ถ้าคุณเคยเห็นภาพ ‘ประตูกะฮ์บะฮ์’ ที่มัสยิดอัลฮะรอม เมืองมักกะฮ์ แล้วรู้สึกว่าสวยมาก ขอบอกเลยว่า นั่นคือผลงานของ ทีมช่างไม้และช่างทองจากประเทศไทย ที่มาร่วมกันสร้างสรรค์ ‘ประตูไม้ปิดทองคำแท้’ น้ำหนักรวมกว่า 260 กิโลกรัม โดยใช้เวลาก่อสร้างและลงรายละเอียดกว่า 2 ปี
หนึ่งในทีมช่างชุดนั้นคือ “ฮัจยีฮูไซนี อารีพงษ์” ช่างทองจากย่านมัสยิดกุฎีช่อฟ้า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งวันนี้เขาเป็นคนไทยเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่จากทีมงานชุดประวัติศาสตร์เมื่อ 46 ปีก่อน

เริ่มจากคำชวนที่ไม่ธรรมดา
เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นเมื่อ ‘พี่ฮูไซนี’ ยังเป็นหนุ่มวัย 22 ปี รับจ็อบช่างทองอยู่แถวมหานาค วันหนึ่งมีคนมาชวนไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย บอกว่าให้ไปทำ “ประตูกะฮ์บะฮ์” ซึ่งก็คือประตูของศาสนสถานที่สำคัญที่สุดในศาสนาอิสลา
ตอนแรกเขายังคิดว่า ‘จริงหรอวะ?’ แต่พอรู้ว่าคนที่ชวนคือ อับดุลเลาะห์ นาคนาวา นักเรียนเก่ามหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร ล่ามอาหรับระดับท็อปของไทย พี่ฮูไซนีก็เชื่อสนิทใจ และตัดสินใจไปลุย!
ทีมช่างไทยที่มักกะฮ์
โปรเจกต์นี้ต้องใช้ไม้คุณภาพสูง ซึ่งซาอุฯ ถึงกับเลือก ‘ไม้มะค่าโมง’ จากไทยไปทำประตู ใช้เวลาอบไม้ 3 เดือนก่อนขนส่งไปมักกะฮ์ ทีมช่างจากไทยมีทั้งหมด 6 คน แบ่งเป็น
ช่างไม้ 3 คน
• ฮัจยีอีซา กาสุรงค์
• ฮัจยีสุไลมาน ซันหวัง
• ฮัจยีฮูเซ็น และอิ่ม
ช่างทอง 3 คน
• ฮัจยีอาลี มูลทรัพย์
• ฮัจยีกอเซ็ม ชนะชัย
• ฮัจยีฮูไซนี อารีพงษ์
ตอนนี้ทั้ง 5 คนแรกได้ล่วงลับไปแล้ว เหลือเพียง ‘พี่ฮูไซนี’ คนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ และเป็นเหมือน ‘ตำนานมีชีวิต’ ของวงการศิลปะมุสลิมไทย

ภารกิจที่ไม่ได้ง่ายเลย
ชีวิตในซาอุฯ ไม่ได้หรูหรา วันแรกที่ไปถึง พี่ฮูไซนียังไม่ทันได้ถอดเสื้อสูท ก็ต้องเข้าเรียนภาษาอาหรับทันที ตั้งแต่ 2 ทุ่มถึง 4 ทุ่ม ทุกวัน เพราะไม่มีใครในทีมพูดอาหรับได้เลย นอกจากล่ามประจำตัว
ยังไม่พอ ไม้จากไทยยังไม่มาถึง เลยต้องไปช่วยงานช่างทำมีดดาบ เครื่องเงิน เครื่องทอง ก่อนจะเริ่มงานประตูจริง ซึ่งใช้เวลากว่า 1 ปี กว่าจะเริ่มได้เต็มตัว
งานของพี่ฮูไซนีคือ การตอกลายทองคำเป็นตัวอักษรภาษาอาหรับบนไม้ ซึ่งต้องใช้ความละเอียดสุดๆ ต้องหลอม รีด ตอก และประกอบจนออกมาเป็นประตูที่มีน้ำหนักรวมกว่า 2 ตัน
ซ่อมอีกครั้ง เพราะเหตุปฏิวัติ
ปี 2522 เกิดการปฏิวัติในซาอุฯ ผู้ก่อการบุกเข้ามาในมัสยิดอัลฮะรอม และ กระสุนปืนพุ่งเข้าใส่ประตูกะฮ์บะฮ์ งานชิ้นประวัติศาสตร์จึงต้องซ่อมใหม่อีกครั้ง
และแน่นอน… คนที่ได้กลับไปซ่อมก็คือ “พี่ฮูไซนี” คนเดิม เพิ่มเติมคือประสบการณ์แน่นกว่าเดิม!

15 ปีที่ซาอุฯ ก่อนกลับมาใช้ชีวิตเรียบง่าย
หลังภารกิจเสร็จสิ้น พี่ฮูไซนียังอยู่ที่ซาอุฯ ต่ออีกกว่า 15 ปี ก่อนกลับมาใช้ชีวิตเงียบๆ ที่อยุธยา เขายังเล่าว่า
“ผมภูมิใจนะ งานชิ้นนั้นเหมือนตำนานของผมเลย
และผมก็เชื่อว่า ประตูบานนั้น อีก 150 ปีก็ยังไม่พัง!”
มุสลิมทั่วโลกที่เดินทางไปฮัจย์ จะได้เห็น “ประตูกะฮ์บะฮ์” ทุกคนแต่มีน้อยคนนักที่รู้ว่า… “มันคือฝีมือของช่างไม้และช่างทองจากประเทศไทยทั้ง 6 คน!”
วันนี้ เรื่องนี้กลายเป็นมรดกศิลป์แห่งความศรัทธา ที่ทุกคนควรร่วมกันภูมิใจ ควรรู้ว่า คนไทยเคยทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้โลกมุสลิมแบบนี้มาแล้ว!
ข้อมูลและภาพจาก เพจ Beritamuslim