อินโดฯ เล็งซื้อเครื่องบินรบ ‘J-10’ ของจีนเสริมทัพอากาศ รุ่นที่ปากีฯ ใช้ยิงเครื่องบินรบฝรั่งเศสตก

อินโดนีเซียกำลังพิจารณาซื้อเครื่องบินขับไล่ของจีนรุ่น ‘J-10’ ซึ่งเป็นรุ่นที่ปากีสถานเคยใช้ยิงสกัดเครื่องบินรบราฟาล (Rafale) ของฝรั่งเศสในความขัดแย้งบนพื้นที่แคชเมียร์ล่าสุดระหว่างอินเดียและปากีสถาน 

ดอนนี่ เออร์มาวาน ทาฟันโต รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียเปิดเผยว่า “จีนได้เสนอขายเครื่องบินรุ่นนี้ในระหว่างที่ โมฮัมหมัด ทอนนี่ ฮาร์โจโน ผู้บัญชาการกองทัพอากาศอินโดนีเซีย ไปเยือนงานแสดงอาวุธในจีน...เมื่อเราประเมินดูแล้ว เครื่องบินรุ่นนี้ดี ตรงตามเกณฑ์ของเรา และราคาก็ไม่แพง แล้วทำไมเราจะไม่ซื้อล่ะ?” 

“อินโดนีเซียสามารถซื้ออุปกรณ์ทางทหารจากประเทศใดก็ได้ แต่รัฐบาลต้องพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆ ด้วย เช่น การบูรณาการเครื่องบินรุ่นใหม่เข้ากับอุปกรณ์ที่กองทัพอากาศมีอยู่แล้ว...ในแง่ของสมรรถนะ ระยะบิน และอาวุธที่สามารถติดตั้งได้ เราจะต้องดูรายละเอียดเพิ่มเติมในภายหลัง” ดอนนี่ กล่าว 

เมื่อต้นปีนี้ จีนและอินโดนีเซียได้ให้คำมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือทางทหารหลังจากที่ จาฟรี จามโซเอ็ดดิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียไปเยือนกรุงปักกิ่ง โดยได้พบกับพลเอกจางโหยวเซีย รองประธานคณะกรรมาธิการทหารกลาง นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังได้จัดการซ้อมรบร่วมกันเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว 

J-10 เป็นเครื่องบินขับไล่เจนเนอเรชัน 4.5 แบบเครื่องยนต์เดี่ยว ออกแบบมาเพื่อการต่อสู้ทางอากาศและโจมตีเป้าหมายอย่างแม่นยำ มีเรดาร์และระบบตรวจจับความร้อนที่ทันสมัย และสามารถติดตั้งขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ PL-15 ที่มีระยะยิงไกลถึง 182 กิโลเมตร 

ราคาของ J-10 อยู่ที่ประมาณ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.3 พันล้านบาท) ต่อลำ ซึ่งต่ำกว่าราคาเครื่องบินรบราฟาลของฝรั่งเศสที่ประมาณ 193 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.2 พันล้านบาท) ทำให้อินโดนีเซียมองว่า J-10 เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจในการเสริมกำลังทางอากาศ 

การพิจารณาซื้อ J-10 เกิดขึ้นท่ามกลางความล่าช้าในการเจรจาซื้อเครื่องบินขับไล่ ‘F-15EX’ จากสหรัฐฯ และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของอินโดนีเซียในการปรับปรุงกองทัพอากาศในช่วงเวลาที่ภูมิภาคมีความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มขึ้น 

(Photo by Aamir QURESHI / AFP)