พลังประชารัฐเอาด้วย! ‘ชี้ ‘กองทัพไทย’ เป็นดั่งราชสีห์ แต่มีผู้นำเป็นดั่งลูกแกะที่อ่อนแอ

10 มิ.ย. 2568 - 08:01

  • ‘ม.ล.กรกสิวัฒน์’ ชี้ปมขัดแย้ง ‘ไทย-กัมพูชา’ ยังวางใจไม่ได้ ชี้ ‘กองทัพไทย’ เป็นเหมือนราชสีห์ แต่กลับมีผู้นำรัฐนาวาที่เป็นดั่งลูกแกะที่อ่อนแอ

  • แนะถ้าเจรจา JBC ไม่จบต้องมีมาตรการโต้กลับทันที

พลังประชารัฐเอาด้วย! ‘ชี้ ‘กองทัพไทย’ เป็นดั่งราชสีห์ แต่มีผู้นำเป็นดั่งลูกแกะที่อ่อนแอ

สถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ดูเหมือนจะเริ่มคลายความตึงเครียดลงไป หลังทหารกัมพูชายอมถอยกำลังตามคำที่ไทยร้องขอ แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นหลายคนมองว่ายังไม่น่าไว้วางใจ 

หนึ่งในนั้นคือ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี รองหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ( พปชร.) ที่มองว่า แม้ว่าสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลาย แต่ยังไว้วางใจไม่ได้ เพราะก่อนหน้านี้กัมพูชา พยายามรุกคืบเข้ามาในพื้นที่ของประเทศไทยตลอดเวลา ดังนั้น ถึงแม้กัมพูชาแจ้งว่า มีการปรับกำลังพลแล้ว แต่ก็ยังคงต้องเฝ้าจับตา 

“ต้องยอมรับว่า ยุทธศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศของเราอ่อนมาก เมื่อเทียบกับรัฐบาลที่ผ่านมา ซึ่งวิเคราะห์ได้ว่า ไทยกลายเป็นเหยื่อให้ผู้นำกัมพูชาสร้างความนิยมทางการเมืองโดยปั่นกระแสความรักชาติสร้างภาพให้ไทยเป็นผู้รุกราน และเขาเป็นผู้ปกป้อง เพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป”

ม.ล.กรกสิวัฒน์ กล่าว

ส่วนปัจจัยที่ทำให้กัมพูชารุกแบบได้คืบเอาศอก ม.ล.กรกสิวัฒน์ ระบุว่า มาจาก การที่ไทยมีรัฐบาลโดยเฉพาะตัวผู้นำที่อ่อนแอในเกมส์การเมืองระหว่างประเทศ เมื่อไทยยิ่งไม่ตอบโต้ในประเด็นที่ฝ่ายกัมพูชาใส่ความ ทำให้เราดูเป็นตัวร้ายในสายตาชาวโลก 

ม.ล.กรกสิวัฒน์ ยังระบุว่า หากเปรียบเทียบแสนยานุภาพทางทหารแล้ว กองทัพไทยของเราเป็นเหมือนราชสีห์ ส่วนกองทัพกัมพูชาเปรียบเสมือนลูกแกะ แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ กองทัพของเขานำโดยราชสีห์ จึงมีการวางแผนมาอย่างแยบยล ขณะที่กองทัพราชสีห์ที่นำโดยลูกแกะนั้นกลับปั่นทอนความเป็นเอกภาพในการกำเนินการเป็นอย่างมาก 

“ทหารไทยจะทำอะไรก็ติดขัดไปหมดเพราะฝ่ายการเมือง คือสาเหตุที่ทำให้ความน่าเกรงขามของไทยลดน้อยถอยลง ซึ่งก็น่าเห็นใจฝ่ายทหารที่ต้องอยู่ภายใต้รัฐบาลที่มีท่าทีอ่อนปวกเปียกกับประเทศเพื่อนบ้านที่แข็งกร้าวกับเราตลอดเวลา”

ม.ล.กรกสิวัฒน์ กล่าว

นอกจากนี้ ม.ล.กรกสิวัฒน์ ยังระบุถึง การเจรจา JBC ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ว่า ขอแนะนำ ถ้าเราไม่อยากรบ เราต้องแสดงออกว่า เราเข้มงวด และ เอาจริงเอาจังกับการรักษาเขตแดนของเรา และถ้าหากการเจรจาไม่เป็นผล เราต้องมีมาตรการโต้กลับทันที อย่างน้อย 2 มาตรการ 

  1. ตัดการขายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กัมพูชา เพราะทุกวันนี้ กัมพูชานำเข้าน้ำมันจากไทยถึง 55% ของที่เขาใช้อยู่ ถ้าเราใช้นโยบายนี้จะเป็นการทอนกำลังทางทหารและทางเศรษฐกิจไปพร้อมกัน ทำให้กัมพูชาเคลื่อนอาวุธยุทโธปกรณ์ได้ยากยิ่งขึ้น 
  2. ต้องตัดไฟฟ้า และการสื่อสาร สัญญาณอินเตอร์เน็ต หากทำทั้งสองอย่างนี้ เชื่อว่า จะทำให้กัมพูชา อ่อนกำลังโดยเร็ว 

ม.ล.กรกสิวัฒน์ เชื่อว่าทั้ง 2 มาตรการจะทำให้กัมพูชายับยั้งชั่งใจในการที่จะก่อสงคราม เพราะน้ำมันเป็นยุทธปัจจัยที่สำคัญ และหากเกิดการปะทะขึ้นอีก ไทยสามารถยกระดับการกดดันด้วยการปิดช่องทางลำเรียงยุทธปัจจัยทั้งหมด ซึ่งจะลดความเข้มแข็งของกัมพูชา และจำกัดการขัดแย้งไม่ให้ขยายวงออกไป และ ทำให้กัมพูชาเข้าสู่โต๊ะเจรจาแบบมีเหตุมีผล


เรื่องเด่นประจำสัปดาห์