ฮูไซนี อารีพงษ์ ช่างทองไทย ผู้สร้างประวัติศาสตร์ ประตูกะฮ์บะฮ์บานปัจจุบัน!

2 มิ.ย. 2568 - 03:55

  • เปิดประวัติ ‘ฮัจยีฮูไซนี อารีพงษ์’ ช่างทองจากย่านมัสยิดกุฎีช่อฟ้า จังหวัดพระนครศรีอยุธยาหนึ่งในผู้สร้างmaานปัจจุบันกับเรื่องราวการทำงานทั้งหมดกว่าจะมาเป็นประตูบานที่สวยงามบานนี้

ฮูไซนี อารีพงษ์ ช่างทองไทย ผู้สร้างประวัติศาสตร์ ประตูกะฮ์บะฮ์บานปัจจุบัน!

ถ้าคุณเคยเห็นภาพ ‘ประตูกะฮ์บะฮ์’ ที่มัสยิดอัลฮะรอม เมืองมักกะฮ์ แล้วรู้สึกว่าสวยมาก ขอบอกเลยว่า นั่นคือผลงานของ ทีมช่างไม้และช่างทองจากประเทศไทย ที่มาร่วมกันสร้างสรรค์ ‘ประตูไม้ปิดทองคำแท้’ น้ำหนักรวมกว่า 260 กิโลกรัม โดยใช้เวลาก่อสร้างและลงรายละเอียดกว่า 2 ปี 
 
หนึ่งในทีมช่างชุดนั้นคือ “ฮัจยีฮูไซนี อารีพงษ์” ช่างทองจากย่านมัสยิดกุฎีช่อฟ้า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งวันนี้เขาเป็นคนไทยเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่จากทีมงานชุดประวัติศาสตร์เมื่อ 46 ปีก่อน

Husini-Areepong-History-South-Thailand-SPACEBAR-Photo01.jpg


เริ่มจากคำชวนที่ไม่ธรรมดา 
 
เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นเมื่อ ‘พี่ฮูไซนี’ ยังเป็นหนุ่มวัย 22 ปี รับจ็อบช่างทองอยู่แถวมหานาค วันหนึ่งมีคนมาชวนไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย บอกว่าให้ไปทำ “ประตูกะฮ์บะฮ์” ซึ่งก็คือประตูของศาสนสถานที่สำคัญที่สุดในศาสนาอิสลา 
 
ตอนแรกเขายังคิดว่า ‘จริงหรอวะ?’ แต่พอรู้ว่าคนที่ชวนคือ อับดุลเลาะห์ นาคนาวา นักเรียนเก่ามหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร ล่ามอาหรับระดับท็อปของไทย พี่ฮูไซนีก็เชื่อสนิทใจ และตัดสินใจไปลุย! 
 
ทีมช่างไทยที่มักกะฮ์ 
 
โปรเจกต์นี้ต้องใช้ไม้คุณภาพสูง ซึ่งซาอุฯ ถึงกับเลือก ‘ไม้มะค่าโมง’ จากไทยไปทำประตู ใช้เวลาอบไม้ 3 เดือนก่อนขนส่งไปมักกะฮ์ ทีมช่างจากไทยมีทั้งหมด 6 คน แบ่งเป็น  
 
ช่างไม้ 3 คน 
• ฮัจยีอีซา กาสุรงค์ 
• ฮัจยีสุไลมาน ซันหวัง 
• ฮัจยีฮูเซ็น และอิ่ม 
 
ช่างทอง 3 คน 
• ฮัจยีอาลี มูลทรัพย์ 
• ฮัจยีกอเซ็ม ชนะชัย 
• ฮัจยีฮูไซนี อารีพงษ์ 
 
 
ตอนนี้ทั้ง 5 คนแรกได้ล่วงลับไปแล้ว เหลือเพียง ‘พี่ฮูไซนี’ คนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ และเป็นเหมือน ‘ตำนานมีชีวิต’ ของวงการศิลปะมุสลิมไทย 

Husini-Areepong-History-South-Thailand-SPACEBAR-Photo02.jpg


ภารกิจที่ไม่ได้ง่ายเลย 
 
ชีวิตในซาอุฯ ไม่ได้หรูหรา วันแรกที่ไปถึง พี่ฮูไซนียังไม่ทันได้ถอดเสื้อสูท ก็ต้องเข้าเรียนภาษาอาหรับทันที ตั้งแต่ 2 ทุ่มถึง 4 ทุ่ม ทุกวัน เพราะไม่มีใครในทีมพูดอาหรับได้เลย นอกจากล่ามประจำตัว 
 
ยังไม่พอ ไม้จากไทยยังไม่มาถึง เลยต้องไปช่วยงานช่างทำมีดดาบ เครื่องเงิน เครื่องทอง ก่อนจะเริ่มงานประตูจริง ซึ่งใช้เวลากว่า 1 ปี กว่าจะเริ่มได้เต็มตัว 
 
งานของพี่ฮูไซนีคือ การตอกลายทองคำเป็นตัวอักษรภาษาอาหรับบนไม้ ซึ่งต้องใช้ความละเอียดสุดๆ ต้องหลอม รีด ตอก และประกอบจนออกมาเป็นประตูที่มีน้ำหนักรวมกว่า 2 ตัน 
 
ซ่อมอีกครั้ง เพราะเหตุปฏิวัติ 
 
ปี 2522 เกิดการปฏิวัติในซาอุฯ ผู้ก่อการบุกเข้ามาในมัสยิดอัลฮะรอม และ กระสุนปืนพุ่งเข้าใส่ประตูกะฮ์บะฮ์ งานชิ้นประวัติศาสตร์จึงต้องซ่อมใหม่อีกครั้ง 
และแน่นอน… คนที่ได้กลับไปซ่อมก็คือ “พี่ฮูไซนี” คนเดิม เพิ่มเติมคือประสบการณ์แน่นกว่าเดิม! 

Husini-Areepong-History-South-Thailand-SPACEBAR-Photo V01.jpg


15 ปีที่ซาอุฯ ก่อนกลับมาใช้ชีวิตเรียบง่าย 
 
หลังภารกิจเสร็จสิ้น พี่ฮูไซนียังอยู่ที่ซาอุฯ ต่ออีกกว่า 15 ปี ก่อนกลับมาใช้ชีวิตเงียบๆ ที่อยุธยา เขายังเล่าว่า 
 
“ผมภูมิใจนะ งานชิ้นนั้นเหมือนตำนานของผมเลย 
และผมก็เชื่อว่า ประตูบานนั้น อีก 150 ปีก็ยังไม่พัง!” 
 
มุสลิมทั่วโลกที่เดินทางไปฮัจย์ จะได้เห็น “ประตูกะฮ์บะฮ์” ทุกคนแต่มีน้อยคนนักที่รู้ว่า… “มันคือฝีมือของช่างไม้และช่างทองจากประเทศไทยทั้ง 6 คน!” 
 
วันนี้ เรื่องนี้กลายเป็นมรดกศิลป์แห่งความศรัทธา ที่ทุกคนควรร่วมกันภูมิใจ ควรรู้ว่า คนไทยเคยทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้โลกมุสลิมแบบนี้มาแล้ว! 
 
ข้อมูลและภาพจาก  เพจ Beritamuslim 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์