ไม่สำเร็จผล! ข่าวกรองชี้การโจมตีของสหรัฐฯ ไม่ได้ทำลายล้างนิวเคลียร์อิหร่าน

25 มิ.ย. 2568 - 04:55

  • หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ประเมินในระยะแรกว่า การโจมตีของกองทัพสหรัฐฯ ต่อโรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่านเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ได้ทำลายส่วนประกอบหลักของโครงการนิวเคลียร์ และน่าจะทำให้โครงการล่าช้าไปเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น

  • การค้นพบเบื้องต้นนี้ขัดแย้งกับคำกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระบุว่าการโจมตี ‘ทำลายล้าง’ โรงงานเสริมสมรรถนะนิวเคลียร์ของอิหร่านจนหมดสิ้น

  • เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะสร้างโครงการนิวเคลียร์ขึ้นมาใหม่ ทรัมป์ตอบว่า “ที่นั่นอยู่ใต้ก้อนหิน สถานที่นั้นพังยับเยินหมดแล้ว”

ไม่สำเร็จผล! ข่าวกรองชี้การโจมตีของสหรัฐฯ ไม่ได้ทำลายล้างนิวเคลียร์อิหร่าน

หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ประเมินในระยะแรกว่า การโจมตีของกองทัพสหรัฐฯ ต่อโรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่านเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ‘ไม่ได้ทำลาย’ ส่วนประกอบหลักของโครงการนิวเคลียร์ และน่าจะทำให้โครงการล่าช้าไปเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น    

การประเมินดังกล่าวจัดทำโดยสำนักงานข่าวกรองกลาโหม (DIA) ซึ่งไม่เคยมีการรายงานมาก่อน โดยประเมินความเสียหายหลังจากการโจมตีของสหรัฐฯ  

การวิเคราะห์ผลกระทบต่อสถานที่และโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านยังคงดำเนินต่อไป และอาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อมีข้อมูลข่าวกรองเพิ่มเติม แต่การค้นพบเบื้องต้นนี้ขัดแย้งกับคำกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระบุว่าการโจมตี ‘ทำลายล้าง’ โรงงานเสริมสมรรถนะนิวเคลียร์ของอิหร่านจนหมดสิ้น รวมถึงคำกล่าวของรัฐมนตรีกลาโหม พีต เฮกเซธ ที่ว่า “ความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านถูกทำลายล้างแล้ว” 

แหล่งข่าว 2 รายที่เกี่ยวข้องกับการประเมินดังกล่าวระบุว่า “ยูเรเนียมเสริมสมรรถนะของอิหร่านไม่ได้ถูกทำลาย” แหล่งข่าวคนหนึ่งกล่าวว่า “เครื่องหมุนเหวี่ยงส่วนใหญ่ ‘ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์’” แหล่งข่าวอีกรายระบุว่า “ยูเรเนียมเสริมสมรรถนะถูกเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ก่อนที่สหรัฐฯ จะโจมตี” ขณะที่แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า “สหรัฐฯ เพียงแค่ทำให้โครงการล่าช้าไปไม่กี่เดือนเท่านั้น” 

แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว เผยกับสำนักข่าว CNN ว่า “การประเมินที่ถูกกล่าวอ้างนี้ผิดอย่างสิ้นเชิง และข้อมูลที่ว่าเป็น ‘ความลับสุดยอด’ แต่กลับถูกเปิดเผยต่อ CNN โดยบุคคลนิรนามที่ไม่เปิดเผยตัวในชุมชนข่าวกรอง การรั่วไหลของการประเมินที่ถูกกล่าวหานี้เป็นความพยายามอย่างชัดเจนในการหมิ่นประธานาธิบดีทรัมป์ และทำให้ชื่อเสียงของนักบินรบผู้กล้าหาญที่ปฏิบัติภารกิจทำลายล้างโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านได้อย่างสมบูรณ์แบบเสื่อมเสีย ทุกคนรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณทิ้งระเบิดหนัก 30,000 ปอนด์จำนวน 14 ลูกใส่เป้าหมายได้อย่างแม่นยำ นั่นคือการทำลายล้างทั้งหมด” 

ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า “CNN ที่นำเสนอข่าวปลอม และ New York Times ที่กำลังล้มเหลว ได้ร่วมมือกันพยายามทำลายชื่อเสียงของหนึ่งในปฏิบัติการทางทหารที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ฐานปฏิบัติการนิวเคลียร์ในอิหร่านถูกทำลายอย่างสมบูรณ์! ทั้ง New York Times และ CNN กำลังถูกประชาชนวิจารณ์อย่างหนัก!” 

ด้านกองทัพสหรัฐฯ ระบุว่า “ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามแผนและประสบความสำเร็จ” อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปภาพรวมของผลกระทบจากการโจมตีครั้งนี้ และไม่มีแหล่งข่าวรายใดอธิบายว่าการประเมินของ DIA สอดคล้อง หรือแตกต่างจากมุมมองของหน่วยงานข่าวกรองอื่นๆ อย่างไร สหรัฐฯ ยังคงรวบรวมข้อมูลข่าวกรองต่อไป รวมถึงข้อมูลจากภายในอิหร่านเพื่อประเมินความเสียหาย 

“จากทุกสิ่งที่เราเห็น และผมได้เห็นทั้งหมดแล้ว การโจมตีทางอากาศของเราทำลายความสามารถของอิหร่านในการสร้างอาวุธนิวเคลียร์โดยสิ้นเชิง ระเบิดขนาดใหญ่ของเราตกลงบนเป้าหมายแต่ละแห่งอย่างแม่นยำและทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผลกระทบของระเบิดเหล่านั้นถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพังในอิหร่าน ดังนั้นใครก็ตามที่บอกว่าระเบิดไม่ได้สร้างความเสียหายร้ายแรง ก็แค่พยายามบ่อนทำลายชื่อเสียงของประธานาธิบดีและภารกิจที่ประสบความสำเร็จ” 

เฮกเซธให้สัมภาษณ์กับ CNN

เมื่อเช้าวันอังคาร (24 มิ.ย.) ทรัมป์ก็ย้ำว่า “ความเสียหายจากการโจมตีนั้นร้ายแรงมาก ผมคิดว่ามันถูกทำลายไปหมดแล้ว...เป้าหมายเหล่านั้นถูกทำลาย และนักบินควรได้รับเครดิต” 

เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะสร้างโครงการนิวเคลียร์ขึ้นมาใหม่ ทรัมป์ตอบว่า “ที่นั่นอยู่ใต้ก้อนหิน สถานที่นั้นพังยับเยินหมดแล้ว” 

แม้ว่าทรัมป์และเฮกเซธจะมั่นใจกับความสำเร็จของการโจมตี แต่ แดน เคน ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (22 มิ.ย.) ว่า “แม้การประเมินความเสียหายจะยังคงดำเนินต่อไป แต่ ‘ยังเร็วเกินไป’ ที่จะให้ความเห็นว่าอิหร่านยังคงรักษาศักยภาพด้านนิวเคลียร์ไว้ได้หรือไม่” 

หลายฝ่ายไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวอ้างว่า ‘โครงการนิวเคลียร์อิหร่าน’ ถูกทำลายล้างหมดแล้ว 

ไมเคิล แม็กคอล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวอ้างของทรัมป์ที่ว่าโครงการของอิหร่านถูก ‘ทำลายล้าง’ แล้ว เมื่อถูก CNN กดดันให้ชี้แจงในวันอังคาร (24 มิ.ย.) 

“ผมเคยได้รับข้อมูลสรุปเกี่ยวกับแผนนี้มาก่อนแล้ว และมันไม่เคยมีเป้าหมายที่จะทำลายสถานที่นิวเคลียร์ให้สิ้นซาก แต่กลับสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง” แม็กคอลกล่าวกับ CNN โดยอ้างถึงแผนการของกองทัพสหรัฐฯ ที่จะโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน “แต่ก็รู้กันอยู่แล้วว่านี่เป็นเพียงความล่าช้าชั่วคราว” 

เจฟฟรีย์ ลูอิส ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธและศาสตราจารย์จากสถาบันมิดเดิลเบอรีเพื่อการศึกษาระหว่างประเทศ ซึ่งได้ตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมเชิงพาณิชย์ของสถานที่โจมตีอย่างละเอียด เห็นด้วยกับการประเมินที่ว่าการโจมตีดังกล่าวไม่น่าจะทำให้โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านสิ้นสุดลง 

การหยุดยิงเกิดขึ้นโดยที่ทั้งอิสราเอลและสหรัฐฯ ไม่สามารถทำลายสถานที่นิวเคลียร์ใต้ดินสำคัญหลายแห่งได้ รวมถึงที่ใกล้เมืองนาตันซ์ อิศฟาฮาน และปาร์ชิน ซึ่งปาร์ชินเป็นสถานที่นิวเคลียร์แยกออกมาแห่งเดียวใกล้กับกรุงเตหะราน สถานที่เหล่านี้อาจเป็นฐานสำหรับการฟื้นฟูโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านได้อย่างรวดเร็ว” 

CNN รายงานว่า มีคำถามมานานแล้วว่า ‘ระเบิดบังเกอร์บัสเตอร์’ ของสหรัฐฯ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ ‘Massive Ordnance Penetrators’ จะสามารถทำลายฐานนิวเคลียร์ของอิหร่านที่ได้รับการเสริมกำลังอย่างแน่นหนาและฝังอยู่ใต้ดินได้หรือไม่ โดยเฉพาะที่ฟอร์โดว์และอิสฟาฮาน ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน 

“ที่น่าสังเกตคือ สหรัฐฯ โจมตีอิสฟาฮานด้วยขีปนาวุธโทมาฮอว์กที่ยิงจากเรือดำน้ำแทนระเบิดบังเกอร์บัสเตอร์ นั่นเป็นเพราะว่าสหรัฐฯ เข้าใจกันว่าระเบิดนี้ไม่น่าจะเจาะทะลุชั้นล่างของอิสฟาฮานได้สำเร็จ ซึ่งถูกฝังอยู่ลึกกว่าฟอร์โดว์เสียอีก” แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าว 

ตามข้อมูลจากแหล่งข่าว 2 รายที่ทราบเรื่องนี้ระบุว่า “เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เชื่อว่าอิหร่านยังมีโรงงานนิวเคลียร์ลับที่ไม่ได้ถูกโจมตีในครั้งนั้นและยังคงเปิดดำเนินการอยู่” 

(Photo by Satellite image ©2025 Maxar Technologies / AFP) 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์