‘เอกนัฏ พร้อมพันธุ์’ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรครทสช.เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.มติออกมาว่าอย่างไร ว่า ถือเป็นประสบการณ์การเมืองสำหรับตนที่แย่ที่สุด จะตัดสินใจทำอะไรก็ไม่ง่าย ในพรรคก็มีการพูดคุยกันตลอด ตอนนี้รทสช.มีทั้งศึกนอกศึกใน เราต้องคุยกันเพื่อรับฟังสถานการณ์ว่าเป็นยังไง ยอมรับว่าอยู่จุดที่เราตัดสินใจยาก ซึ่งพยายามคุยกับสส.และหัวหน้าพรรคตลอดเวลา เราต้องเลือกทางที่ดีที่สุด
เมื่อถามว่า กระแสข่าวข้อเสนอให้นายกรัฐมนตรีลาออก ไม่เช่นนั้นรทสช.จะถอนตัวจากรัฐบาล ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เอกนัฏ ตอบว่า จุดแรกรับเสียงสะท้อนจากผู้สนับสนุนรทสช. ที่ขณะนี้ไม่ใช่ฝั่งเราหมด โดยเรียกร้องให้รทสช.แสดงจุดยืน และความรับผิดชอบ ซึ่งเราก็พูดคุยอยุ๋ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ต้องยอมรับว่าที่ประเทศอยู่ในจุดสั่นคลอน โดยเฉพาะปัญหาชายแดนไทย กัมพูชา ที่กำลังจะสู้รบกันอยู่ และส่วนตัวก็สนับสนุนเต็มที่ว่ากองทัพต้องเอาจริง สิ่งที่กัมพูชาทำเป็นการเหยียดหยามเกียรติของประเทศไทย เราจึงต้องสนับสนุนให้เขาหน้าที่ของเขาอย่างเต็มที่ รวมถึงปัญหาอื่นๆ อาทิ ภาษีทรัมป์ และสถานการณ์สู้รบในอิหร่าน
"สิ่งที่เราอยากทำกับสิ่งที่เราต้องทำมันก็ตัดสินใจไม่ง่ายเลยให้มันผ่านสถานการณ์แบบนี้ไปได้ก่อน ในระหว่างนี้ก็ต้องเป็นอย่างนั้น"
— เอกนัฏ กล่าว
ส่วนจะรับมือกับผู้สนับสนุนรทสช.ที่รับไม่ได้ กับการตัดสินใจแบบนี้ และโบกมือลาอย่างไร เอกนัฏ กล่าวว่า "เราต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจ มันเป็นอย่างนั้นแหละ แต่เป็นเรื่องตัดสินใจยาก หากผมเป็นแค่สมาชิกพรรค หรือผู้สนับสนุน ผมก็คงตัดสินใจเช่นนั้น แต่วันนี้ผมเป็นกัปตัน เรือก็กำลังล่องผ่านมรสุม ให้ผมทิ้งตอนนี้คนบนเรือก็ตายกันหมด"
พร้อมยืนยันว่าได้พยายามทำให้ดีที่สุด ในการประคับประคองพรรค ที่ผ่านมาทำการเมืองเอาอุดมการณ์เป็นที่ตั้ง แต่ก็ต้องรับสภาพกับสิ่งที่เกิดขึ้นในทางปฏิบัติด้วย ส่วนสิ่งที่เลือกเช่นนี้ จะสามารถดึงกองเชียร์กลับมาได้หรือไม่ เอกนัฏ กล่าวว่า "ไม่มั่นใจ ผมเข้าใจสำหรับทุกคนที่คิดและตัดสินใจ และผมก็ไม่อยากจะหลบ และไม่ปิด อยากจะพูดตรงไปตรงมาได้" และจะยืนยันได้หรือไม่ว่า รทสช.จะสนับสนุนรัฐบาลไปจนสุดทาง เอกนัฏ กล่าวว่า
"ทางมันไปทางไหน เราก็อยู่ประคับประคองให้ผ่านสถานการณ์วิกฤติไปก่อน ซึ่งตอนนี้ไม่มีอะไรแน่นอน เพราะมีเรื่องศาลรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณาเกี่ยวกับตัวนายกฯอีกในสัปดาห์หน้า ฉะนั้นเหตุการณ์อะไรก็เกิดขึ้นได้ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด"
สำหรับเหตุผลที่ไม่ลาออกนั้น เอกนัฏ ย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า "แล้วประเทศได้อะไร ผมเข้าใจ แต่ถ้าวันนี้ไม่มีรัฐบาล ในการแก้ปัญหาต่างๆ แล้วมันใช่หรือ สำหรับผมเราต้องมีความรับผิดชอบตรงนี้อยู่"
เมื่อถามต่อว่า ตอนนี้ได้พูดคุยกับ ‘วิทยา แก้วภราดัย’ และ ‘จุติ ไกรฤกษ์’ รองหัวหน้ารทสช.ที่ออกตัวว่าถ้านายกฯไม่ลาออก จะถอนตัวเอง แล้วหรือไม่ เอกนัฏ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ได้เจอจุติที่จังหวัดพิษณุโลกเมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมาก็ไม่ได้คุยรื่องนี้ ส่วนการจัดสรรรัฐมนตรีในโควต้ารทสช.ลงตัวแล้วยัง ในหัวไม่มีเรื่องเหล่านี้อยู่ในใจ ที่ผ่านมาการตัดสินใจคือว่าจะอยู่หรือใครจะไป เรื่องตำแหน่งไม่มีอยู่ในหัวเลย ถ้าอยากได้ตำแหน่งของตน ก็เอาไปได้เลย ไม่ได้ยึดติดอะไร ส่วนตัวอายุแค่นี้เอง เป็นไปได้ก็อยากทำการเมืองต่อไป แต่ต้องอยู่ในหลักการที่ถูกต้อง แต่ตอนนี้อำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบเราอยู่ตรงนี้ คิดอยู่ในใจว่าทำไมต้องเป็นเราด้วย เหมือนดวงไม่ดี ก็ไม่เป็นไร จะทำให้ดีที่สุด
เมื่อถามต่อว่า ได้รับแจ้งนายกฯ หรือไม่ ว่าจะได้เก้าอี้เพิ่ม เลขาฯ พรรค รทสช. กล่าวว่า ยังไม่มีโอกาสคุยกันนายกฯเลย พูดจริงนะ ไม่เอา
"จะอยู่หรือเปล่ายังอีกเรื่องนึง จะไปขออะไรมาเพิ่ม เพื่ออะไร ไม่ขอเพิ่ม ถ้าอยู่ก็อยู่ทำงานต่อไป "
— เอกนัฎ กล่าวทิ้งท้าย
