‘อีลอน มัสก์’ โบกมือลารัฐบาลทรัมป์ หวนกลับไปดูแลธุรกิจเต็มที่

29 พ.ค. 2568 - 04:12

  • อีลอน มัสก์ ประกาศยุติบทบาทในฐานะพนักงานพิเศษของรัฐบาลที่เข้ามาดูแลกระทรวงเพิ่มประสิทธิภาพรัฐบาล หรือ DOGE หลังครบกำหนดเวลา

  • มัสก์วิจารณ์ร่างกฎหมายเกี่ยวกับภาษีและงบประมาณของทรัมป์ โดยระบุว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะเพิ่มการขาดดุลงบประมาณและบั่นทอนความพยายามของ DOGE ในการลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล

‘อีลอน มัสก์’ โบกมือลารัฐบาลทรัมป์ หวนกลับไปดูแลธุรกิจเต็มที่

อีลอน มัสก์ ประกาศยุติบทบาทในฐานะพนักงานพิเศษของรัฐบาลที่เข้ามาดูแลกระทรวงเพิ่มประสิทธิภาพรัฐบาล หรือ DOGE (Department of Government Efficiency) ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยอ้างว่ามีความเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับร่างกฎหมายงบประมาณใหม่ของทรัมป์

 

“เนื่องจากเวลาตามกำหนดการของผมในฐานะพนักงานพิเศษของรัฐบาลสิ้นสุดลงแล้ว ผมขอขอบคุณประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สำหรับโอกาสในการลดการใช้จ่ายที่สิ้นเปลือง” มัสก์ทวีตบน X “ภารกิจ DOGE จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เมื่อภารกิจนี้กลายเป็นเรื่องปกติของรัฐบาล”

 

มัสก์วิจารณ์ร่างกฎหมายเกี่ยวกับภาษีและงบประมาณของพรรครีพับลิกันที่กำลังพิจารณาในสภาคองเกรส โดยระบุว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะเพิ่มการขาดดุลงบประมาณและบั่นทอนความพยายามของ DOGE ในการลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล และยังบ่นว่า DOGE กลายเป็น “แพะรับบาป” ของความไม่พอใจรัฐบาล

 

“พูดตรงๆ นะ ผมผิดหวังมากที่เห็นร่างกฎหมายที่ใช้งบประมาณมหาศาล ซึ่งจะทำให้ขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น ไม่ใช่ทำให้มันลดลง และยังบั่นทอนงานที่ทีม DOGE กำลังทำอยู่ด้วย” มัสก์ให้สัมภาษณ์กับ CBS News

 

ร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณ หรือ One Big, Beautiful Bill Act ของทรัมป์ ซึ่งผ่านการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรสัปดาห์ที่แล้ว และกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของวุฒิสภา เสนอการลดหย่อนภาษีและลดการใช้จ่ายจำนวนมหาศาล และเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของวาระที่สองของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์

 

แต่บรรดานักวิจารณ์เตือนว่า การดำเนินการดังกล่าวจะทำลายระบบการบริการสุขภาพ และการขาดดุลของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นถึง 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในเวลา 10 ปี

 

“ร่างงบประมาณมีจำนวนมหาศาลได้ หรือมันเป็นสิ่งสวยงามได้ แต่ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นทั้งสองอย่างได้มั้ย นี่คือความเห็นส่วนตัวของผมนะ” มัสก์เผยกับ CBS News ซึ่งจะออกอากาศเต็มในวันอาทิตย์นี้

 

ขณะที่ทำเนียบขาวพยายามสยบความเห็นต่างกรณีงบประมาณของรัฐบาลโดยไม่เอ่ยถึงชื่อของมัสก์โดยตรง

 

“ร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณไม่ใช่ร่างกฎหมายงบประมาณประจำปี” สตีเวน มิลเลอร์ รองหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหารของทรัมป์เผยบน X หลังตัวอย่างบทสัมภาษณ์ของมัสก์ออกอากาศ และเผยอีกว่า การตัดลดค่าใช้จ่ายของ DOGE จะต้องทำผ่านร่างกฎหมายอีกฉบับหนึ่งตามระบบราชการของรัฐบาลกลางตามที่วุฒิสภาระบุ

ความคิดเห็นของมัสก์แสดงถึงความขัดแย้งกับประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อย หลังจากมัสก์ช่วยผลักดันทรัมป์กลับเข้าสู่อำนาจอีกครั้ง โดยเป็นผู้บริจาคเงินมากที่สุดให้กับการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในปี 2024 ของทรัมป์

 

-แพะรับบาป-

 

ทรัมป์มอบหมายให้มัสก์ตัดลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในฐานะหัวหน้า DOGE แต่หลังจากเริ่มต้นอย่างกระตือรือร้น มัสก์ได้ประกาศในช่วงปลายเดือนเมษายนว่าจะถอยกลับมาเพื่อบริหารบริษัทของตัวเองอีกครั้ง

 

มัสก์บ่นระหว่างให้สัมภาษณ์กับ Washington Post ว่า DOGE ซึ่งทำงานกันนอกทำเนียบขาวโดยมีพนักงานเป็นคนรุ่นใหม่ เป็น “สายล่อฟ้า” ของเสียงวิพากษ์วิจารณ์

 

“DOGE กลายเป็นแพะรับบาปสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นที่ไหน เราจะถูกวิจารณ์สำหรับเรื่องนั้นๆ แม้ว่าเราจะไม่เกี่ยวข้องเลยก็ตาม” มัสก์เผย

 

มัสก์โทษว่าระบบราชการของสหรัฐฯ ทำให้ DOGE ไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย แม้ว่าจะมีรายงานว่าสไตล์การวางอำนาจของเขาและความไม่คุ้นเคยกับกระแสการเมืองของสหรัฐฯ ก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน

 

“สถานการณ์ของระบบราชการของรัฐบาลกลางแย่กว่าที่ผมคิด ผมแค่นึกว่ามันมีหลายปัญหาอยู่ แต่การพยายามปรับปรุงสิ่งต่างๆ ใน ​​DC ถือเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากทีเดียว”

 

ก่อหน้านี้มัสก์ยอมรับว่า เขาไม่สามารถบรรลุเป้าหมายทั้งหมดของ DOGE แม้ว่าจะมีพนักงานหลายหมื่นคนถูกให้ออกจากงานและอีกหลายหน่วยงานที่ถูกปิด

 

แต่ในเวลาเดียวกัน ธุรกิจของมัสก์ก็ได้รับผลกระทบด้วย

 

บรรดาผู้ประท้วงการลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลต่างก็พุ่งเป้ามาที่ตัวแทนจำหน่าย Tesla ทั้งยังมีการจุดไฟเผารถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla จนกำไรของบริษัทลดฮวบ

 

“ผู้คนพากันเผา Tesla คุณทำแบบนั้นทำไม? มันไม่เท่เอาซะเลย” มัสก์เผยกับ Washington Post

 

นอกจากนี้ มัสก์ยังให้ความสำคัญกับ Space X อีกด้วย หลังจากความล้มเหลวหลายครั้งกับความฝันในการสร้างอาณานิคมบนดาวอังคาร ซึ่งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ยานต้นแบบ Starship ของบริษัทเกิดระเบิดเหนือมหาสมุทรอินเดีย และมัสก์ยังบอกว่า จะลดการใช้เงินในทางการเมืองหลังควักกระเป๋าไปราว 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการสนับสนุนทรัมป์

 

Photo by Jim WATSON / AFP

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์