‘เพื่อไทย’ เห็นใจ ‘ยิ่งลักษณ์’ หนุนทนายชงศาลหักหนี้

23 พ.ค. 2568 - 04:22

  • เพื่อไทย’ เห็นใจ ‘ยิ่งลักษณ์’ ชี้ช่องดิ้นหาความชอบธรรม

  • หนุนทนายชงศาล ‘หักหนี้’ จากการขายข้าว เหตุเป็น ‘ทรัพย์สิน’ ที่ได้จาก ‘โครงการรับจำนำ’

  • รับ ‘คำพิพากษา’ กระทบเดินหน้านโยบายรัฐบาล

ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองตัดสินให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องชดใช้เงินกว่าหมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากคดีโครงการรับจำนำข้าวว่า ในฐานะที่ร่วมทำโครงการนี้ ก็ต้องยอมรับว่าเห็นใจ ยิ่งลักษณ์ แต่มองว่ามีเรื่องที่พอจะอ้างความชอบธรรมได้บ้าง อย่างแรกคือศาลปกครองกลาง เคยยกคำร้องการอายัดทรัพย์  มันก็เป็นสิ่งยืนยันว่ายังมีศาลที่เห็นว่า นายกฯ ยิ่งลักษณ์ไม่ควรที่จะรับผิดชอบ 

 

ชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันความเห็นของศาลปกครองสูงสุด เมื่อเข้าที่ประชุมใหญ่ก็ยังมีความเห็นแย้ง แต่ในเมื่อศาลพิจารณาออกมาเป็นแบบนี้แล้ว ในระบบของไทยก็ไม่มีทางเป็นอย่างอื่น เพียงแต่ว่าเรื่องที่ทนายเตรียมดำเนินการก็เป็นเรื่องที่น่าคิด เพราะข้าวที่เป็นกรณีพิพาทหลังจากยึดอำนาจก็มีการอายัดข้าวตรงนี้ไว้ เมื่อมาสมัยนี้ก็ทราบว่า ข้าวเป็นของรัฐ และ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในขณะนั้น ก็ได้นำไปจำหน่ายได้เงินก้อนหนึ่ง แต่เท่าไหร่ไม่ทราบ จึงถือเป็นทรัพย์สินที่รัฐได้มาจากโครงการนี้ ดังนั้นการใช้เหตุผลว่าควรจะมาหักลบกลบหนี้กัน ก็เป็นเหตุเป็นผล

 

ชูศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการยื่นพิจารณาคดีใหม่ ก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม และการยื่นก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล แต่สิ่งที่ไม่มั่นใจ คือ เมื่ออ่านในคำสั่งข้อ 3 เหมือนกับว่า ศาลปกครองสูงสุดให้พิจารณาต่อไปเลย แต่ตอนแรกเข้าใจว่า ศาลให้ยกคำร้องของกระทรวงการคลัง เพราะคำสั่งของกระทรวงการคลังไม่ชอบ เลยงงว่า ต้องออกคำบังคับใหม่หรือไม่ เพราะถ้าต้องออกคำบังคับใหม่ ต้องไปว่ากันในชั้นบังคับคดี แต่เมื่ออ่านข้อ 3 แล้วดูคล้ายๆ กับว่า ศาลให้ทำต่อไปเลย เพียงแต่ว่า ต้องหักรถทอน จึงเป็นเรื่องที่ทีมทนายต้องไปพิจารณาดูว่า เป็นอย่างไรกันแน่

 

เมื่อถามว่าทางพรรคเพื่อไทยจะช่วยยิ่งลักษณ์หรือไม่ ชูศักดิ์ กล่าวว่า อดีตนายกฯ ก็มีทีมทนายความดูแลรับผิดชอบอยู่  แต่สำหรับพรรคเพื่อไทยที่เป็นเจ้าของนโยบายนี้ หากมีอะไรที่ช่วยได้ในทางคดี ก็ไม่น่าจะขัดข้องอะไร

 

ส่วนกรณีที่ยิ่งลักษณ์โพสต์ข้อความ ระบุ หมื่นล้าน ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด นั้น ชูศักดิ์ กล่าวว่า ธรรมดา มันไม่ใช่เงินน้อยๆ แต่เมื่อฟังดูแล้ว ยิ่งลักษณ์คงคิดว่า สามารถที่จะแสวงหาความยุติธรรมต่อไปได้

 

สำหรับกรณีที่มีข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่า เมื่อศาลตัดสินออกมาในลักษณะนี้ การทำนโยบายของรัฐบาลหลังจากนี้เป็นเรื่องที่น่ากังวล ชูศักดิ์ กล่าวว่า เท่าที่ติดตามเรื่องนี้มา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็ยอมรับว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องนโยบาย ซึ่งถือเป็นเรื่องความรับผิดชอบทางการเมือง จึงมีข้อสงสัยว่า จะสามารถนำคำวินิจฉัยของศาลฎีกา มาใช้ในคดีแพ่งได้หรือไม่ แต่หลายคนมองว่า มันเป็นคนละประเด็นไม่ควรเอามาใช้กันได้ ซึ่งเป็นเรื่องทางกฎหมายที่เข้าใจยาก พร้อมยอมรับว่า ผลคำพิพากษาของศาลปกครอง อาจจะส่งผลให้การทำนโยบายต้องคิดหนัก เพราะที่ผ่านมามีนโยบายเยอะมาก แต่ไม่มีการฟ้องร้องดำเนินการ จึงมีนักวิชาการออกมาบอกว่าต่อไปนี้คงทำอะไรไม่ได้แล้ว ทุกอย่างต้องหยุดหมด


“ข้อทักท้วงเหมือนกับว่า ศาลปกครองหยิบคำวินิจฉัยของคดีอาญามาใช้ ซึ่งเขาก็โต้แย้งว่า จริงๆ แล้วเป็นคนละประเด็น ประเด็นนี้เป็นประเด็นละเมิด ส่วนอาญาก็ว่ากันไป จึงมีคนโต้แย้ง จริงๆไม่ใช่นายกฯยิ่งลักษณ์ปล่อยปะละเลยอย่างเดียว แต่ท่านก็ใช้ความระมัดระวังติดตามตรวจสอบ อันนี้เป็นรายละเอียดที่ว่ากันไป ท้ายที่สุดต้องให้ทนายความเขาว่ากันไป ดูสิว่าศาลจะว่ายังไง”

ชูศักดิ์ กล่าว


 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์