บล.ดาโอ (ประเทศไทย) คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (8 ก.ค. 2568) มีแนวโน้ม เคลื่อนไหวผันผวนในแดนลบ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บ ภาษีศุลกากร 14 ประเทศ เริ่ม 1 ส.ค. ซึ่งรวมถึงประเทศไทยในอัตรา 36% ตามเดิม แม้กระทรวงการคลังของไทยจะส่งข้อเสนอการค้ารอบใหม่ให้สหรัฐฯ แล้วก็ตาม
ตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดปรับตัวลงกว่า 10 จุด ตามตลาดภูมิภาค อาทิ ไต้หวัน มาเลเซีย อินโดนีเซียเมื่อเวลา 9.56 น. ดัชนี SET เปิดตลาดมาอยู่ที่ 1,112.39 จุด ลดลง 10.61 จุด (-0.94%) ตอบรับความกังวลจากสหรัฐประกาศภาษีศุลกากรประเทศต่าง ๆ อย่างน้อย 14 ประเทศ จะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.โดยไทยจะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 36% ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 2 เม.ย.
มงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวในรายการ FIRST UP ทางเพจ SPACEBAR ว่า รู้สึกเซอร์ไพส์เพราะไม่คิดว่าไทยจะติดอันดับใน 14 ประเทศที่ได้รับจดหมายจากสหรัฐ และคิดว่าไทยอาจจะได้เลทภาษีที่น้อยลง อย่างไรก็ตามมองว่าตลาดไม่ได้ Panic มากนัก แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ ตลาดกำลังรอความชัดเจนจากผลเจรจาการค้ารอบใหม่กับสหรัฐฯ และยังถูกกดดันจากความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ
นอกจากนี้ยังมองว่าจดหมายเรียกเก็บภาษีที่ทางสหรัฐฯ ส่งให้กับ 14 ประเทศนั้นส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับประเทศจีนแทบทั้งสิ้น
เชื่อ ภาษีนำเข้าไทย สูงกว่าเวียดนาม
ส่วนที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้มองว่าเป็นเชิงเซนติเมนต์ตลาดไม่เกี่ยวกับภาษีมากนัก สังเกตจากหุ้นที่ปรับตัวลดลง ส่วนใหญ่ไม่เชื่อมโยงกับภาษี อย่าง ITC, GULF, CPALL, CPAXT, AOT, TURE, SCC เป็นต้น เนื่องจากภาษี 36% เป็นของเก่า และเชื่อว่าข้อเสนอใหม่ของไทยอาจจะทำให้สหรัฐฯเก็บภาษีน้อยลง เพราะทรัมป์เป็นนักเจรจา อย่างน้อย 10% ที่ไทยต้องเจอ ส่วนจะมากหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับการเจรจาของไทยเอง และทำใจได้เลยว่าเรทภาษีนำเข้าไทยอาจจะไม่ได้ดีเท่าเวียดนาม ซึ่งคาดว่าประมาณ 18% หรือ 20%
หุ้นที่ได้รับผลกระทบหากภาษีนำเข้าไทย 36%
มงคล มองว่า หุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะได้รับผลกระทบ รวมถึงหุ้นในกลุ่มอาหารสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง อาหารสัตว์เลี้ยง เช่น
- หุ้นกลุ่มนิคมฯ WHA,AMATA
- หุ้นยางพารา STA
- หุ้นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ HANA, KCE,
- หุ้นชิ้นส่วนรถยนต์ AH, NER
- หุ้นกลุ่มอาหารกระป๋อง TU
จับตาประเด็นสำคัญในวันนี้
• ผลการเจรจาการค้าสหรัฐฯ–ไทย: ไทยถูกเรียกเก็บภาษี 36% เท่าเดิม ตลาดรอผลข้อเสนอรอบใหม่ที่เพิ่งยื่นไปเมื่อวันที่ 6 ก.ค.
• การเมืองไทย: ยังอยู่ในภาวะ “รอความชัดเจน” ทั้งเรื่องครม. และสถานะของนายกฯ
• ข่าวจีน: พิจารณาขยายช่องทางลงทุนในพันธบัตรต่างประเทศ หวังลดแรงกดดันจากเศรษฐกิจภายใน
• Entertainment Complex: กระทรวงการคลังเตรียมถอนร่างออกจากการประชุมสภา เพื่อรอความพร้อมจากการปรับ ครม.
• คาดการณ์กำไร บจ. ไตรมาส 2/2568: DAOL ประเมินอยู่ในกรอบ 2.1–2.3 แสนล้านบาท ต่ำกว่าระดับ 2.82 แสนล้านบาทในไตรมาสแรก โดยกลุ่มธนาคารอาจทำกำไร 5.3 หมื่นล้านบาท (-2% YoY, -10% QoQ)
อย่างไรก็ตามคาดว่า Downside หุ้นไทยมีโอกาสเสี่ยงหลุด 1,000 จุด หากสถานการณ์เกิด big surprise คือ ยุบสภาฯ หรือไทยไปติดกลุ่ม 3 ในการเจรจาการค้าสหรัฐฯ เมื่อถึงวันที่ 1 สิงหาคม มองกรอบหุ้นไทย บริเวณ 1,090-1,100 จุด จะเป็นกรอบที่ซัพพอร์ตตลาดได้ดี
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: เน้นหุ้นราคาย่อ–มีปัจจัยบวก
DAOL มองว่าตลาดยังไม่ถึงขั้นเข้าสู่ภาวะ panic เว้นแต่จะเกิด “big surprise” เช่น การยุบสภา หรือไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม 3 ที่เผชิญมาตรการทางการค้าที่เข้มงวดกว่านี้เมื่อถึง 1 ส.ค. และเป็นจังหวะในการเข้าสะสมหุ้น
กลยุทธ์วันนี้:
• เน้น ขายทำกำไรระยะสั้น
• ทยอย จัดพอร์ตใหม่ ด้วยหุ้นราคาย่อและมีปัจจัยบวก
• หลีกเลี่ยงหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากการเมืองหรือสงครามการค้า เช่น หุ้นนิคมฯ, หุ้นส่งออก
หุ้นในพอร์ตแนะนำวันนี้ (Model Portfolio):
• TTB (10%)
• CPAXT* (10%)
• TOP (10%)
• SCB (10%)
ถอดหุ้นออก: AMATA*, CBG, KTC*
เพิ่มหุ้นเข้า: TTB, CPAXT*
หุ้นเด่นทางเทคนิควันนี้
• NCAP
• SMT