DeepSPACE การปรับครม.แพทองธาร ชินวัตร ว่ามาเรื่อย ไม่จบ ไม่สรุป แต่พรรคร่วมก็ออกมาเคลื่อนไหวกันต่อเนื่อง แม้ว่าพรรคอันดับสองภูมิใจไทย จะมีแบบแตกหัก โอนอ่อน สลับไปมา จนล่าสุดก็ท่าทีอ่อนลง แล้วก็มีคำถามตามมาว่า จะปรับหรือไม่ แล้วจะปรับแบบไหน ตัดสินใจสักที ติดตามใน Deep SPACE..ลึกกว่าที่รู้
หลังสองพรรคใหญ่ ‘เพื่อไทย-ภูมิใจไทย’ ออกมาเล่นกันแรง ชนิดที่พร้อมหันหลัง ตัดขาดจากกันได้ทุกเวลา
โดยเริ่มจากการเล่นบทกร้าวของ ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ที่เปิดปฏิบัติการทวงปฏิญญาช็อกมินต์ เข้าใส่พรรคเพื่อไทย(พท.) ก่อน ‘ไม่ได้ขอเข้าร่วมรัฐบาล แต่มาเพราะได้รับเทียบเชิญ’ ทำนองนั้น
แถม ‘เสี่ยหนู’ ยังออกลูกหนักประกาศพร้อมไปเป็นฝ่ายค้าน หากถูกริบคืนเก้าอี้ มท.1
จนถูกนักการเมืองแถว 2 แถว 3 กลุ่ม ‘แมลงหวี่’ ในเพื่อไทยออกมาตะเพิดไล่ส่ง หากอยู่ร่วมรัฐบาลแล้วไม่มีความสุข ก็ให้ออกไปเป็นฝ่ายค้านเสีย แต่ก็ถูกมวยรุ่นใหญ่ฝั่ง ภท. ‘อิสระ สมชัย’ บิดาโฆษก ภท. แนน ‘บุณย์ธิดา สมชัย’ สส.อุบลราชธานี ออกมาฟาดกลับแรงๆ ไปที่กล่องงดวงใจ พท.ทั้งนายกฯ และพ่อนายกฯ ตั้งปุจฉาถาม 2 ข้อว่า
1.ทักษิณเป็นใครมีตำแหน่งอะไรในรัฐบาล แบบนี้ถือว่าครอบงำพรรค พท.ได้ใหม????
2.แล้วนายกอิ๊งค์ ลูกสาวทักษิณมีวุฒิภาวะในการปฏิบัติหน้าที่สมกับตำแหน่ง ‘นายกรัฐมนตรี’หรือไม่ เห็นมีแต่เสียงก่นด่ารอบทิศ แล้วยังจะให้อยู่ทำหน้าที่ต่อไปอีกหรือ คนเป็นพ่อแม่ไม่รู้สึกอายบ้างหรือไง!!!!”
แถมตบท้ายด้วยข้อความเย้ยหยันว่า ‘พท.ว่าไง ใจถึงหรือเปล่า 555’
หมายถึงการยึดเก้าอี้ มท.1 เพื่อผลัก ภท.ไปเป็นฝ่ายค้าน ตามคำประกาศของเสี่ยหนูในวันก่อน
แต่ล่าสุดหนังบู๊ล้างผลาญ ประเภทระเบิดภูเขา เผากระท่อม หักมุมกลายเป็นหนังโรแมนติก ฉบับรักๆ ใคร่ๆ เป็นละครตบจูบขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อ ‘เสี่ยหนู-อนุทิน’ ส่งสัญญาณตรงมาจาก จ.อุดรธานี ปรับโหมดความรู้สึกใหม่ ยืนยันยังสบายใจในการอยู่ร่วมรัฐบาล ไม่มีอะไรไม่สบายใจ
อนุทิน ย้ำว่า มาทำงานในพื้นที่ จ.อุดรธานี ขอให้ถามเรื่องงาน การปรับ ครม.ไม่เกี่ยวกับประชาชนเลย ประชาชนอยากรู้ว่ารัฐมนตรีทำงานอะไรบ้าง มีเหตุการณ์มากมาย ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ชายแดน การดูแลประชาชน เราเอาเรื่องประชาชนมาเป็นหลักดีกว่า ปรับครม.เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ไม่เกี่ยวกับประชาชน ตราบใดที่ยังไม่มีการปรับ ครม. รัฐมนตรีทุกคนก็ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่
ตามด้วยลีลาพริ้วสุดๆ เมื่อถูกถามถึงคำพูด ‘พร้อมเป็นฝ่ายค้าน’ ที่ จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า
‘เมื่อสื่อถามมา ก็ตอบสั้นๆ ว่าพร้อม’
อนุทิน ท้าให้ย้อนกลับไปดูข่าวในวันนั้นว่า ไม่ได้ประกาศว่าพร้อมเป็นฝ่ายค้าน สื่อมวลชนมาถามว่าหากถูกปรับออกจากกระทรวงมหาดไทยพร้อมเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ ไปดูได้เลย
กลายเป็น ‘หนังคนละม้วน’ ไปเรียบร้อย สำหรับศึกแดง-น้ำเงิน ที่คงประคองกันผ่านไปได้อีกยก
แต่เมื่อเครื่องยนต์ออกอาการรวนขนาดนี้แล้ว คงไปกันได้ไม่ยืด โดยเฉพาะศรัทธา ความเชื่อมั่นในตัวนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ที่อยู่ในสภาพดำดิ่ง อาการเดียวกับเครื่องบินแอร์อินเดีย ที่ประสบอุบัติเหตุวันก่อน
เป็นที่ทราบกันดีว่า สถานการณ์รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ตลอดเวลาสองปีจาก เศรษฐา ทวีสิน - แพทองธาร ชินวัตร ที่ขยับผลงานไม่ออก ‘อยู่ดี กินดี มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี’ ไม่มีอะไรจับต้องได้สักอย่าง โดยเฉพาะสองคำหลังถูกฝังกลบไว้ที่ชายแดนช่องบก ในเหตุการณ์พิพาทไทย-กัมพูชา ที่รัฐบาลหันรีหันขวาง ไม่ทันเกมเขมร
ทีนี้ปัญหาใหญ่สุดของพรรคเพื่อไทย เมื่อมาเป็นรัฐบาลในพ.ศ.นี้ ไม่เพียงความเยาว์วัย ไร้พรรษา ขาดประสบการณ์ในการบริหารบ้านเมืองของนายกฯ อิ๊งค์ เท่านั้น
แต่ภายใต้ ‘ดีลพิสดาร’ ที่มีความกว้างขวาง ละเอียด พันลึกในตัวมากพออยู่แล้ว ยังต้องมาเผชิญกับปัญหาการแบ่งเค้กอำนาจในพรรคเพื่อไทย เรียงลำดับตามนามเรียกขาน V1 V2 V3 จัดสรรกันได้ลงตัวบ้าง ไม่ลงตัวบ้าง เห็นได้จากอาการยึกๆ ยักๆ ในการปรับครม.ครั้งนี้
ตกลงจะปรับ ไม่ปรับ ปรับแบบไหน?!
ในเมื่อสามคนยลตามช่อง เห็นไม่ตรงกัน จึงทำให้เสียจังหวะ ถูก ‘เสี่ยหนู’ ซึ่งเดินเกมพร้อมกันสองขา ขาหนึ่งประกาศตัวพร้อมเป็นฝ่ายค้าน อีกขากวาดต้อนสส.เข้าพรรค ไว้รองรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป แต่ก็เอาตัวเลขมาเคลมเพิ่มเป็น 69+ ไปด้วย แถมเข้าถูกทางยึด V3 ไว้เป็นตัวประกัน จึงทำให้เป็นฝ่ายพลิกขึ้น ‘ขี่คอ’ ได้ตลอด
การปรับครม.อิ๊งค์ นาทีนี้ปัญหาใหญ่จึงอยู่ในพรรคเพื่อไทยว่าจะคุยกันรู้เรื่องหรือเปล่า หรือจะตกลงกันได้ตอนกี่โมง?!
