เป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้ว ที่ทางการไทยได้ใช้มาตรการ 3 ตัด ตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ตัดการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังประเทศเมียนมา ตามนโยบายกวาดล้างปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้เมืองเมียวดี ที่อยู่ใกล้ชายแดนไทยด้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ได้รับผลกระทบจากมาตราการ 3 ตัด ประชาชนในเมืองต้องมีการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวัน
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่ไปยังเมืองเมียวดี เพื่อสำรวจบรรยากาศและการใช้ชีวิตของประชาชนภายในเมืองเมียวดี พบว่าที่ด่านผ่านแดนแม่สอด ก็ยังคงมีประชาชนทั้งคนไทยและคนเมียนมา เดินทางข้ามกันไปมาตามปกติ บรรยากาศภายในตัวเมืองเมียวดีชาวบ้านก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติตลาด ร้านค้าเปิดให้บริการและผู้คนออกมาจับจ่ายซื้อของ ขับขี่รถไปมาตามท้องถนน มีจุดรักษาความปลอดภัยของรัฐบาลทหารเมียนมา และทหารของ กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF)



จากการสังเกตด้วยสายตาและสอบถามจากประชาชนชาวเมียนมาในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนคือ ภายในเมืองมีแผงโซล่าเซลล์ เครื่องปั่นไฟน้อยใหญ่แล้วแต่ขนาดของบ้านหรืออาคาร เพื่อนำมาสร้างกระแสไฟฟ้าภายในเมือง ส่วนปั้มน้ำมันส่วนใหญ่ยังคงปิดให้บริการชั่วคราว แต่ยังมีปั้มน้ำมันขนาดเล็กภายในเมืองเมียวดีที่ยังเปิดให้บริการ และมีประชาชนมาเติมน้ำมันกันอย่างต่อเนื่องทั้งรถยนต์ รถจักยานยนต์ หรือนำแกลลอนขนาดเล็กมาซื้อน้ำมันด้วย
เจ้าของปั้มน้ำมันขนาดเล็กในเมืองเมียวดี เปิดเผยว่า หลังจากไทยใช้มาตราการ 3 ตัด ทำให้ในเมืองเมียวดีขาดแคลนน้ำมันมาก เนื่องจากต้องนำไปใช้กับเครื่องปั่น โดยน้ำมันที่นำมาขายมาจากภายในประเทศเมียนมา เช่นเมืองมะละเม่ง ส่วนราคาน้ำมันเริ่มตอนนี้เริ่มถูกลง น้ำมันเบนซินอยู่ที่ลิตรละ 6,800 จ๊าดหรือประมาณ 108 บาท ส่วนดีเซลลิตรละ 5,000 จ๊าด หรือ 80 บาท ซึ่งถูกกว่าราคาก่อนหน้านี้หลายเท่าตัว
“ทั้งนี้หากเป็นไปได้ก็อยากให้ทางการไทยพิจารณามาตราการ 3 ตัด เพราะชาวบ้านทั่วไปที่ไม่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก”



นอกจากนี้พบว่าเริ่มมีธุรกิจในการรับชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือ เพาเวอร์แบงค์ ไฟส่องสว่าง โดยลูกค้าจะนำมาฝากชาร์จในช่วงเวลากลางวันในราคา 8 บาทต่อครั้ง เพื่อที่จะนำไปใช้เป็นไฟส่องสว่างในช่วงเวลากลางคืน เนื่องจากยังมีประชาชนหลายคนที่บ้านเรือนยังไม่มีเครื่องปั่นไฟ เพราะเครื่องปั่นไฟถือว่าเป็นสินค้าที่หายากในขณะนี้ จากเหตุผลคือความต้องการเครื่องปั่นไฟมากขึ้นทำให้มีราคาสูง อีกทั้งการที่ทางการไทยไม่อนุญาตให้นำเครื่องปั่นไฟข้ามไปยังฝั่งประเทศเมียนมา ทำให้ธุรกิจนี้กลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้เสริมให้กับบ้านเรือนหรือร้านค้าที่มีแผงโซล่าเซลล์ ที่สามารถให้ไฟเกินกว่าที่ใช้ภายในครัวเรือน





เช่นเดียวกับเมืองชเวโก๊กโก่ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการ 3 ตัดของไทย โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจในตัวเมืองในช่วงเวลากลางวันพบว่าผู้คนยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ตามอาคารต่างๆ ยังสามารถเปิดเครื่องปรับอากาศได้ซึ่งใช้พลังงานจากเครื่องปั่นไฟทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่
โรงแรมร้านค้ายังคงเปิดให้บริการตามปกติ ในช่วงเวลากลางคืนก็ยังคงมีการก่อสร้างเมืองให้เห็น โดยหากมองจากฝั่งไทยข้ามไปจะเห็นว่ายังคงมีไฟส่องสว่างตามบ้านเรือนหรืออาคารขนาดใหญ่แต่ถือว่าแสงไฟลดลงไปจากก่อนหน้านี้มาก โดยมีการใช้ไฟเท่าที่จำเป็นเท่านั้น



อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อน และแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ยังคงใช้มาตรการ 3 ตัดในการปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ในจังหวัดเมียวดี และเร่งผลักดันให้ชาวต่างประเทศเดินทางกลับประเทศต้นทางให้ได้โดยเร็วที่สุด ตามนโยบายไม่จบไม่เลิกของนายกรัฐมนตรี

