิสระด้านการบริหารจัดการน้ำ เปิดเผยว่า พื้นที่บริเวณน้ำท่วมซ้ำซากในชุมชนกาดก้อมและชุมชนศรีปิงเมือง ในอดีตนั้นมีลำน้ำสายหลักไหลผ่านก็คือคลองแม่ข่า และลำคูไหว อยู่ทางด้านทิศตะวันตก นอกจากนี้พื้นที่บริเวณนี้ยังเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำถ้าเทียบจากบริเวณอื่นของเมือง ซึ่งในอดีตพื้นที่บริเวณนี้ไม่มีสิ่งก่อสร้างกีดขวางทางน้ำ ก็ทำให้น้ำสามารถระบายลงครองได้ตามปกติ ปัจจุบันทางน้ำสายหลักทั้งคลองแม่ข่า ลำคูไหว ถูกบุกรุกกีดขวางทางน้ำ ทำให้ศักยภาพในการระบายน้ำออกนอกพื้นที่ทำได้น้อยลง

“ที่สำคัญที่สุดคือการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน ผิดตามหลักผังเมือง รวมถึงการสร้างถนนในอดีตล้วนแต่กีดขวางทางน้ำ จนเกิดสภาพน้ำรอการระบาย และทางระบายน้ำฝนตามธรรมชาติก็มีปัญหา เพราะมีผู้คนทิ้งขยะลงในแม่น้ำลำคลอง ก็ส่งผลกระทบให้การระบายไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร”
“แนวทางแก้ปัญหาจะต้องมีการวางโครงสร้างแผนผังน้ำ รวมถึงวางแผนการระบาย ทำทางเดินน้ำใหม่ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ตามหลักวิศวกรรมผังเมือง รวมถึงการดูแลลำน้ำสายหลัก ทั้งคลองแม่ข่า ลำคูไหว ให้มีประสิทธิภาพในการระบายน้ำ พร้อมกับติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อให้น้ำเดินทางได้สะดวก และการคำนวณปริมาณน้ำฝน ให้เหมาะสมกับการระบาย ก็จะถือว่าเป็นการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซากได้อย่างยั่งยืน”
ดุสิต พงศาพิพัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่มีความเสี่ยงจากน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะในช่วงพฤษภาคมถึงตุลาคม ปีนี้ฝนมาเร็วกว่าปกติ จึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมและบูรณาการข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

“ปัญหาน้ำท่วมในเขตเมือง โดยเฉพาะบริเวณชุมชนกาดก้อมและศรีปิงเมือง ยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากระบบระบายน้ำเดิมใช้มานานกว่า 30 ปี ไม่สามารถรองรับน้ำฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จังหวัดเชียงใหม่จึงผลักดันโครงการ “พัฒนาคลองแม่ข่าอย่างยั่งยืน” ด้วยงบประมาณ 27 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงระบบระบายน้ำในพื้นที่เศรษฐกิจและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ”
หัวหน้า ปภ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวประกอบด้วยการก่อสร้างระบบสูบน้ำที่มีความสามารถไม่น้อยกว่า 100,000 ลิตรต่อนาที พร้อมติดตั้งท่อส่งน้ำ HDPE ขนาด 1,000 มิลลิเมตร ระยะทางกว่า 150 เมตร เพื่อเชื่อมต่อจากศรีปิงเมืองสู่คลองแม่ข่าน้อย และระบายลงสู่แม่น้ำปิง โดยเทศบาลนครเชียงใหม่จะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลหลังโครงการแล้วเสร็จ
“ในระยะเร่งด่วน เทศบาลได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำชั่วคราวในจุดเสี่ยงต่างๆ เพื่อรับมือฝนตกหนักในฤดูฝนนี้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดผลกระทบจากน้ำท่วมขังได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

ขณะที่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ได้นำเครื่องสูบน้ำศักยภาพสูง อัตราสูบ 28,000 ลิตรต่อนาที เข้าติดตั้งบริเวณคลองคูไหว ชุมชนฟ้าใหม่รวมใจสามัคคี หรือ ชุมชนกาดก้อม รวมทั้งอีกหลายชุมชนในตัวเมืองเชียงใหม่ที่เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เตรียมรับมือกับฝนตกหนักระลอกใหม่ในพื้นที่ภาคเหนือที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้