ภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ติดตามคาดการณ์สภาพอากาศ พบว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางยังมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น และประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ซึ่งมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 15 -17 เมษายน ดังนี้
ภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ จ.ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ และ ตาก ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ จ.กาญจนบุรี สระบุรี และเพชรบุรี ภาคใต้ 11 จังหวัด ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล
อธิบดี ปภ. กล่าวต่อว่า กอปภ.ก โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานแจ้งจังหวัดในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้เตรียมพร้อมรับมือปริมาณฝนที่ตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัย โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและมีฝนตกติดต่อนาน
“สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่ และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง กรณีคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามเล่นน้ำเด็ดขาด แจ้งเตือนการเดินเรือ หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือเด็ดขาด นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (อีอาร์ที) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุทันที”
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น มีอากาศร้อนโดยทั่วไปในภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคพื้นที่ของภาคเหนือ โดยยังมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก
ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันสูง 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยวันที่ 16 เมษายน 2568 ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ลมกระโชกแรงบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง สุโขทัยและตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 บริเวณ จ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี กรุงเทพ ปริมณฑล ภาคกลาง ภาคตะวันออก อากาศร้อน มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ลมกระโชกแรงบางแห่ง บริเวณ จ.สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ทะเลคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 บริเวณจ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี สงขลา ยะลา และนราธิวาส ทะเลคลื่นสูง 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ส่วนมากบริเวณ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ทะเลมีคลื่นสูง 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ปภ.ภูเก็ตรายงานฝนตกหนักต่อเนื่อง พบหลายจุดน้ำท่วมขัง เฝ้าระวังใกล้ชิด
ขณะที่จังหวัดภูเก็ต วิชิต สุทธโส หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต (ปภ.ภูเก็ต) เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 18.30 น. เป็นต้นมา จนถึงช่วงเช้าวันนี้ (16 เมษายน 2568) ยังมีฝนตกต่อเนื่องในหลายพื้นที่ โดยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมรายงานสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ได้ประสานงานกับศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ระดับอำเภอ และศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังและให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที
โดยสถานการณ์ปัจจุบัน ฝนตกหนักกระจายตัวในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองภูเก็ต อำเภอกะทู้ และอำเภอถลาง โดยมีรายงานน้ำท่วมขังในบางจุด ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายและเข้าสู่ภาวะปกติแล้วทุกพื้นที่
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกำนันและผู้ใหญ่บ้าน ได้ดำเนินการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินโคลนถล่มอย่างใกล้ชิด โดยหากเกิดสถานการณ์ในพื้นที่ใด ให้รีบรายงานมายังกองอำนวยการจังหวัดโดยทันที
พร้อมกันนี้ ได้เน้นย้ำให้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ระดับอำเภอและศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินท้องถิ่น เร่งดำเนินการขุดลอกคู คลอง ท่อระบายน้ำ ดูดเลน และทำความสะอาดร่องน้ำ รวมถึงการกำจัดวัชพืช ขยะ และสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อให้ระบบระบายน้ำสามารถรองรับปริมาณน้ำฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
