พงศาวดารกรุงกัมพูชา เขียนขึ้นเพื่อสร้าง ตำนานชาติกำเนิด ที่ผสมผสานความเชื่อและอำนาจทางการเมืองอธิบายภูมิหลังว่ากัมพูชาไม่ได้มีเพียงต้นกำเนิดจากอินเดีย (พระทอง) แต่ยังยอมรับความหลากหลายของพื้นเมือง (ตะกวด) สะท้อนวิธีสร้างความชอบธรรมให้กับราชวงศ์ผ่านศาสนาและพิธีกรรม
นาคและตะกวด ตำนานกำเนิดชนชาติกัมพูชา ที่มากกว่าความเชื่อ ในขณะที่ไทยมี “พญานาค” และ “พระร่วง” เป็นต้นเรื่องประวัติศาสตร์แบบกึ่งเทพกึ่งคน… กัมพูชาก็มีเรื่องเล่าไม่แพ้กัน และตำนานที่ว่าก็ไม่ใช่แค่ “นาค” อย่างเดียว แต่ยังมี “ตะกวด” เข้ามาเกี่ยว!
ใช่แล้ว… ตะกวด ที่เราเห็นวิ่งพล่านตามสวน กลายเป็นตัวละครหลักในตำนานกำเนิดชนชาติของประเทศเพื่อนบ้านเรานี่เอง
ตำนานจากพงศาวดารเขมร: เมื่อสัตว์เลื้อยคลานกลายเป็นกษัตริย์
ใน พงศาวดารกรุงกัมพูชา (Cambodian Royal Chronicles) ฉบับโบราณที่แปลจากภาษาขแมร์ ได้เล่าถึง “ต้นกำเนิดแห่งชนชาติกัมพูชา” ว่าไม่ได้มาจากวีรบุรุษผู้กล้า ไม่ได้เริ่มจากนักรบต่างแดนแบบในฟูนันหรือเจนละ แต่เกิดจาก…
“สัตว์ตะกวดที่มีศรัทธาในพระธรรม ได้คลานขึ้นมาฟังเทศนาจากพระพุทธเจ้าใต้ต้นหมัน“ (ที่มา: พงศาวดารเขมร ฉบับหลวงเรืองเดชอนันต์ แปล, พ.ศ. 2513)
เมื่อฟังธรรมเสร็จแล้ว ตะกวดตัวนั้นได้สิ้นชีวิต แต่กลับไม่หายไป… กลายเป็นเทวดา แล้วกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ในตระกูลกษัตริย์ เป็น “ผู้ก่อตั้งกรุงกัมพูชาธิบดี” และถือเป็นจุดเริ่มของชนชาติขแมร์โบราณ
แล้วนาคมาเกี่ยวอะไร?
อีกตำนานหนึ่งเล่าว่า พ่อค้าอินเดียชื่อ พระทอง (หรือ “เกาณฑัญญะ”) ได้เดินทางมาถึงแถบนี้ และแต่งงานกับ นางนาค ราชธิดาแห่งเผ่านาคใต้ทะเล หลังจากนั้นพ่อของนางได้ “ดูดน้ำทะเลออก” ให้พื้นที่แห้งกลายเป็นดินแดน และสร้างเมืองหลวงให้

ตรงนี้น่าสนใจมาก เพราะ…
นาค: เป็นสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์ ความอุดมสมบูรณ์ และ “ผู้ปกป้องแผ่นดิน”
พระทอง: แทนอารยธรรมอินเดียที่เข้ามามีอิทธิพล (ทั้งพุทธและฮินดู) การแต่งงานกับนางนาค = การผนวกวัฒนธรรมท้องถิ่นกับวัฒนธรรมต่างแดน
ผสมผสาน: ความเป็น “เรา” ไม่ได้เริ่มจากเลือดบริสุทธิ์ แต่จากการยอมรับกัน
ตำนานนาคและตะกวดอธิบายอะไรบางอย่างที่ลึกกว่าการสร้างเมือง:
สัญลักษณ์ ความหมาย
🦎 ตะกวด ตัวแทนชนพื้นเมือง ความศรัทธา ความเปลี่ยนแปลงจากธรรมดาสู่ผู้นำ
🐍 นาค ศักดิ์สิทธิ์ ปกป้อง ประชารัฐ-ชนชั้นสูง-พลังธรรม
👑 กษัตริย์ ผู้ผสานความเชื่อพื้นถิ่นกับอารยธรรมต่างแดน
แทนที่กัมพูชาจะบอกว่า “เราเกิดจากเทพเจ้า” พวกเขากลับบอกว่า “เราคือสัตว์เลื้อยคลานที่เปลี่ยนชะตาด้วยความศรัทธา”มันเป็น การเล่าเรื่องที่โคตรจะ “inclusive” และแฝงแนวคิดว่า ใครก็เปลี่ยนอนาคตได้
มองผ่านสายตาประวัติศาสตร์
นักวิชาการด้านอุษาคเนย์ เช่น อ.ไกรฤกษ์ นานา และ ศ.เดวิด แชนดเลอร์ วิเคราะห์ว่า
“ตำนานนี้สะท้อนกระบวนการรวมชนเผ่าและกำเนิดรัฐผ่านการแต่งเติมความชอบธรรมทางศาสนา” (ที่มา: A History of Cambodia, David Chandler) ซึ่งคล้ายกับในหลายวัฒนธรรม เช่น
• ญี่ปุ่น ก็มีจักรพรรดิ์ที่สืบเชื้อสายจากเทพดวงอาทิตย์
• ไทยมีพญานาคฟังธรรมใต้ต้นโพธิ์
แต่ กัมพูชา เล่าเรื่องแบบติดดินกว่า ใช้ “ตะกวด” แทนบรรพบุรุษ!
ทำไมเรื่องนี้ถึงยังสำคัญ?
เพราะมันคือการบอกว่า…
“แม้คุณจะไม่ใช่เทพ ไม่ใช่เจ้าชาย แต่ถ้าคุณศรัทธาในความดี… วันหนึ่งคุณอาจเปลี่ยนโลกได้”
ในวันที่โลกวุ่นวาย ตำนานจากพงศาวดารโบราณแบบนี้ อาจเป็นคำตอบง่าย ๆ ที่ยืนยันว่า ความเชื่อ และ ความพยายาม สร้างชาติ สร้างตัวตนได้จริง