ในปี 2567 ที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ ที่ประสบกับปัญหาอุทกภัยทั้งในตัวเมืองและอำเภอรอบนอก สร้างความเสียหายให้กับประชาชนเป็นวงกว้าง และยังทำให้ชาวบ้านเกิดความกังวลว่าในฤดูฝนในปีนี้ จังหวัดเชียงใหม่จะประสบปัญหาอุทกภัยซ้ำรอยเดิมของปีที่ผ่านมา
ขณะที่หลายหน่วยงานในจังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาได้เดินหน้าในการรับมืออุทกภัยไว้แล้ว โดยถอดบทเรียนจากปีที่ผ่านมา เพื่อยกระดับแผนการในทำงานและวางมาตรการในด้านต่างๆ ให้ดีมากยิ่งขึ้น อย่างการจัดทำแผนที่พื้นที่น้ำท่วม เพื่อให้ประชาชนได้เฝ้าระวัง และเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถบริหารจัดการแผนเผชิญเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการขุดลอกน้ำปิงให้การไหลของน้ำดีขึ้นและไม่ให้น้ำยกตัวขึ้นสูง เพื่อให้การระบายน้ำในพื้นที่เศรษฐกิจและบ้านเรือนประชาชนทำได้คล่องตัว

ดุสิต พงศาพิพัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในปีนี้ทีมเชียงใหม่ใช้บทเรียนจากปีที่ผ่านมา ระดมนักวิชาการร่วมหาทางออกในการป้องกันน้ำท่วมและผลกระทบในพื้นที่ตัวเมืองและพื้นที่รอบนอก หนึ่งในมาตรการที่กำลังดำเนินการอยู่ก็คือการขุดลอกน้ำปิงระยะทางกว่า 41 กิโลเมตร อีกส่วนหนึ่งคือการปรับปรุงฝายในแม่น้ำปิงเพื่อเพิ่มการไหลของน้ำให้ดีขึ้น
“ซึ่งการปรับปรุงฝายทั้ง 3 แห่งนั้น ก็จะมีการพูดคุยกับชาวบ้านเพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันของทุกฝ่าย ซึ่งจะสามารถทำให้รับน้ำได้มากขึ้น อย่างที่สถานีวัดระดับน้ำ P1 สะพานสะพานนวรัฐอำเภอเมืองเชียงใหม่จากเดิมรับน้ำได้ 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มมาเป็นมากกว่า 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หากฝนตกตกลงมาใกล้เคียงกับปี 2567 ก็คาดว่าที่จุดนี้ ระดับน้ำจากเดิมที่สูงเคยสูงถึง 5.30 เมตร จะสูงเพียง 4 เมตรกว่าๆ”
หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ยังบอกอีกว่า ทั้งในพื้นที่ตัวเมืองและอำเภอรอบนอก ได้สำรวจพื้นที่เสี่ยงและนำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งเตรียมไว้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน หากมีฝนตกลงมาและเกิดน้ำท่วมหรือน้ำรอระบาย

“ตอนนี้กำลังพลและเครื่องมือ มีเพียงพอ รวมถึงบุคลากรที่มีความรู้เกี่ยวกับการพยากรณ์ฝนรวมถึงนักวิชาการที่เข้ามาช่วยกันเป็นทีมเชียงใหม่ในการวางแผนและรับมือสถานการณ์น้ำในปีนี้ และได้วางแผนไว้แล้ว หากภาคเหนือมีความเสี่ยงจะเกิดอุทกภัย ก็จะนำรถ เรือ เครื่องจักรจากภูมิภาคอื่นๆ ที่ยังไม่ประสบปัญหาอุทกภัยมาเสริมในพื้นที่เสี่ยงก่อน”
อย่างไรก็ตาม ช่วงที่น่าจับตามองอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับอุทกภัยของจังหวัดเชียงใหม่ก็คือช่วงหลังจากวันที่ 15 กันยายนถึงเดือนตุลาคม ที่คาดว่าจะมีฝนตกลงมามากขึ้น ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารและการเตือนภัยเอาไว้เผื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ไม่คาดฝัน
“ขอยืนยันว่าเจ้าที่ปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถ ตอนนี้ก็กำลังเร่งในการขุดลอกน้ำปิง เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ ส่วนในการแก้ไขปัญหาระยะยาว เราก็มีการวางแผนเอาไว้แล้ว อย่างการเพิ่มระยะในการขุดลอกให้ยาวมากขึ้น รวมถึงวางแผนที่จะขุดขยายหน้าตัดของลำน้ำปิง ให้อยู่ที่ประมาณ 90 เมตร ซึ่งมีการพูดคุยหารือกันต่อไป”

เกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ช่วงก่อนที่จะมีฝนตกลงมาอย่างหนัก จนอาจจะทำให้เกิดอุทกภัยได้ จึงต้องประเมินสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ซึ่งมีกฎระเบียบอยู่แล้วในการรักษาระดับน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ และพยายามให้มีพื้นที่ในการรองรับน้ำฝน รวมถึงการตรวจสอบอาคารและประตูน้ำระบายน้ำ เพื่อให้พร้อมรับมือ“
“ตอนนี้เขื่อนภูมิพลที่รองรับน้ำปิง ยังสามารถรับน้ำได้อีกมาก ยังไม่มีความกังวลในส่วนนี้ สำหรับประชาชนทั้งเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน สำหรับในลุ่มน้ำปิง เราจะระบายน้ำลงเขื่อน สำหรับการบริหารจัดการในพื้นที่ตอนบน ต้องมองทั้ง 2 จังหวัด ก็คือเชียงใหม่และลำพูน ที่ต้องทำให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด นอกจากนี้ยังได้มีการจับตาลุ่มน้ำอื่นๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ด้วย”
“อยากฝากถึงที่ประชาชนในการติดตามข้อมูลข่าวสารและการคัดกรองข่าว ทั้งการดำเนินการมาตรการต่างๆในการแก้ไขปัญหา รวมถึงช่วงที่เกิดปัญหาอุทกภัย อยากให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากหน่วยงานราชการที่เชื่อถือได้ เพื่อป้องกันความสับสนและความตื่นตระหนก เนื่องจากปัจจุบันนี้ข่าวสารในโลกสังคมออนไลน์มีจำนวนมาก ทำให้ในบางครั้งอาจบิดเบือนจากความเป็นจริงได้ อย่างเช่นที่บอกว่าภาครัฐไม่ดำเนินการอะไรเลย สิ่งนี้ก็ไม่เป็นความจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานกันอย่างเต็มความสามารถเพื่อประโยชน์สูงสุดคือความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน”

ขณะที่ รศ.ชูโชค อายุพงศ์ ผอ.ศูนย์วิจัยด้านการจัดการภัยพิบัติทางธรรมชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วิเคราะห์ว่า จังหวัดเชียงใหม่หากจะเปรียบเทียบปีนี้กับปีที่ผ่านมาว่าสถานการณ์อุทกภัยจะเกิดขึ้นเหมือนหรือแตกต่างกัน ยังตอบได้ยาก เนื่องจากขึ้นอยู่กับความเข้มของฝนและระยะเวลาในการตกของฝน หากฝนตกลงมามากต่อเนื่องกันหลายวัน ก็ต้องจับตามองเรื่องของน้ำท่วมฉับพลันพื้นที่ที่มีฝนตกหนัก ซึ่งในพื้นที่ที่มีน้ำรอระบายต้องเร่งระบายออกให้เร็ว อีกส่วนหนึ่งคือน้ำล้นตลิ่ง เมื่อน้ำยกตัวขึ้น การสูบน้ำออกลงแม่น้ำก็จะทำได้ยากขึ้น ดังนั้นต้องเร่งทำความสะอาดคูคลองแม่น้ำเพื่อให้การไหลของน้ำสะดวกที่สุด


“การขุดลอกน้ำปิง จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยลดความรุนแรงหากเกิดเหตุอุทกภัยขึ้น แม้ว่าการขุดลอกน้ำปิงของจังหวัดเชียงใหม่ จะไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากมีดินและตะกอนจำนวนมาก ดังนั้นก็ต้องบริหารจัดการจุดขึ้นดินและจุดทิ้งดิน เพื่อให้การทำงานอย่างประสิทธิภาพและทันตามกำหนดเวลา”
“ในส่วนของประชาชนนั้น ก็ขอให้ดูข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิดในช่วงที่มีฝนตกหนักและเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ หากได้รับประกาศให้อพยพ ก็ต้องรีบขนของขึ้นที่สูงรวมถึง รีบนำผู้ป่วยหรือกลุ่มเปราะบาง ออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด”


