กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้า คดีฉ้อโกงและฟอกเงินของ หมอบุญ วนาสินธ์ ว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมบูรณาการสืบสวนติดตามเบาะแสข้ามประเทศ ด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันปราบปรามอาชญกรรมข้ามชาติอย่างใกล้ชิดกับตำรวจสากลและพันธมิตร จนสามารถจับกุม น.ส.กชพร (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็น โบรกเกอร์จัดหาแหล่งเงินทุนให้กับนายแพทย์บุญฯ ผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 136/2567 ได้ที่สนามบินนานาชาติดอนเมือง เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันนี้ (16 เม.ย.) หลังเจ้าตัวได้หลบหนีออกจากประเทศไทย ตั้งแต่เดือนกันยายน 2567
โดย น.ส.กชพรฯ ถูกกล่าวหาว่า ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญาได้ที่สนามบินนานาชาติดอนเมือง

สำหรับกรณีดังกล่าว สืบเนื่องจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับโอนสำนวนการสอบสวนคดีอาญาจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2567 มีผู้กล่าวหาและผู้เสียหาย จำนวนกว่า 605 ราย ปรากฏมูลค่าความเสียหาย 16,100,602,806 บาท ได้ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมอายัดทรัพย์และส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษดังกล่าวไปยังพนักงานอัยการ เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 มีความเห็นควรสั่งฟ้องนายแพทย์บุญกับพวก รวม 16 ราย มีผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย ได้แก่ นายบุญ (สงวนนามสกุล) น.ส.กชพรฯ และ น.ส.ฐิติพรฯ หลบหนีไปยังต่างประเทศ จึงได้แจ้งไปยังองค์การตำรวจสากล (INTERPOL) ออกประกาศตำรวจสากลสีแดง (Red Notice)
ขณะที่ เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษและสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ฐิติพรฯ ซึ่งเป็นโบรคเกอร์ของนายแพทย์บุญฯ เช่นเดียวกันได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ทั้งนี้ น.ส.กชพรฯ เป็นผู้ต้องหารายที่ 15 ที่ถูกจับกุมตัวในคดีพิเศษที่ 136/2567 มีพฤติการณ์เชิญชวนให้ประชาชนร่วมลงทุนโดยการนำเงินมาให้นายแพทย์บุญฯ กับพวกกู้ยืม ต่อมาไม่จ่ายผลตอบแทนและไม่คืนเงินต้น จึงเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้ติดตามจับกุมตัวนายแพทย์บุญฯ ที่ยังหลบหนีอยู่เพื่อนำมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป