แม้จะมีการพัฒนาคลองแม่ข่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในตัวเมืองเชียงใหม่ แต่ปัจจุบันยังพบว่าคลองแม่ข่าหลายช่วงประสบปัญหาน้ำเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็น โดยเฉพาะจุดที่เป็นชุมชนแออัด ที่ลักลอบปล่อยน้ำเสียลงคลองแม่ข่า ซึ่งเป็นปัญหาที่สะสมมานาน แม้จะมีความพยายามในการแก้ปัญหา แต่ปัจจุบันยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วสันต์ จอมภักดี นักวิชาการอิสระด้านการบริหารจัดการน้ำ เปิดเผยว่า ปัญหาหลักที่ยังคงทำให้คลองแม่ข่าเน่าเสีย ยืนยันได้ชัดเจนว่ามาจากฝีมือมนุษย์ เนื่องจากน้ำคลองแม่ข่าพื้นที่ต้นน้ำจากอำเภอแม่ริม นั้นยังคงมีความใสสะอาด แต่พอผ่านตัวเมืองพื้นที่ชุมชนแออัด ก็ทำให้เกิดน้ำเน่าเสีย โดยเฉพาะบริเวณโซนถนนรัตนโกสินทร์อำเภอเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ชุมชนแออัด รวมถึงมีโรงงานต่างๆ และตลาดสด เป็นจุดเสี่ยงที่มักลักลอบปล่อยน้ำเสีย ลงในคลองแม่ข่า โดยไม่ผ่านระบบบำบัดเบื้องต้น

“หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีการรณรงค์ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการเหล่านี้มีบ่อบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยน้ำลงสู่คลองสาธารณะ ซึ่งในอดีตนั้นเคยเข้มงวดกับระบบนี้ทำให้น้ำในคลองแม่ข่าเริ่มดีขึ้น แต่ปัจจุบันคลองแม่ข่า กลับมาเน่าเสียอีก จึงต้องมีการรณรงค์ให้กับกลุ่มเหล่านี้ และจะต้องทำอย่างต่อเนื่อง ถึงจะเป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน”
ผศ.วสันต์ กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางการแก้ปัญหา เราจะต้องแยกน้ำเสียออกจากระบบ เพื่อเข้าสู่ระบบบำบัดที่มีอยู่แล้ว ปัจจุบันยังสามารถทำงานได้ตามปกติ ขณะเดียวกันทางจังหวัดเชียงใหม่อยู่ระหว่างเตรียมสร้างระบบบำบัดน้ำเสียเพิ่มเติมขึ้นมาใหม่ ที่มีการศึกษาและออกแบบไว้แล้ว ซึ่งยังต้องใช้เวลาในการดำเนินการพอสมควร


“ปัญหาน้ำคลองแม่ข่าเน่าเสีย เกิดขึ้นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝน พอมีฝนตกลงมาก็ถือว่าเป็นคตินิยม ที่เชื่อว่าน้ำฝนจะช่วยเจือจางจึงมีการลักลอบปล่อยน้ำเสียลงคลองมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ยังพบเห็นอยู่”
ขณะที่ สายทอง วงศ์กุณา ชาวบ้านในตำบลสบแม่ข่า อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีบ้านพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ปลายน้ำ บอกว่า น้ำจากคลองแม่ข่าจะไหลลงมาสู่แม่น้ำปิงบริเวณนี้ โดยพื้นที่ก่อนเข้าหมู่บ้าน ชาวบ้านในตำบลสบแม่ข่า จะใช้น้ำแม่ข่าเป็นหลักในการทำการเกษตร บางช่วงที่น้ำแม่ข่าเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็น โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน จะไม่สามารถใช้น้ำทำการเกษตรได้ จึงต้องมีการสูบน้ำเข้าพื้นที่ทำการเกษตรต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม

“จริงๆ แล้ว คลองแม่ข่า ถือว่าเป็นคลองสาธารณะ ที่ทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกันในการดูแลรักษาความสะอาด โดยชุมชนสบข่านั้น รับน้ำต่อจากชุมชนเมือง จึงอยากให้พื้นที่ต้นน้ำมีความรับผิดชอบ เรื่องการปล่อยน้ำเสียลงในแม่น้ำลำคลอง ซึ่งส่งผลกระทบกับคนที่อยู่ปลายน้ำ และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหานี้ ให้ลำคลองแม่ข่ากลับมาใสดังเดิม เหมือนในอดีตหลาย 10 ปี ที่ชุมชนเมืองยังไม่มีการพัฒนามากนัก” สายทอง กล่าว

นิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การพัฒนาและแก้ปัญหาคลองแม่ข่านั้นจังหวัดเชียงใหม่ ทำมาอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการชลประทานเชียงใหม่ได้ดำเนินงานด้านบริหารจัดการน้ำ มีการผันน้ำจากคลองชลประทานแม่แตง สนับสนุนคลองแม่ข่าวันละ 44,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อเติมน้ำดี ไล่น้ำเสีย ควบคู่ไปกับการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำในคลองแม่ข่าน้อย ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง ต.สันผักหวาน ต.สบแม่ข่า อำเภอหางดง ในช่วงฤดูฝน เพื่อช่วยในการระบายน้ำความยาว 6,400 เมตร ปริมาณ 1,400 ตัน

“ด้านคุณภาพน้ำได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ที่มีพื้นที่ติดคลองแม่ข่า ได้แก่ อบต.ดอนแก้ว อำเภอแม่ริม เทศบาลนครเชียงใหม่ เทศบาลป่าแดด โดยมีองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ได้ทำการศึกษาความเหมาะสม และออกแบบระบบรวบรวมน้ำเสีย และปรับปรุงประสิทธิภาพระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อปรับปรุงคุณภาพน้ำคลองแม่ข่าให้ดียิ่งขึ้น”
สำหรับ คลองแม่ข่า เป็นคลองโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี มีความสำคัญในการสร้าง และเป็นคูเมืองเชียงใหม่ เดิมทีคลองแม่ข่าทำหน้าที่เป็นทั้งคูเมืองชั้นนอกที่โอบล้อมเมืองและทางระบายน้ำลงสู่แม่น้ำปิง ช่วยป้องกันน้ำท่วม รวมถึงเป็นสายน้ำหลักที่ชาวบ้านรอบเมืองใช้ในการอุปโภค และ ทำการเกษตร แต่ปัจจุบันคลองแม่ข่าประสบปัญหาน้ำเน่าเสียจากการขยายตัวของเมืองและชุมชนแออัด ซึ่งเป็นปัญหาสะสามมานานเกิน 30 ปี ที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ทั้งหมด

ในปี 2560 เทศบาลนครเชียงใหม่ ฟื้นฟูคลองแม่ข่าครั้งใหญ่ ด้วยงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท เพื่อขุดลอกคลอง ติดตั้งเครื่องเติมอากาศ และปรับปรุงภูมิทัศน์ จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่บริเวณนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นในการแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่าทั้งสาย

