วิโรจน์ชายาประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึงบรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายว่า นับตั้งแต่จังหวัดเชียงราย ประสบปัญหาน้ำท่วมหนักในรอบประวัติศาสตร์ และประเทศไทยเกิดเหตุการณ์ตึกถล่มในกรุงเทพ ซึ่งเป็นผลกระทบจาก การเกิดแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา และปัญหาการพบสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก จากการ ทำเหมืองแร่ในเขตรัฐฉาน ประเทศเมียนมานั้น ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศลดลงตามลำดับ ซึ่งถือว่ามีผลในเชิงจิตวิทยา เพราะเป็นเรื่องอ่อนไหว
โดยเฉพาะปัญหาพบสารปนเปื้อนในแม่น้ำกกนั้น มีผลกระทบต่อตลาดนักท่องเที่ยวไทย แม้ว่าโรงแรมจะใช้ระบบน้ำประปา และไม่ได้อยู่ติดริมแม่น้ำกกทั้งหมด แต่ก็พบว่าการเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซัน ซึ่งน้อยอยู่แล้วยิ่งน้อยลงไปอีก ดูได้จากอัตราเข้าพักของโรงแรมในช่วง 1-2 เดือนนี้ ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 30 จากจำนวนห้องทั้งหมด 20,000 ห้อง ส่งผลให้ขณะนี้ธุรกิจการบริการต่างเริ่มประสบปัญหาเดียวกัน


“ธุรกิจโรงแรมเริ่มที่จะประหยัดค่าใช้จ่าย และบริหารจัดการต้นทุน ด้วยการเลิกจ้างพนักงาน และใช้วิธีทำงาน 15 วัน หยุด 15 วัน เพื่อเป็นการประคับประคองธุรกิจในอยู่รอด” แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ก็มีความหวังว่าในเดือนสิงหาคม 2568 ตลาดต่างประเทศอาจจะกลับมาคึกคัก
“ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นอยากให้ภาครัฐหามาตรการพิเศษมาช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการหยุดดอกเบี้ย หรือเงินกู้ซอฟท์โลน เพื่อให้มีกระแสหมุนเวียนในธุรกิจ อีกทั้งปัจจุบันนี้จังหวัดเชียงรายไม่มีเที่ยวบินต่างประเทศ ทำให้บางครั้งเป็นอีกหนึ่งประเด็นในการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย”


วิโรจน์ กล่าวต่อไปว่า “กรณีของการพบปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำกกนั้น อยากให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เพราะหากต่างคนต่างทำ จังหวัดเชียงรายจะได้รับผลกระทบแทบจะทุกมิติ อยากให้ทุกฝ่ายมองว่า ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่หน้าที่ของใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ต้องทำงานไปในทิศทางเดียวกัน เพราะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนชาวเชียงราย และนักท่องเที่ยวไปพร้อมๆ กันด้วย”
ดร.อนุรัตน์ อินทรเจ้าของร้านอาหารท่าน้ำภูแล จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นธุรกิจร้านอาหารขนาดใหญ่ และอยู่ริมแม่น้ำกก กล่าวว่า นับตั้งแต่ที่เกิดปัญหาน้ำท่วมจังหวัดเชียงราย ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ เพราะน้ำท่วมเข้ามาใน บริเวณร้านอาหารจนได้รับความเสียหายหนักที่สุดอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งขณะนี้แม้ว่าจะทยอยปรับภูมิทัศน์ และโครงสร้างที่ได้รับผลกระทบ เพราะมีบางส่วนเช่น อุปกรณ์เครื่องครัว ตู้เย็น และโต๊ะเก้าอี้ แต่ก็ยังต้องทยอยฟื้นฟูให้กลับมาปกติ

ดร.อนุรัตน์ กล่าวต่อว่า “ต้องยอมรับว่า ธุรกิจร้านอาหารได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จังหวัดเชียงราย แม้จะเป็นเมืองรองทางการท่องเที่ยว แต่ก็เป็นเป้าหมายทางการท่องเที่ยวที่ชาวไทย และชาวต่างประเทศต้องการมาเยือน และเมื่อเหตุการณ์น้ำท่วมแม้จะคลี่คลาย แต่หลายๆ ธุรกิจก็อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งยังไม่ทันจะให้กลับมาสู่ภาวะปกติ ก็มาประสบกับปัญหาพบสารปนเปื้อนในแม่น้ำกกอีก ถือว่าเป็นภัยพิบัติซ้ำซ้อนที่รัฐบาลควรจะต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน”

“ขณะนี้ยอดขายลดลงไปกว่าร้อยละ 60 ซึ่งถือว่าย่ำแย่มาก และลูกค้าจะขาดความเชื่อมั่นในการบริโภคอาหารจะมีการสอบถามแหล่งที่มา และงดรับประทานปลาจากแม่น้ำกก และหากเปรียบเทียบแย่กว่าช่วงที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ซึ่งเท่ากับว่าบรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายถดถอยลงอย่างมีเหตุ และผล และจากการสอบถามผู้ประกอบการรถตู้ที่รับส่งนักท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย ซึ่งร้านอาหารของเราเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่นักท่องเที่ยวจะมารับประทานอาหาร ปริมาณของรถตู้บางวันแทบไม่มี และส่วนใหญ่ให้คำตอบว่า ไม่มีลูกค้ามาใช้บริการรถตู้เป็นเดือนแล้ว รายได้เรียกว่าเกือบศูนย์เปอร์ เซ็นต์”

วิสูตร บัวชุมผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย กล่าวว่า ทางททท.ภูมิภาคภาคเหนือ และททท.เชียงราย ได้เดินทางไปโรดโชว์ตลาดท่องเที่ยวจีนในคุณหมิง และสิบสองปันนาสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยขยายความร่วมมือกับผู้ประกอบการนำเที่ยวคุณหมิง และสิบสองปีนนา เพื่อนำนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย และภาคเหนือของประเทศไทยด้วยคาราวานรถยนต์ให้มากขึ้น เพราะจังหวัดเชียงราย เป็นเมืองหน้าด่านที่เชื่อมต่อถนนอาร์ 3 เอ ที่สามารถเดินทางไปเชื่อมโยงสปป.ลาว และจีนได้อย่างสะดวก
ในครั้งนี้ ได้คิกออฟจัดคาราวานตามรอยตำนาน 17 จังหวัดภาคเหนือ จากสิบสองปันนา-คุณหมิง-ลาว และภาคเหนือของประเทศไทย ระหว่างวันที่ 12-25 มิถุนายน 2568 โดยจะพาคณะคาราวานรถยนต์ท่องเที่ยวไทย-จีน กว่า 200 คน ไปชมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อสร้างรูปแบบการท่องเที่ยวใหม่ ที่ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ รวมถึงจะนำเสนออาหารพื้นถิ่นของแต่ละจังหวัด และนำเสนอสินค้าหัตถกรรมของฝากของที่ระลึก ซึ่งมั่นใจว่า จะเกิดความร่วมมือทางการท่องเที่ยวระหว่างไทย-จีนให้แน่นเฟ้นยิ่งขึ้น และกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายให้มีความคึกคักมากขึ้น


อย่างไรก็ตาม ตลาดนักท่องเที่ยวไทยมีความสำคัญไม่ต่างจากตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยจังหวัดเชียงราย เป็นจังหวัดที่นักท่องเที่ยวเข้ามาสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของภาคเหนือ รองจากจังหวัดเชียงใหม่ ในปี 2567 มีนักท่องเที่ยวรวม 6 ล้านคน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 5 ล้าน คน และเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศกว่า 800,000คน และตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2567 จังหวัดเชียงรายติดอันดับ 8 จาก 10 อันดับจังหวัดยอดนิยมมีรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ประมาณ 18 ล้านบาท