‘จุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์’ รมช.คลังให้สัมภาษณ์ภายหลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติให้เลื่อนร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจรออกไปก่อน ซึ่งพรรคภูมิใจไทยระบุว่า รัฐบาลไม่ได้ตั้งใจถอนร่างดังกล่าว จุลพันธ์ยืนยันว่า ไม่ได้ห่วงเรื่องเสียงในสภา ในวันนี้ได้มีการย้ำในที่ประชุมว่า ครม. ก็ต้องไปทำงานที่สภา เพราะเสียงไม่ได้เยอะเหมือนแต่ก่อน แต่การรัฐบาลนั้นก็ต้องมั่นใจว่า ว่ามีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการถอนหรือเลื่อน ล้วนต้องใช้เสียงข้างมากทั้งสิ้น
ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่ามีบางพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วย จึงจำเป็นต้องถอนไปก่อน จุลพันธ์กล่าวว่า ยังไม่มีพรรคใดระบุว่าไม่เห็นด้วย แต่สาเหตุที่ถอนเพราะต้องการให้ พิจารณาอีกครั้ง เพราะครม.เปลี่ยนหน้าเยอะจริงๆ
เมื่อถามย้ำว่าจะไม่ใช่การยกเลิก ใช่หรือไม่จุลพันธ์ย้ำว่า “ถอนครับ เราต้องใช้คำที่อยู่ในกฎหมาย”
จุลพันธ์กล่าวต่อว่า เราต้องยอมรับความจริง องค์ประกอบของรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นเหตุผลที่เหมาะสมที่จะดึงกลับมาให้ทุกคนได้พิจารณาอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็มีจังหวะเวลาในการทำความเข้าใจกับสังคมให้มากขึ้น เพราะเวลานี้อาจจะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ส่วนเวลาที่จะเหมาะสมเมื่อเมื่อไหร่นั้นก็ยังตอบไม่ได้ แต่สถานการณ์การเมืองในเวลานี้ ก็เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่เห็นว่าควรชะลอ และรอเวลาที่เหมาะสมก่อน
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยระบุว่า รัฐบาลกลัวเสียงในสภา เนื่องจากมีพรรคร่วมบางพรรคอาจจะไม่โหวตให้ จุลพันธ์กล่าวว่า
ยังไม่ได้ได้ยินว่าจะมีพรรครัฐบาลพรรคใดไม่โหวตให้ ขณะนี้ยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ ดังนั้นความเชื่อมั่นในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลนั้นเรายังมีความเชื่อมั่น ส่วนจำนวนเสียงในสภา เราต้องมั่นใจว่าเกินกึ่งหนึ่ง ดังนั้นประเด็นนี้ไม่ใช่ประเด็นที่เราห่วงใย
เมื่อถามว่า เหตุใดการถอนร่างกฎหมายนี้ ต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ไม่สามารถถอนในรัฐสภาใช่หรือไม่ ขั้นตอนขั้นตอนตามกฎหมายเป็นอย่างไร นายจุลพันธ์กล่าวว่า การถอนครั้งนี้กระบวนการเป็นไปตามกฏหมาย เนื่องจากกฎหมายดังกล่าวนี้เสนอผ่านคณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นบุคคลที่เสนอเรื่องเข้ามา เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่จะเป็นกลไกตามปกติ หลังจากนี้ก็คาดว่าจะมีร่างกฎหมายเข้ามาอีกจำนวนมาก ที่เสนอโดยรัฐมนตรีที่ไม่ได้ ปฎิบัติหน้าที่แล้ว จึงถือว่าเป็นเหตุเป็นผลที่เหมาะสม เนื่องจากมีบางกระทรวงกำลังพิจารณาว่าบางฉบับอาจจะต้องให้รัฐมนตรีใหม่มาพิจารณาให้รอบคอบก่อนที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง
เมื่อถามว่าหากจะนำร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจรเข้าสู่ที่ประชุมสภา ต้องผ่านคณะรัฐมนตรีหรือไม่ จุลพันธ์กล่าวว่า ถูกต้อง ต้องเริ่มต้นใหม่ เข้าสู่กระบวนการของคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง
เมื่อถามว่า นโยบายดังกล่าวนี้เป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย แล้วเมื่อไรจะได้ทำ จุลพันธ์กล่าวว่า เราอยู่กับความเป็นจริง นาทีนี้อาจจะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เรายอมรับและต้องยอมถอยหนึ่งก้าว เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้ รัฐบาลก็จะมองถึงจังหวะเวลาที่มีความพร้อมและเหมาะสมต่อไป ไม่ได้เป็นประเด็นคอขาดบาดตาย แต่ส่วนตัวรู้สึกเสียดายความล่าช้า จะเป็นการสูญเสียโอกาสของประเทศ มีความเชื่อมั่นว่าเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์จะเป็นนโยบายที่เกิดการขับเคลื่อนปรับเปลี่ยนโคตรสร้างของประเทศได้อย่างรูปธรรม มองว่าก็น่าเสียดาย ช้าแค่ไหนก็คือความสูญเสียของประเทศ
เมื่อถามว่ามั่นใจ หากเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาจะผ่านได้ใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า เราเป็นรัฐบาลเราก็ต้องมั่นใจว่าเสียงเกินครึ่ง