พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก ฐานทหารอนุพงษ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เชิญพระและสิ่งของพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้แก่ เหรียญที่ระลึกคณะสงฆ์ถวายเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และ พระพุทธนราวันตบพิธ มอบให้ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน
แม่ทัพภาคที่ 2 ฝากกำลังพลปฏิบัติหน้าที่ด้วยความปลอดภัย ดูแลสุขภาพตามที่ ผู้บัญชาการทหารบก เน้นย้ำ เนื่องจากอยู่ในช่วงหน้าฝน ขอให้ผู้บังคับบัญชาดูแลความเป็นอยู่ของกำลังพล
นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 ได้มอบเสื้อยันต์ ผ้ายันต์ ลงอักขระและรูปลายเส้น ‘พหูรมาน’ ของ ‘หลวงปู่ศิลา’ ที่เป็นรูปหนุมาน เหยียบปากกระบอกปืนและปืนอาก้าเอาไว้

จุดเดือด ‘สามเหลี่ยมมรกต’ เขตปลอดอาวุธ
พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนัดพบพูดคุยกับฝ่ายกัมพูชา ว่า พื้นที่สามเหลี่ยมมรกตมีการนัดพบกับฝ่ายกัมพูชาเพื่อเจรจาสัปดาห์ละ 3 วัน โดยปราศจากอาวุธ ประกอบด้วยวันจันทร์ พุธ ศุกร์ โดยทุกวันนี้ยังมีการนัดพบกันอยู่
ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์มีความคลี่คลายไปในเชิงบวก ในทุกจุดของชายแดน โดยทหารในพื้นที่ต้องการที่จะไม่ปะทะหรือสู้รบ แต่ขึ้นอยู่กับผู้นำรัฐบาลที่ต้องไปพูดคุยกัน และส่งสัญญาณลงมาว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร
โดยภายหลังจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) จะมีการปรับตามหลังหรือถอนกำลัง หรือจะมีการเปิดด่านก็ให้เป็นไปตามขั้นตอน
ส่วนกรณีพื้นที่แนวต้นพญาสัตบรรณ มีการดูแลอยู่ใช่หรือไม่ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ใช่ ยังมีการดูแลอยู่ และ เป็นจุดที่นัดเจอกันละแวกนั้น และมีการปักปันเขตแดนเสร็จแล้ว แต่มีการอ้างอิงแผนที่คนละฉบับ ซึ่งอาจมีเหลื่อมกันบ้าง โดยภูมิประเทศกับแผนที่อาจจะเพี้ยนกันนิดหนึ่ง แต่ก็เอาโซนนั้นมาคุยกันเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย
‘ศาลาตรีมุข’ เวอร์ชั่น 2 - ฟื้นถนนชายแดน ‘รวงผึ้ง-ภูมะเขือ’
ส่วนแนวคิดการสร้างศาลาตรีมุข (ช่องบก) เวอร์ชั่น 2 ภายหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ไปเมื่อต้น มี.ค.68 พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า คงต้องรอสถานการณ์ดีขึ้น ความสัมพันธ์ดีขึ้น ก็จะมีการพัฒนาแต่ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลทั้งสองประเทศ ซึ่งอาจมีการปรับปรุงเป็นแหล่งท่องเที่ยวก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาล
พล.ท.บุญสิน เปิดเผยอีกว่า ขณะนี้กำลังมีการสร้างถนนขอบพื้นที่รวงผึ้ง (สามเหลี่ยมมรกต) อุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอย และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดโดม ในการท่องเที่ยวรวมถึงช่วยในเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติ หน่วยทำเป็นรูปตัวยูและเครื่องหมายบวก ซึ่งดำเนินการเคลียร์กับระเบิดบริเวณแนวเส้น k-5 อยู่แล้ว อยู่ในเขตของไทยสามารถทำได้ ซึ่งโครงการดังกล่าวจะดำเนินการร่วมกันระหว่างหน่วย บัญชาการทหารพัฒนา กรมการทหารช่าง และ ช.พัน.6 โดยแบ่งพื้นที่รับผิดชอบ
แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า เส้นทางในภูมิประเทศของไทยตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชาต้องได้รับการปรับปรุง ทั้งในส่วนถนนขึ้นภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ และ บริเวณรวงผึ้ง จ.อุบลราชธานี เนื่องจากสภาพพื้นที่ ถูกกัดเซาะทำลายจากปริมาณน้ำฝนเพราะเป็นดินลูกรัง หลังสถานการณ์สู้รบเมื่อปี 2554 ก็พยายามที่จะซ่อมแซมมาตลอด ในวันนี้ต้องมีการทบทวน พัฒนาให้มีความถาวรมากขึ้น เพื่อให้ง่ายในการปฏิบัติ เพื่อสร้างประโยชน์ให้ส่วนรวม รวมถึงการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำด้วย

‘แม่ทัพกุ้ง’ เชื่อจบแน่ ‘ไทย-กัมพูชา’ 2 เดือน ก่อนเกษียณฯ
พล.ท.บุญสิน เปิดเผยอีกว่า ทหารไทยเราไม่ต้องการอยู่แล้ว แต่ในฐานะหน้าที่ทหารก็ต้องปกป้องอธิปไตยอยู่แล้ว และมีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ มองว่าการประทะกันไม่ทำให้เกิดประโยชน์อะไร แต่หากจำเป็นก็ต้องปกป้องตนเองและแผ่นดินไทย พร้อมระบุว่า ไม่อยากให้มีการเปรียบเทียบศักยภาพทหารของทั้งสองฝ่าย
พล.ท.บุญสิน กล่าวยืนยันว่า หากเกิดสถานการณ์เกิดขึ้นจะจบภายใน 3 วันหรืออาจจะเร็วกว่านั้น ซึ่งหลายอย่าง ขึ้นอยู่กับปัจจัยบอกเหตุหลายอย่าง และความเตรียมพร้อมจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเราไม่อยากพูดถึงส่วนนั้น เพราะไม่อยากให้ใช้ความรุนแรงซึ่งกันและกัน มองว่าช่วงนี้เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ย้ำว่ามั่นใจทุกอย่างจะจบก่อนตนเกษียณฯ ภายใน 2 เดือน
แม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำถึงกรณีที่จะครบวาระเกษียณในเดือนตุลาคม 2568 ว่า ไม่มีปัญหา เพราะเชื่อมั่นผู้บังคับบัญชาที่จะคัดเลือกผู้มีความรู้ ความสามารถ มาเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 คนต่อไป จึงไม่เป็นห่วง

เปลี่ยน นายกฯ เป็นใคร ? ทหารขอแค่นโยบายชัด
แม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำว่า ไม่กังวลประเด็นเสถียรของภาพรัฐบาล เพราะทหารทำหน้าที่อยู่แล้ว และต้องดูแลความมั่นคงของประเทศ ส่วนการเมืองก็เป็นระบบต้องแก้ไขตามระบอบประชาธิปไตย และในส่วนของทหารพร้อมทำงาน แม้ว่าจะเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีเป็นใคร และขอให้เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีนโยบายชัดเจนและทำเพื่อประเทศชาติ ซึ่งทหารก็พร้อมจะตอบสนองอยู่แล้ว
แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ช่องบก เมื่อ 28 พ.ค. 2568 จนถึงวันนี้ สถานการณ์ดีขึ้น โดยมีการปรับกำลังที่ช่องบก รวมถึงมีมาตรการด่าน เป็นการเสริมการทำงาน ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเป็นลำดับ
พร้อมยอมรับว่า สถานการณ์จะดีขึ้นอีกหรือไม่ ยังขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้นำกัมพูชาได้ว่า จะทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้นได้หรือไม่ เพราะฝ่ายไทยไม่มีปัญหาใดๆ โดยเฉพาะในประเด็น 3 ปราสาท กับ 1 พื้นที่ ที่ทางกัมพูชาได้ยื่นเรื่องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทหารก็จะควบคุมพื้นที่อยู่เช่นเดิม