กรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ถอนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex ออกจากวาระการประชุมสภาฯ ด้วยคะแนนเห็นชอบ 253 เสียง ไม่เห็นด้วย 67 เสียง งดออกเสียง 0 และ ไม่ลงคะแนนเสียง 0 ถือว่าโหวตผ่านด้วยเสียงปริ่มน้ำ เพราะเสียงกึ่งหนึ่งของสภาตอนนี้ คือ 246 คน (สส.ทั้งหมด ตอนนี้ เหลือ 492 คน) โดย สส. ส่วนใหญ่ที่ลงมติเห็นชอบเป็น สส. จากพรรคร่วมรัฐบาล และอีกจำนวนหนึ่งเป็น สส.งูเห่า ที่แฝงตัวอยู่ในพรรคต่างๆ
ขณะที่พรรคประชาชน ได้แสดงจุดยืนไม่ขอร่วมลงมติกับการโหวตในครั้งนี้ เนื่องจากพรรคประชาชน ยินดีที่จะถอนร่างกฎหมายฉบับนี้ เพียงแต่รัฐบาลต้องชัดเจนว่าจะไม่นำร่างกฎหมายฉบับนี้กลับเข้ามาพิจารณาอีก แต่รัฐบาลไม่สามารถให้ความชัดเจนหรือคำมั่นในเรื่องนี้ได้ พรรคประชาชนจึงขอไม่ร่วมโหวต
ขณะที่พรรคภูมิใจไทย มีมติพรรคว่าจะ ‘ขวางการถอน’ เพราะต้องการให้รัฐบาลให้คำมั่นว่าจะไม่นำร่างกฎหมายนี้เข้ามาพิจารณาอีกครั้งก่อน แต่เมื่อรัฐบาลไม่ให้ความชัดเจน พรรคภูมิใจไทยจึงเลือกที่จะโหวตไม่เห็นด้วยกับการถอนร่าง เพราะต้องการให้มีการพิจารณาต่อเพื่อคว่ำร่างกฎหมายในวาระถัดไป เพื่อป้องกันการนำกลับมาพิจารณาใหม่ แต่ปรากฏว่ามี 3 สส.พรรคภูมิใจไทย โหวตสวนมติพรรค โดยโหวตสนับสนุนให้มีการถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกไปก่อน
ล่าสุดวันนี้ (10 ก.ค.) ชูกัน กุลวงษา สส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย 1 ใน 3 สส. ที่โหวตสวนมติพรรค ได้ชี้แจงข้อกล่าวหาที่บอกว่าตัวเองเป็น สส.งูเห่า จากการโหวตสวนมติพรรคว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับการนำร่างกฎหมายนี้ออกไป เพราะไม่อยากเห็นความขัดแย้งเกิดขึ้นในสังคม และคิดว่าคนส่วนมากคงอยากให้เอาร่างกฎหมายนี้ออก และไม่นำกลับเข้ามาดีที่สุด
ส่วนที่ถูกเรียกว่าเป็น สส.งูเห่า แล้ว ชูกัน มองว่า แล้วแต่คนจะเรียก แต่ยืนยันว่าเราทำหน้าที่ของไปตามบทบาทและอำนาจของสส. ไม่ได้ฝักใฝ่อะไร ไม่มีใครมาบังคับ หรือเรียกร้อง เป็นการตัดสินใจด้วยตัวเอง ส่วนการโหวตสวนมติพรรคครั้งนี้ ยังไม่ได้พูดคุยกับทางพรรคภูมิใจไทย และทางพรรคก็ยังไม่ได้ประสานอะไรมา
ส่วนจะยังอยู่กับพรรคภูมิใจไทยใจต่อหรือไม่ ชูกัน ยอมรับว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปไหน เมื่อถามว่าหากคิดแบบนี้แล้ว แนวทางของ พรรคเพื่อไทย หรือ พรรคกล้าธรรม จะเหมาะกับตัวเองหรือไม่ ชูกัน ยืนยันว่ายังไม่คิดว่าพรรคใดเหมาะกับเรา สิ่งที่ถูกต้องเท่านั้นที่จะเหมาะกับเรา
ชูกัน ยังเชื่อว่าประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครพนมส่วนใหญ่เข้าใจ ในสิ่งที่ตัวเองลงมติ เพราะส่วนมากไม่อยากให้มีกาสิโนในไทย หรืออยากให้เอาอออกไปเลยได้ก็ยิ่งดี ส่วนที่เมื่อวันก่อน อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางลงพื้นที่อุดรธานีแล้วไม่ได้ร่วมลงพื้นที่ต้อนรับ ชูกันชี้แจงว่า เนื่องจาก ภรรยาของเขาต้องเข้าโรงพยาบาลจึงต้องไปเฝ้า
เมื่อถามว่าหากพรรคภูมิใจไทยเรียกเข้ามาชี้แจง พร้อมชี้แจงหรือไม่ ชูกัน ระบุว่า ถ้าเขาไม่รังเกียจก็ยินดีหมดทุกอย่าง ไม่ได้ว่าอะไร แต่เบื้องต้นยังไม่ได้รับการติดต่อมา ทุกอย่างว่ากันไปตามกระบวนการของพรรค ส่วนที่มีการพูดว่า งูเห่า ไม่กลัว เนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย ชูกัน ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดอะไร ท่านก็คงคิดอะไรถูกอะไรผิด หรือควรไม่ควร ท่านคงจะแยกแยะ เป็นผู้หลักผู้ใหญ่คงไม่มาประหัตประหารเด็กในลักษณะนี้หรอก เพราะผมไม่ได้ทำอะไรเสียหายมากมาย
ขณะที่ ศุภชัย โพธิสุ แกนนำพรรคภูมิใจไทย หัวหน้าทีม สส.นครพนม ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ยังไม่ทราบเหตุผล ผู้สื่อข่าวจึงถามแซวว่า แล้วครูแก้วจะไปกับเขาด้วยหรือไม่ ศุภชัย ถึงกับร้องโอ้โห ก่อนตอบว่า จะไปทำไม ทิ้งพรรคไม่ได้ เราร่วมกันก่อร่างสร้างตัวมา ยืนยันว่าชูกันไม่ได้แจ้งอะไรล่วงหน้าเรื่องการโหวตสวนมติพรรค วันนั้นไปสัมมนาที่เขาใหญ่ด้วยกัน ก็ไม่ได้พูดอะไร ทั้งที่กินข้าวด้วยกัน นั่งคุย นั่งเล่นกันอยู่ ส่วนจะไปทางพรรคเพื่อไทยหรือพรรคกล้าธรรม ต้องรอดูสักหน่อย อาจไม่เลวร้ายขนาดนั้นก็ได้
“ไม่รู้ว่านายชูกันดำเนินการแบบเฉพาะกิจหรือไม่ หรือเป็นการตัดสินใจถาวร ต้องรอคุยกับเจ้าตัวก่อน าเดี๋ยวนายชูกันเข้าพรรคคงได้คุยกัน เว้นแต่ไม่เข้าพรรคอีกเลย”
— ศุภชัย กล่าว