ที่รัฐสภาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ปีที่ 2 ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) ที่มี ‘พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน’ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม ภายหลังเสร็จสิ้นกระทู้ถามสด มีการอ่านพระราชโองการเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร และพระราชโองการให้รัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง พร้อมแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่



หลังเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมเรื่องการรับรองรายงานการประชุม ปรากฎว่า ‘อัคร ทองใจสด’ สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขอนับองค์ประชุมในทันที ทำให้ ‘วัชรพล ขาวขำ’ สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ประท้วงว่า มีผู้รับรองในการเสนอนับองค์ประชุมไม่ครบ แต่พิเชษฐ์ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีผู้รับรองรายงานการประชุมครบถ้วน ทำให้สส.เพื่อไทยพยายามที่จะยื้อเวลา ขอให้รอสมาชิกอีกหลายคนที่ติดการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 สภาผู้แทนราษฎร แต่รอมาหลายนาที กมธ.ก็ยังเข้ามาในห้องประชุมไม่ครบ ทำให้วัชรพล ขอเสนอให้นับองค์ประชุมแบบขานชื่อเป็นรายบุคคล ทั้งนี้ หลังจากที่รอมาประมาณ 10 นาที พิเชษฐ์จึงแจ้งในที่ประชุมว่า
“วันนี้เป็นการประชุมสภาฯ วันแรก ดังนั้นเราเอาแค่นี้ก่อนครับ ขอปิดประชุม”
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า รัฐมนตรีซึ่งเป็น สส.หลายคนเพิ่งเสร็จภารกิจประชุม ครม. นัดพิเศษ ที่ทำเนียบรัฐบาล และเร่งเดินทางมาร่วมประชุมเพื่อพยุงองค์ประชุม แต่ไม่ทันก่อนที่ประธานจะสั่งปิดการประชุม



ขณะที่ ‘ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์’ สส.เชียงใหม่ และรองโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่1 สั่งปิดประชุม ภายหลังฝ่ายค้านเสนอนับองค์ประชุมว่า วันนี้เป็นการประชุมสภาวันแรก เรามีการตั้งกระทู้สดของ ‘ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ’ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน และสส.ท่านอื่น จากนั้นในช่วงบ่ายมีการขอเสนอให้นับองค์ประชุม จนสุดท้ายองค์ประชุมล่ม ทำให้เราเห็นชัดเจนว่าเสียงของรัฐบาลมีความไม่มั่นคงอย่างชัดเจน รัฐบาลไม่สามารถรักษาเสียงได้ เมื่อไม่ต้องการที่จะนับเสียงองค์ประชุมเพื่อไม่ให้เห็นถึงความไม่มั่นคงของรัฐบาล รองประธานสภาฯ จึงใช้อำนาจสั่งปิดการประชุมไปก่อน
เมื่อถามว่าถือเป็นเกมของพรรคฝ่ายค้านหรือไม่ ภัทรพงษ์ กล่าวต่อว่า การเสนอนับองค์ประชุมเป็นเอกสิทธิ์ของ สส.ที่สามารถทำได้ เราไม่ได้มองว่าเป็นเกมการเมือง เพราะการประชุมสภาในทุกครั้งเป็นผลประโยชน์ของประชาชน การเสนอนับองค์ประชุมเราจะทำก็ต่อเมื่อมองว่ามีความจำเป็นเหมาะสมเท่านั้น อาทิ กรณีที่ สส.ฝั่งรัฐบาล ไม่อยู่ในห้องประชุมเลย และไม่ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาประชาชนผ่านกลไกสภา นั่นคือเหตุผลที่มีการนับองค์ประชุมในวันนี้
ส่วนจะมีการแก้เกี้ยวหรือไม่ เพราะวันนี้ ครม.เข้าถวายสัตย์ฯ และส่วนใหญ่ก็เป็น สส. ภัทรพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกันุถ้าเรานับเป็นสัดส่วน ไม่ได้มีตรงไหนที่จะส่งผลขนาดนั้น ในเรื่องการแก้เกี้ยวที่ สส. เป็นรัฐมนตรีนั้น ไม่ได้มีผลในการนับองค์ประชุมในวันนี้


เมื่อถามว่าฝ่ายค้านจะมีการนับองค์ประชุมแบบนี้ไปตลอดสมัยการประชุมนี้หรือไม่ เพราะมองว่ารัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ภัทรพงษ์ กล่าวว่า เราไม่ได้มองว่าเป็นเกมการเมืองที่จะต้องนับองค์ประชุมทุกสัปดาห์ เพราะหลายครั้งมีวาระการประชุมที่สำคัญมากๆ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ดังนั้นเราจะไม่เอาเกมการเมืองมาส่งผลกับการแก้ไขปัญาของประชาชนผ่านกลไกสภา