‘จิรายุ’ ยัน ‘นายกฯอิ๊งค์’ ไม่ปล่อยให้โครงการ 30 บาทฯ ล้มแน่ หลังมีกระแสข่าวจะเจ๊งใน 3 ปี

2 มิ.ย. 2568 - 02:02

  • ‘จิรายุ’ ยัน ‘นายกฯอิ๊งค์’ ไม่ปล่อยให้โครงการ 30 บาทฯ ล้มแน่ หลังมีกระแสข่าวจะเจ๊งใน 3 ปี

  • มอง ‘ขาดทุน’ เป็นเรื่องปกติ ถ้าทำกำไรกับ ‘ปชช.’ คงเป็นเรื่องแปลก

  • โวรัฐบาลจัดงบปี 69 ให้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เพื่อสุขภาพคนไทย

‘จิรายุ’ ยัน ‘นายกฯอิ๊งค์’ ไม่ปล่อยให้โครงการ 30 บาทฯ ล้มแน่ หลังมีกระแสข่าวจะเจ๊งใน 3 ปี

จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีมีกลุ่มผู้ไม่หวังดี ปล่อยข่าวว่า โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ขาดทุน และภายใน 3 ปี และจะยกเลิกนั้นเป็นเท็จ ขอเรียนว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศ และ ปี 2569 นี้ได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 265,295 ล้านบาท ให้แก่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่ง เป็นวงเงินที่สูงที่สุดเท่าที่เคยจัดสรรให้กับกองทุนบัตรทองฯ นับตั้งแต่มีการจัดตั้งโครงการฯ มา 

จิรายุ ยืนยันว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพ และรักษาพยาบาล ให้กับประชาชน หากไปทำกำไรคงเป็นเรื่องที่ประชาชนคงรับไม่ได้

ทั้งนี้ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ เร่งผลักดันการใช้งบประมาณของกองทุนบัตรทองฯ ให้คุ้มค่า โปร่งใส และมีประสิทธิผล มุ่งยกระดับการบริการสาธารณสุขทุกมิติ เน้นการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ อาทิ การแพทย์ทางไกล (Telemedicine)  รวมทั้งการเพิ่มรายการยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ เพื่อนำยาที่มีคุณภาพสูงที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่มาให้ประชาชนในการรักษาโรค พร้อมการเสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรคในโครงการ คนไทยห่างไกลจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เพื่อลดการเกิดโรคของประชาชนในระยะยาว

จิรายุ ยังระบุว่า การจัดสรรงบประมาณในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการผลักดันนโยบายด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นนโยบายเรือธงหลัก ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างเท่าเทียมตั้งแต่ระดับปฐมภูมิ บวกกับการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยเพื่อดูแลสุขภาพคนไทย 

นอกจากนี้ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับภาคเอกชนไทย และบริษัท Seiko Instruments จากประเทศญี่ปุ่น ร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีด้านทันตกรรม พัฒนาด้ามกรอทางทันตกรรมรุ่นใหม่ และจัดตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดการนำเข้าด้ามกรอฟันของไทยที่มีมูลค่าสูงถึงปีละราว 3,000 ล้านบาท แต่ยังส่งเสริมการจ้างงานภายในประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเทคโนโลยีทางการแพทย์ไทยในตลาดโลกอีกด้วย

“ไม่ต้องกังวลบัตร30 บาทฯ มีแต่จะเพิ่มการดูแลในทุกมิติ ไม่มีลดเด็ดขาด รัฐบาลสนับสนุนนโยบายด้านสุขภาพ โดยจัดสรรงบประมาณให้เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2569 ได้จัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้น และปรับเพิ่มขึ้นทุกรายการ เพื่อให้ครอบคลุมสุขภาพของคนไทย และสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพได้อย่างทั่วถึง ตั้งแต่ระดับพื้นฐานขึ้นจนถึงการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูงได้ รวมทั้งการสนับสนุนมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ใช้ได้เอง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุน และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของประชาชนอย่างแท้จริง”

จิรายุ กล่าว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์