ยัดไส้นิรโทษกรรม ล้างผิดนักการเมือง?!

9 ก.ค. 2568 - 03:14

  • 5 ร่างเข้าสภา ยกเว้นพรรคเพื่อไทยที่ไม่มีร่างของตัวเอง

  • รวมไทยสร้างชาติเสนอร่างหลัก ไม่ครอบคลุม ม.112 ทุจริต และอาญาร้ายแรง

  • แนบท้ายมี “นิรโทษกรรมคดีเลือกตั้ง” นักการเมืองอาจได้คืนชีพ!?

ยัดไส้นิรโทษกรรม ล้างผิดนักการเมือง?!

หลังรอกันมานานร่วมยี่สิบปี วันนี้(9 ก.ค.68) สภาผู้แทนราษฎร ได้ฤกษ์พิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองทุกสี ทุกกลุ่ม ทุกค่ายกันเสียที

เบื้องต้นมีร่างที่บรรจุอยู่ในระเบียบวาระ จำนวน 5 ฉบับ ประกอบด้วย ร่างที่เสนอโดยพรรคประชาชน ร่างที่ประชาชนเข้าชื่อกันเสนอ ร่างของพรรคครูไทย(เดิม) ร่างของพรรครวมไทยสร้างชาติ และร่างของพรรคภูมิใจไทย

เป็นที่สังเกตว่า ไม่มีร่างของพรรคเพื่อไทย และร่างที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรีรวมอยู่ด้วย เพราะพรรคเพื่อไทย ไม่ได้จัดทำร่างของตัวเองไว้ โดยหวังจะจัดทำขึ้นและเสนอเข้าสภาพร้อมกับร่างของคณะรัฐมนตรีทีเดียว หลังผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ที่ให้สภาตั้งขึ้นสรุปผลออกมาแล้ว

แต่บังเอิญเกิดการขัดลำกล้องขึ้นเสียก่อน เพื่อไทยชงเอง-คว่ำเอง ไม่ยอมรับผลการศึกษาที่ตัวเองตั้งขึ้น จึงทำให้มีเฉพาะ 4 ร่างเดิม ที่ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรไว้ และเพิ่มอีกหนึ่งร่างของพรรคภูมิใจไทย ที่ยื่นเข้ามาทีหลัง

วันนี้เมื่อจวนตัว จากที่หักเหลี่ยมเฉือนคมกันไว้หนก่อน ที่ให้เลื่อนวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ปาดหน้าเรื่องภัยพิบัติแผ่นดินไหวและภาษีทรัมป์ โดยหนีบเอาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พ่วงเป็นตัวประกันมาด้วย

ดังนั้น ทันทีที่สถานการณ์เปลี่ยน บรรยากาศไม่เอื้อต่อการลุยไฟเรื่องกาสิโนถูกกฎหมาย ทำให้เป็นไฟต์บังคับที่ต้องพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยไม่มีร่างของพรรคเพื่อไทยและคณะรัฐมนตรีอยู่ด้วย

เพื่อไทย จำใจยอมเสียเครดิต อุปโลกน์เอาร่างของพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นร่างหลักของรัฐบาล

แม้ร่างฉบับรวมไทยสร้างชาติ จะตีกรอบไว้ชัดเจนไม่รวมความผิด มาตรา 112 คดีทุจริต คดีอาญาร้ายแรง แตกต่างจากร่างฉบับพรรคประชาชน ที่ให้นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง แต่กำหนดเงื่อนไขบางเรื่องที่ละเอียดอ่อนเอาไว้

สำหรับร่างของพรรครวมไทยสร้างชาติ มีชื่อเต็มๆ ว่า .ร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. ...เสนอโดย นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร และคณะ มีวัตถุประสงค์เพื่อนิรโทษกรรมผู้ที่กระทำความผิดในคดีอาญาที่ผู้กระทำความผิดมีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง โดยไม่รวมมูลฐานความผิด ดังต่อไปนี้

1.ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

2.ความผิดเกี่ยวกับคดีทุจริต คอร์รัปชัน

3.ความผิดอาญาร้ายแรง เช่น ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นต้น

อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ย้ำว่า ร่างที่เสนอโดยพรรครวมไทยสร้างชาติ จะไม่มีการนิรโทษกรรมในความผิดข้างต้นในทุกกรณี

“จุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือ จะไม่มีการนิรโทษกรรมผู้ที่กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ผู้ที่กระทำความผิดฐานทุจริต คอร์รัปชัน และผู้ที่กระทำความผิดอาญาร้ายแรงโดยเด็ดขาด”

ดูจากหน้าปกนับว่าร่างฉบับพรรครวมไทยสร้างชาติ ดูสวยเด่นในสายตาของกลุ่มอนุรักษ์นิยม แต่ในบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัติฉบับนี้ ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผอ.ไอลอว์ (iLaw) ไปเปิดพบว่า มีการสอดไส้นิรโทษกรรมนักการเมืองทั้ง สส.และสว.เอาไว้ใน ข้อ 3 ข้อ 4 และข้อ 5 ได้แก่

ข้อ 3 ความผิดตามกฎหมายว่าดด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง พ.ศ.2561

ข้อ 4 ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง พ.ศ.2561

ข้อ 5 ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2550 และที่แแก้ไขเพิ่มเติมถึง พ.ศ.2560

"การเสนอกฎหมายนี้ตอนแรกก็เข้าใจว่าจะช่วยเสื้อเหลือง-กปปส. จากคดีชุมนุม ซึ่งแน่นอนว่าไม่ช่วยคดีทุจริต แต่บัญชีแนบท้ายนิรโทษกรรมให้กับความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง สส. กฎหมายการได้มาซึ่ง สว. และกฎหมาย กกต. คือยังไง???" ข้อความบางตอนที่ยิ่งชีพโพสต์ไว้ในเฟซบุ๊ก

ทำให้นึกย้อนไปถึงนิรโทษกรรมฉบับสุดซอยสมัย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะตอนนั้นแผ่อานิสงส์ครอบจักรวาล ไม่เฉพาะคดีโกงบ้านเมืองเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงคดีกรือเซะ ตากใบด้วย

หนนี้หากปล่อยออกมาทั้งดุ้นแบบนี้ อาจครอบคลุมถึงคดีที่นักการเมืองถูกแช่แข็งนาน 5 ปี 10 ปี หรือแม้แต่การกระทำผิดจริยธรรมร้ายแรง ที่ถูกตัดสิทธิการเมืองตลอดไป คงได้โอกาสกลับมาแจ้งเกิดทางการเมืองได้อีกครั้ง

เพราะต่างบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นยองใย ไร้มลทิน ไฝฝ้า ฟอกขาว ล้างผิด ผิวเกลี้ยงกันหมด มิน่าเมื่อวานถึงได้เห็น แพทองธาร ชินวัตร ประกาศทวงคืนความชอบธรรม ขอกลับมาทำหน้าที่นายกฯ เหมือนเดิม

ถ้าขืนยัดใส้กันมาจริง คงได้เห็นป่าช้าแตกกันก็คราวนี้แหล่ะ!!

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์