ตามที่คณะกรรมการกระทรวงคมนาคม นำโดยนายสรพงษ์ แก้วไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่เขาพับผ้าตรัง-พัทลุง ดูข้อเท็จจริง ตามข้อเรียกร้องสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา แต่ไม่ยอมให้นายกสมาคมฯ เข้าร่วมประชุมเพื่อแก้ปัญหา สมาคมฯ ยืนยันหากไม่ยกเลิกประกาศถนนขึ้นเขาพับผ้าเส้นนี้ ฟ้องศาลปกครองแน่นอน 12 มิถุนายนนี้ พร้อมทั้งนัดชุมนุมประท้วงเส้น 304 กบิณบุรี-วังน้ำเขียว รถเข้าร่วม 100 คัน วันที่ 16 มิถุนายน ยืนยันทำอารยะขัดขืนต่อคำสั่งกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรัง ว่า จากกรณีการชุมนุมประท้วงของผู้ประกอบการรถบัสโดยสาร 2 ชั้น ซึ่งชุมนุมรถบัส 2 ชั้นกว่า 100 คัน ที่บริเวณอันดามันเกตเวย์ ถนนเขาพับผ้า ตรัง-พัทลุง เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา นำโดยสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย (สปส.) และมีการยื่นหนังสือเรียกร้องไปยัง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ขอให้ยกเลิกกรณีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ออกประกาศห้ามรถโดยสารสาธารณะ 2 ชั้น ทั้งรถโดยสารประจำทาง และไม่ประจำทาง เดินรถใน 7 เส้นทางเสี่ยง ที่มีความลาดชันทั่วประเทศ รวมทั้งเส้นทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงเขาพับผ้า ตรัง -พัทลุง ซึ่งส่งผลกระทบทั้งผู้ประกอบการเดินรถที่ต้องวิ่งอ้อมเพิ่มระยะทางอีกนับร้อยกิโลเมตร ไปใช้เส้นทาง จ.สตูล หรือไปใช้เส้นทางอ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราชแทน รวมถึงร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ห้องพัก ต่างก็ออกมาเรียกร้องให้มีการทบทวนคำสั่งในเส้นทางเขาพับผ้าดังกล่าว โดยระบุว่าที่ผ่านมาเส้นทางเขาพับผ้ารถบัส รวมทั้งรถบัส 2 ชั้นไม่เคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อน
นอกจากนี้ยังมีการชูป้ายขับไล่นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.กระทรวงคมนาคม กำกับดูแลกรมการขนส่งทางบก รวมถึงอธิบดีกรมการชนส่งทางบก เตรียมร้องศาลปกครอง ให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว รวมทั้งแจ้งความเอาผิดอาญาผู้เกี่ยวข้องกับการออกประกาศ เนื่องจากเชื่อว่าออกโดยมิชอบ ถนนเขาพับผ้ามีความลาดชันไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ประกาศได้ แม้จะมีความลาดชัน 8%ตามเกณฑ์ แต่ระยะทางของความลาดชันมีเพียงไม่เกิน 1 กิโลเมตร ไม่ได้ต่อเนื่องยาว 5 กิโลเมตรตามเงื่อนไขของประกาศ พร้อมขู่เคลื่อนนำรถโดยสาร 2 ชั้น 4 พันคันเข้ากรุงเทพฯ เพื่อให้กรมการขนส่งทางบกตรวจสภาพรถว่าไม่มีความปลอดภัยอย่างไร
กระทรวงคมนาคมรับข้อเสนอจะทบทวนคำสั่งดังกล่าว โดยแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมา 1 ชุด ซึ่งเป็นผู้แทนจาก 4 ฝ่าย ประกอบด้วย 1.นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม 2.รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก 3.วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และ 4.นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้ง 7 เส้นทางใหม่อีกครั้ง
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 คณะกรรมการฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบถนนหมายเลข 4 ช่วงเขาพับผ้า ตรัง-พัทลุง เขต จ.พัทลุง แขวงการทางพัทลุงได้รายงานความลาดชันและระยะทางของถนน พร้อมทั้งแผนที่ของถนนตลอดสาย เพื่อให้รองปลัดคมนาคม และคณะกรรมการฯ รับทราบ โดยมีการตรวจถนนจุดเสี่ยงที่มีความลาดชัน พร้อมประชุมร่วมกันภายหลังการตรวจสอบ
สุริยะ แกล้วทนงค์นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้น กล่าวว่า เรื่องของความปลอดภัยของผู้โดยสารนั้น การแก้ปัญหาไม่ใช่ห้ามรถวิ่งเสียทีเดียว เพราะมีอีกหลายวิธีที่สามารถดำเนินการได้ เพราะต้นเหตุของอุบัติเหตุทั้งหมดมาจากการใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เราสามารถเลือกจำกัดความเร็วต่ำได้ และมองว่าการแก้ปัญหาด้วยการห้ามรถวิ่งไม่ได้มาจากการศึกษาข้อมูลที่แท้จริง
“หากยังยืนกรานจะแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ก็จะเกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง ซึ่งเรื่องของการฟ้องศาลปกครองจะเริ่มดำเนินการในสัปดาห์หน้า ซึ่งกฎเกณฑ์ 8% ยาวต่อเนื่อง 5 กิโลกรัมเมตรนั้น ส่วนตัวมั่นใจว่าเส้นทางของพับผ้าไม่ยาวต่อเนื่อง ซึ่งได้ไปดูข้อมูลกายภาพมาแล้วว่าไม่ยาวต่อเนื่อง”
“ส่วนประเด็นความลาดชัน 9.6% ก็ไม่มีผลเช่นกัน เพราะไม่ได้ยาวต่อเนื่อง 5 กิโลเมตร จริงๆแล้วตนเป็นคนร้องขอให้มีตัวแทนจากสภาวิศวกรรมเป็นคนกลางมาร่วมด้วย เพราะตนเชื่อมั่นว่าเขามีจรรยาบรรณการทำงานของวิศวกร และน่าจะให้ผลตามข้อเท็จจริง ทั้งนี้หากกฎเกณฑ์ที่เกิดขึ้นไม่เป็นธรรมและไม่ถูกต้องเราจะทำการอารยขัดขืน”
ด้าน สรพงษ์ ไพฑูรย์พงษ์รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า “วันนี้เรามาตรวจสอบสภาพความปลอดภัยของพื้นที่ ซึ่งข้อมูลที่เราได้รับเป็นข้อมูลจากส่วนกลาง วันนี้ลงพื้นที่ก็อยากเห็นภาพความของสิ่งอำนวยความสะดวกความปลอดภัย เพื่อหามาตรการอย่างอื่นได้หรือไม่อย่างไร จึงเป็นการหารือร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มีทั้งสำนักงานแขวงทางหลวง อยากให้ทางสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทยสบายใจว่าเราต้องการแก้ปัญหาตามที่สมาคมฯ เรียกร้องมา”
รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามสิ่งที่ออกมาเป็นนโยบายก็มีจุดประสงค์เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องผู้โดยสารรถทั้งประเทศ ไม่ได้เป็นการเลือกปฏิบัติ ฉะนั้นการดำเนินการทั้งหมดก็เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้โดยสารที่จะต้องเดินทางได้รับประโยชน์สูงสุด และเราต้องตรวจสอบดูถึงเรื่องผลกระทบต่างๆ ของผู้ประกอบการที่เรียกร้องมา
“เราพยายามหามาตรการ เพิ่มมาตรการกำกับความปลอดภัยในบางเรื่อง และจะมีการหารือกัน ดูสภาพพื้นทางในฝั่งจังหวัดพัทลุง ซึ่งหากวิ่งจากจังหวัดตรังพบมีความลาดชัน 8% ใน 2-3 จุด แต่ในฝั่งพัทลุงมีความลาดชัน 9.6% อยู่ด้วย”
รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวด้วยว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้มีตัวแทนจากสภาวิศวกรรม มาด้วยซึ่งมาทำหน้าที่เป็นคนกลาง เพื่อพิจารณาในข้อเท็จจริงต่างๆ ส่วนอำนาจของการพิจารณาเป็นเรื่องของคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง ซึ่งวันนี้จะรับข้อเสนอในพื้นที่ไปหารือกับคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางต่อไป ส่วนประเด็นที่ผู้ประกอบการจะฟ้องศาลปกครองนั้น เป็นเรื่องระหว่างรัฐกับประชาชน ที่สามารถแสวงหาความยุติธรรมได้
ล่าสุดวันที่ 10 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวติดต่อไปที่สมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เจ้าหน้าที่ระดับสูง เปิดเผยว่า ในการลงพื้นที่ของคณะกรรมการกระทรวงคมนาคม นำโดยนายสรพงษ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ที่เดินทางมายังตรวจถนนทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงเขาพับผ้า ตรัง-พัทลุง เมื่อวันที่ 8มิถุนายน ที่ผ่านมา ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะยกเลิกประกาศคำสั่งห้ามรถโดยสารสาธารณสองชั้น วิ่งเส้นทางนี้ได้หรือไม่
“ขณะนี้สมาคมมีมติในที่ประชุม สมาคมฯจะต้องฟ้องกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ต่อศาลปกครองกลาง ในช่วงเช้าวันที่ 12 มิถุนายน 2568 เพื่อให้ศาลคุ้มครองชั่วคราว ส่วนวันที่ 16 มิถุนายน 2568 จะมีการรวมพลรถโดยสารสาธารณะไม่ประจำเส้นทางที่ถนน 304 กบิณบุรี-วังน้ำเขียว ร่วม 100 คัน เพื่อประท้วงและเรียกร้อง กรมการขนส่งทางบก ทบทวนคำสั่งห้ามรถ 2 ชั้นวิ่งผ่านถนนสาย 304 นี้”
