ดุสิตธานี Unlock ถึงเวลาคืนทุน โตครบทุกธุรกิจ

13 มิ.ย. 2568 - 12:16

  • กลุ่มดุสิตธานี (DUSIT) ประกาศก้าวเข้าสู่ช่วง ‘ปลดล็อคมูลค่า’ อย่างเป็นทางการในปี 2568

  • ชี้ ใช้เวลากว่า 9 ปี วางรากฐาน ปรับพอร์ตธุรกิจ

  • และลงทุนเชิงกลยุทธ์ในหลายแกน ทั้งโรงแรม อาหาร อสังหาริมทรัพย์ และการศึกษา

ดุสิตธานี Unlock ถึงเวลาคืนทุน โตครบทุกธุรกิจ

ท่ามกลางความท้าทายและบททดสอบที่รุมเร้าทั้งจากภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจถดถอย วิกฤตโควิด-19 หรือแม้แต่แรงกดดันจากการตัดสินใจครั้งสำคัญอย่างการรื้อโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งเดิม ... วันนี้ กลุ่มดุสิตธานีเดินหน้าสู่ช่วงเวลาสำคัญของแผน 9 ปี กับบทที่สามแห่งการ ‘ปลดล็อคมูลค่า’ (Unlock Value) ที่พร้อมแล้วสำหรับการเก็บเกี่ยวผลตอบแทนจากการลงทุนขนาดใหญ่ที่วางรากฐานมาตลอดทศวรรษ

ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มดุสิตธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ก้าวสู่ ‘ช่วงที่สาม’ ของแผนยุทธศาสตร์ 9 ปี (2559–2568) ซึ่งเป็นช่วง ‘Unlock Value’ หรือการเริ่มเก็บเกี่ยวผลตอบแทนจากการลงทุนและปรับโครงสร้างในช่วงที่ผ่านมา

“เราผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโควิด การปิดโรงแรมหลัก หรือภาระต้นทุนจากโครงการใหม่ วันนี้เราเคลียร์ทุกจุดได้ครบ เหลือเพียงการเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง ทั้งในไทยและต่างประเทศ”

ศุภจี กล่าว

ปัญหาที่เคยเป็นอุปสรรค: โควิด - โรงแรมปิด - ต้นทุนก้อนใหญ่

กลุ่มดุสิตธานีต้องเผชิญ 3 ปัญหาใหญ่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ได้แก่
- โควิด-19 ที่ทำให้ธุรกิจโรงแรมทั่วโลกหยุดชะงัก รายได้หดตัวเกิน 70%
- การปิดโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2562 เพื่อเปิดทางให้กับโครงการมิกซ์ยูส Dusit Central Park
-ต้นทุนทางการเงินสูง จากการลงทุนกว่า 46,000 ล้านบาทในโครงการขนาดใหญ่ ทำให้เกิดขาดทุนทางบัญชีต่อเนื่องจากดอกเบี้ยจ่าย

ปัจจุบันทุกปัญหาคลี่คลาย พร้อมสร้างรายได้เต็มระบบ

ศุภจี ยังชี้ ปัจจุบัน ดุสิตธานีสามารถ ‘ปลดล็อค’ ปัญหาหลักได้ครบแล้ว โดย...
- โครงการที่พักอาศัย Dusit Residences และ Dusit Parkside ขายได้แล้ว 90% และจะทยอยโอนในปลายปีนี้ รับรู้รายได้รวมกว่า 16,000 ล้านบาท
- โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ โฉมใหม่ เปิดให้บริการแล้ว ปลายปี 2567 และจะสร้างรายได้เต็มปีครั้งแรกในปี 2568
- ธุรกิจอาหาร-การศึกษา เติบโตต่อเนื่อง พร้อมแผนเข้าตลาดหุ้นบางส่วนในอนาคต

ธุรกิจหลักทั้งหมดพร้อมโต และนี่คือตัวเลขที่ต้องจับตา

1. ธุรกิจโรงแรม : ฟื้นตัวเต็มรูปแบบ

- เปิดโรงแรมใหม่ 7 แห่งในปี 2567
- ตั้งเป้ารายได้จากโรงแรมในปี 2568 โต 20-25%
- เตรียมเปิดอีก 11 แห่งในปี 2568 รวมในญี่ปุ่น, จีน, เนปาล, และไทย

dusit-9-year-plan-unlock-value-SPACEBAR-Photo05.jpg

2. ธุรกิจอาหาร : รายได้พุ่งต่อเนื่อง

- ปี 2567 รายได้ 1,470 ล้านบาท โต 18.6%
- ตั้งเป้าโตเพิ่มอีก 10–15% ในปี 2568
- ขยายแบรนด์ Bonjour และธุรกิจเคเทอริ่งโรงเรียนอินเตอร์ในไทย-เวียดนาม
- เตรียม “ปั้นสู่ IPO” ในอนาคต เพื่อเพิ่มศักยภาพทางการเงิน

3. อสังหาริมทรัพย์ : จากใช้เงิน เป็นสร้างเงิน

- เตรียมโอนที่พักอาศัย Dusit Residences/Dusit Parkside รวม 16,000 ล้านบาท
- ลดภาระหนี้ระยะยาวจากรายได้โครงการ ช่วยลดดอกเบี้ย
- รับรู้รายได้จากโครงสร้างพื้นฐานเชิงพาณิชย์ในโครงการ Dusit Central Park เพิ่มเติม

4. การศึกษา : รายได้โตต่อเนื่อง

- ปี 2567 มีรายได้ 427 ล้านบาท โต 6.8%
- ปี 2568 ตั้งเป้าโตอีก 10–12%
- พัฒนาโปรแกรมการศึกษาต่อเนื่อง ร่วมกับเครือข่ายนานาชาติ

ศุภจี ทิ้งท้ายว่า ดุสิตธานีไม่เพียงแค่ฟื้นตัวจากมรสุม 9 ปีที่ผ่านมา แต่พร้อมเข้าสู่เฟสใหม่ของเกมธุรกิจ ที่ทุกหน่วยธุรกิจจะเริ่มต้นเก็บเกี่ยว เติบโต และสร้างคุณค่าอย่างเป็นรูปธรรม

“เราเดินผ่าน ‘ช่วงเวลาที่ยากที่สุดมาแล้ว’ วันนี้คือจุดเริ่มต้นของการเติบโตใหม่ ที่ดุสิตธานีจะไม่โตแค่โรงแรม แต่โตไปพร้อมทุกธุรกิจในเครือ”

ศุภจี กล่าวอย่างมั่นใจ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์