‘จัสติน บีเบอร์’ การต่อสู้กับความทรมานเพื่อสุขภาพจิตที่ต้องไม่แหลกสลายไปกว่านี้

26 มิ.ย. 2568 - 05:56

  • เพราะการโด่งดังตั้งแต่เด็กหลายๆ คนจึงสาดความคาดหวังใส่เขาโดยไม่รู้ตัว

‘จัสติน บีเบอร์’ การต่อสู้กับความทรมานเพื่อสุขภาพจิตที่ต้องไม่แหลกสลายไปกว่านี้

หากพูดถึงซูเปอร์สตาร์ที่ชื่อ ‘จัสติน’ คนทั่วโลกประมาณ 70% จะมีชื่อของ จัสติน บีเบอร์ ป๊อปอัปขึ้นมาในหัวแน่นอน เพราะ จัสติน บีเบอร์ คือชื่อที่ทุกคนจดจำในฐานะซูเปอร์สตาร์ที่แจ้งเกิดจาก YouTube ด้วยเสียงร้องและใบหน้าอันเปี่ยมเสน่ห์ในวัยเพียง 13 ปี เพลงที่ทำให้ทั่วโลกรู้จักเขาคือเพลง Baby (ft. Ludacris) ที่ถูกปล่อยออกมาเมื่อ 15 ปีที่แล้วและมียอดวิวในปัจจุบันสูงถึง 3.4 พันล้านวิวใน YouTube

เพราะการโด่งดังตั้งแต่เด็กทุกย่างก้าวในชีวิตของเขาจึงถูกจับตามอง การเติบโตในโลกที่ไร้พื้นที่ส่วนตัว บ่อยครั้งถูกตัดสินโดยคนที่ไม่เคยรู้จักเขาจริงๆ  และหลายๆ คนก็สาดความคาดหวังใส่เขาโดยไม่รู้ตัว ภายใต้ชื่อเสียงและความสำเร็จที่มาไวเกินไปจัสติน บีเบอร์ต้องแบกรับสิ่งที่เรียกว่าความกดดัน เหล่านี้ทำให้ช่วงชีวิตหลังจากนั้นเขาต้องต่อสู้กับความทุกข์ทรมานที่เรียกว่าปํญหาด้านสุขภาพจิต

ก่อนหน้านี้เขาออกมายอมรับอย่างเปิดเผยว่า เขาเคยใช้สารเสพติดในช่วงที่ต้องการหาทางหนีความทรมานจากภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลโดยเฉพาะเมื่อเขาต้องใช้ชีวิตภายใต้สายตาของสาธารณชนตลอดเวลา ด้วยแรงกดดันจากความเป็นคนมีชื่อเสียงทำให้เขาต้องพยายามหาวิธีจัดการกับความรู้สึกอับอายและหดหู่ อีกทั้งเขายังเปิดเผยด้วยว่าเคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมาธิสั้น (ADHD: Attention-Deficit/Hyperactivity Disorder) และต้องใช้ยา Adderall เพื่อช่วยเรื่องสมาธิแต่ผลข้างเคียงกลับทำให้ความวิตกกังวลของเขารุนแรงมากขึ้น

แต่ดูเหมือนว่าการที่เขาได้แต่งงานกับ เฮลีย์ บอลด์วิน (ปัจจุบันใช้นามสกุล บีเบอร์) ในปี 2018 จะเป็นเหมือนการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ต่อมาในปี 2019 เขาได้เข้ารับการรักษาตัวอย่างจริงจังเพื่อความมั่นคงในชีวิตคู่และพร้อมที่จะเป็นพ่อที่ดีในอนาคตจนดูเหมือนว่าอาการจากปัญหาทางสุขภาพจิตของเขาดีขึ้นมากแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบาดแผลในใจเขาจะหายไปอย่างถาวร

ในปี 2022 จัสติน บีเบอร์ที่ชีวิตกำลังจะไปได้ดี กำลังมีคอนเสิร์ตใหญ่  Justin Bieber Justice World Tour กลับต้องชะงักอีกครั้งและต้องทำการยกเลิกเวิลด์ทัวร์ทั้งหมดเนื่องจากเขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค Ramsay Hunt Syndrome ทำให้ใบหน้าเป็นอัมพาตครึ่งซีก ภาวะซึมเศร้าของเขาจึงกลับมาอีกครั้งพร้อมสุขภาพกายที่ไม่สมบูรณ์

หลังจากห่างหายไปรักษาตัวจนร่างกายกลับมาสมบูรณ์ได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาจัสติน บีเบอร์ได้โพสต์ข้อความในอินสตาแกรมยอมรับว่าตอนนี้ตนเองกำลังรู้สักพังทลายและไม่สามารถควบคุมอารมณ์โกรธของตัวเองได้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา จัสติน บีเบอร์ ได้โพสต์ภาพสีขาว-ดำเป็นภาพของเขากำลังจับมือเล็กๆ ของลูกชายมาทาบที่ใบหน้าของตัวเองพร้อมแคปชันอีโมจิหน้าเศร้า ทำให้แฟนๆ แห่มาให้กำลังใจเขาในช่องคอมเมนต์เป็นจำนวนมาก ความฝันเล็กๆ ของจัสติน บีเบอร์คือการเป็นพ่อที่ดี แต่ตอนนี้ด้วยภาวะทางสุขภาพจิตทำให้เขากลับรู้สึกว่าเขาไม่สามารถเป็นพ่อที่ดีได้

เรื่องราวการต่อสู้กับปัญหาด้านสุขภาพจิตของจัสติน บีเบอร์เป็นอีกหนึ่งบทเรียนอันล้ำค่าให้กับใครก็ตามที่กำลังคาดหวังในตัวศิลปินมากเกินไปให้ได้รับรู้ว่า ตัวเองอาจกำลังสร้างบาดแผลให้กับคนที่ปากบอกว่ารักโดยไม่รู้ตัว และเรื่องนี้ยังทำให้เห็นว่าบาดแผลทางใจไม่ได้ปรากฏให้เห็นทางกายภาพเสมอไป ความทุกข์ทรมานที่เกิดจากภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล ความกดดันจากชื่อเสียง เป็นเรื่องจริงที่สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้แม้ว่าบุคคลนั้นจะดูเพียบพร้อมเพียงใดก็ตาม

Spacebar VIBE ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับจัสติน บีเบอร์ และศิลปิน คนดัง รวมไปถึงใครก็ตามที่กำลังต่อสู้กับภาวะซึมเศร้าให้โลกใบนี้ของพวกเขากลับมาสดใสอีกครั้ง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์