สัมพันธ์ 2 สาย ‘แซ่จึง-แซ่คู’ จับตา ‘สุริยะ’ ผู้จัดการ รบ.
สัมพันธ์ ‘ตระกูลชินวัตร-แซ่คู’ กับ ‘ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ-แซ่จึง’ แบ่งเป็น 2 สาย ที่มีสายใยถึงกันคนละแบบ เริ่มจากสาย ‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ ที่ในวันนี้ได้ชื่อว่าเป็น ‘ผู้จัดการรัฐบาล’ อีกคน หลังมีรายงาน ‘สุริยะ’ กับ ‘หมอมิ้ง-นพ.พรหมมินทร์ เลิศย์สุริเดช’ คือ คนที่จัดโผ ครม.แพทองธาร 1 / 2 ในการประสาน พรรคร่วมรัฐบาล
แต่บทบาทของ ‘สุริยะ’ เด่นชัดขึ้น หลังต้องทำหน้าที่ ‘รักษาการแทนนายกฯ’ เกือบ 2 วัน ก่อนที่ ‘สหายใหญ่-ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ’ หรือ สร.2 จะทำหน้าที่แทน เพราะ ‘ภูมิธรรม’ ต้องรอถวายสัตย์ฯ เพราะเปลี่ยนจาก รมว.กลาโหม มาเป็น รมว.มหาดไทย
‘สุริยะ’ เป็นน้องชาย ‘พัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ’ บิดาของ ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ ทำให้ ‘สุริยะ’ มีศักดิ์เป็น ‘อาเจ็ก’ ของ ‘ธนาธร’ ซึ่ง ‘พัฒนา’ เป็นพี่ชายที่ดูแล ‘สุริยะ’ มาตั้งแต่เด็ก
แม้ อา-หลาน ต่างมีเส้นทางของตัวเอง แต่เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ ไม่สามารถตัดขาดกันได้ ‘สุริยะ’ เคยให้สัมภาษณ์ถึง ‘ธนาธร’ เมื่อปี 2562 ก่อนเลือกตั้งใหญ่
‘ธนาธร’ เป็น ‘คนดี’ ในสายตา ‘อาเจ็ก’
‘อาเจ๊ก’ มอง ‘หลานชายตัวเอง’ เติบโตในยุคที่ฐานะทางบ้านดีแล้ว ในยุคที่ ‘ธนาธร’ เป็น นศ. ก็มองถึงประเทศชาติ ขึ้นเวที ม.ธรรมศาสตร์ วิจารณ์ ‘นายกฯทักษิณ’ ส่วน ‘สมพร’ ไปขึ้นเวที ‘พรรคไทยรักไทย’ สะท้อนว่าไม่มีใครคุม ‘ธนาธร’ ได้ ตามวิถี ‘คนวัยหนุ่ม’ เมื่อ ‘ธนาธร’ เติบโตขึ้นมาเป็น ‘ผู้ใหญ่’ ในวันที่ที่ฐานะทางบ้านดีแล้ว จึงทำให้ ‘ธนาธร’ ยืนบนหลักการได้ตลอด
โดย ‘สุริยะ’ มองว่า หาก ‘พัฒนา’ ไม่เสียชีวิต ‘ธนาธร’ คงไปสาย ‘เอ็นจีโอ’ ไม่มาทำงาน ‘การเมือง’ เพราะอยากเห็นโลกที่สมบูรณ์แบบ พร้อมยืนยันว่า ‘ธนาธร’ เป็น “คนดี”
สัมพันธ์เลือดมังกร ‘แซ่จึง’ จาก ‘ธุรกิจ’ สู่ ‘การเมือง’
รากฐาน ‘ตระกูลชินวัตร-ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ’ คล้ายกัน คือ ‘ทำธุรกิจ’ และเข้ามาสู่ ‘สนามการเมือง’ และภายในตระกูลก็แบ่งเป็นหลายสาย แต่ในภาพกว้างของ 2 ตระกูล มีความสัมพันธ์กันมามายาวนาน ที่เห็นภาพชัดคือยุค ‘รัฐบาลไทยรักไทย’
ตัวละครสำคัญคือ ‘สุริยะ’ เริ่มต้นจาก รมช.อุตสาหกรรม ในสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย ในปี 2541 ในโควตาพรรคกิจสังคม ต่อมา ‘สุริยะ’ ได้มาอยู่กับ ‘ทักษิณ’ ที่พรรคไทยรักไทย ได้เป็นรัฐมนตรีตลอด และเคยเป็นเลขาธิการไทยรักไทย ก่อนจะต้องเว้นวรรคการเมือง 5 ปี ในบ้านเลขที่ 111 จากผลพวง ‘พรรคไทยรักไทย’ ถูกยุบ + ยุค คสช. 5 ปี
ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ สุริยะ เว้นว่างการเมืองไปนานเกือบ 10 ปี ก่อนจะกลับมาอีกครั้งในนาม ‘พรรคพลังประชารัฐ’ และได้เป็น รัฐมนตรี ใน ครม.ประยุทธ์ 2 จากนั้นได้ย้ายกลับมา ‘ขั้วทักษิณ’ ที่ ‘พรรคเพื่อไทย’ และได้เป็นรัฐมนตรีทั้ง ‘รบ.เศรษฐา - รบ.แพทองธาร’
‘สุริยะ’ เอาตัวรอด-มีอำนาจมาได้ทุกยุค ตามสไตล์ ‘โลว์โปร์ไฟล์-ดูแลทั่วถึง-มี สส. ในมือ’ มีอำนาจไปต่อรอง ‘ทักษิณ’ ที่ทำการเมืองแบบ ‘พันธมิตร’ ไม่ได้เป็น ‘ลูกน้องทักษิณ’ แบบ ‘รัฐมนตรี-สส.’ คนอื่นๆ
เมื่อครั้ง ‘ธนาธร’ เจอ ‘ทักษิณ’ 20 ปีก่อน
ย้อนไป 20 กว่าปีก่อน สายสัมพันธ์ ‘ตระกูลชินวัตร-จึงรุ่งเรืองกิจ’ แนบแน่น ในขณะนั้น ‘ธนาธร’ ยังเป็น ‘วัยรุ่นหนุ่ม’ โดยมี ‘พัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ’ คุณพ่อ ที่เป็นกำลังสำคัญของครอบครัว ที่วางรากฐาน ‘ไทยซัมมิทกรุ๊ป’ ขึ้นมา ผู้นำธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย-เอเชีย
ที่มี ‘สุริยะ’ เป็น ‘ตัวแทนตระกูล’ มาเชื่อมการเมือง ทำให้สายสัมพันธ์นี้ไปถึง ‘พัฒนา’ และ ‘สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ’ ภรรยาของพัฒนา เป็นช่วงเวลาที่ ‘ทักษิณ’ ได้เจอลูกๆ ของ ‘พัฒนา-สมพร’ ด้วย
เมื่อปี 2545 ‘พัฒนา’ เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ทำให้ ‘ธนาธร’ ในฐานะลูกชายคนโต และ ‘สมพร’ ต้องสานต่อสิ่งที่ ‘พัฒนา’ สร้างเอาไว้ โดย ‘ทักษิณ’ คือหนึ่งในบุคคลที่ไปเยี่ยม ‘พัฒนา’ ถึงข้างเตียงที่โรงพยาบาล และมาร่วมพิธีสวดพระอภิธรรม
ย้อนกลับไปเมื่อปี ก.ค.2566 หลังเลือกตั้งใหญ่ ที่อยู่ในช่วงรอยต่อ ‘อดีตพรรคก้าวไกล – เพื่อไทย’ จัดตั้งรัฐบาล มีกระแสข่าวว่า ‘ธนาธร’ ได้บินไปพบ ‘ทักษิณ’ ที่ฮ่องกง จึงเกิดคำว่า ‘ดีลลับฮ่องกง’ ขึ้นมา โดยมี ‘คนกลาง’ ที่ใกล้ชิด ‘ธนาธร-ทักษิณ’ คอยประสานงานให้

จาก ‘พัฒนา’ มาสู่ ‘โกมล’ เคียงข้าง ‘สุริยะ’
จากเดิมที่ ‘สุริยะ’ ผูกโยงกับฝั่ง ‘พัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ’ ในยุคไทยรักไทย แต่มาในยุคพลังประชารัฐ พบว่า ‘สุริยะ’ มาผูกโยงกับฝั่ง ‘โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ’ พี่ชายอีกคนของ ‘สุริยะ’ ซึ่ง ‘โกมล’ เป็นบิดาของ ‘โฟม-พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ’ ทำให้ ‘สุริยะ’ มีศักดิ์เป็น ‘อาเจ็ก’ ของ ‘พงศ์กวิน’ รมว.แรงงานป้ายแดง ที่สำคัญ ‘พงศ์กวิน’ มีกศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับ ‘ธนาธร’ ด้วย
‘โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ’ เป็น ปธ.กรรมการ บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด ผู้ผลิตรองเท้าแอโร่ซอฟ และ ปธ.บริษัท ไพน์เฮิร์สท กอล์ฟคลับ จำกัด หรือ “สนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สท” ย่านดอนเมือง เคยใข้แถลงข่าวเป็นสปอนเซอร์การถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2020
‘แซ่จึง’ เจนลูก ‘ธนาธร-พงศ์กวิน’ ญาติคนละทาง
‘พงศ์กวิน’ เข้าสู่เส้นทางการเมืองปี 2561 ช่วงเวลาเดียวกับที่ ‘ธนาธร’ ตั้งพรรคอนาคตใหม่ แต่ ‘พงศ์กวิน’ ไปเป็น กก.บห.พลังประชารัฐ และได้เป็น สส.บัญชีรายชื่อ พปชร. ครั้งแรก ต่อมา ‘พงศ์กวิน’ ย้ายตาม ‘สุริยะ’ มายังพรรคเพื่อไทย แต่ลง สส.บัญชีรายชื่อ ลำดับท้ายๆ จึงไม่ได้รับเลือกตั้ง แต่ได้เป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษาของ รมว.คมนาคม ก่อนจะลาออกมารับตำแหน่ง รมว.แรงงาน
ในวันนี้เรียกว่า ‘สุริยะ’ เป็น ‘นายกฯคนแรก’ ของ ‘แซ่จึง’ แม้จะเป็นเพียง รักษาการนายกฯ แต่ก็สะท้อนบารมีที่สั่งสมมา ทำให้ ‘ครม.อิ๊งค์ 1 / 2’ มีคนนามสกุล ‘จึงรุ่งเรืองกิจ’ ถึง 2 คน
เรียกได้ว่า ‘อาณาจักรจึงรุ่งเรืองกิจ’ แผ่ขยายใน การเมืองไทย ทั้ง 2 สาย ระหว่าง สายเพื่อไทย-ทักษิณ(แซ่คู) และสายพรรคประชาชน ที่มี ‘ธนาธร’ เป็น ‘ผู้นำจิตวิญญาณ’