'นิกรเดช พลางกูร' อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุถึงกรณีที่เมวานนี้ (10 มิ.ย.68) ได้รับรายงานว่ากองกำลัง 'ไทย - กัมพูชา' ได้ออกสำรวจแนวคูเลต ที่ถูกฝังกลบ และการปรับปรุงพื้นที่ตามข้อตกลงร่วมกัน พร้อมมีการปรับการวากำลังทั้ง 2 ฝ่าย ให้เป็นไปตามการตกลงในช่วงสถานการณ์ปี 2567 ถือพัฒนาการทางบวก - สัญญาณที่ดี สะท้อนถึงความจริงใจของกัมพูชาในการลดความตึงเครียด
นิกรเดช เชื่อว่า เป็นผลมาจากการเจรจาในทุกระดับของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การหาทางออกอย่างสันติในระยะยาว โดยเฉพาะการใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ สร้างบรรยากาศที่ดีนำไปสู่การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย.นี้
ดังนั้น จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประชุมที่จะถึงนี้ โดยกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพ ณ กรุงพนมเปญ จะช่วยผ่อนคลายสถานการณ์ภาพรวม ที่ยังคงมีความเปราะบางอยู่ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่และความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองฝั่งชายแดน นำไปสู่การหาทางออกที่ยั่งยืน
ทั้งนี้ ขอยืนยันความพร้อมของฝ่ายไทยในการประชุม JBC ด้วยความสุจริตใจ เห็นความร่วมมือและความตั้งใจจริงของทั้งสองฝ่ายในการทำให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีดียิ่งขึ้น รัฐบาลไทยยืนยันความเชื่อมั่นว่าการใช้กลไกที่ไทยและกัมพูชามีอยู่ระหว่างกัน ทั้งในส่วนทหารและพลเรือน รวมถึงการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ
ขณะที่การควบคุม 'จุดผ่านแดน' ยังดำเนินตามความประเมินของฝ่ายความมั่นคง ส่วนการที่ 'ศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน' มีประกาศที่จะยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อาทิ การตัดกระแสไฟฟ้า - สัญญาณอินเตอร์เน็ต ที่ส่งเข้าบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ การควบคุมสินค้าและยุทโธปกรณ์ ที่อาจจะนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมข้ามชาติอื่น ๆ โดยจะนำเสนอมาตรการดังกล่าวต่อที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ต่อไป
ส่วน มาตรการจำกัดวีซาคนไทยของกัมพูชา จากเดิม 60 วัน เหลือ 7 วัน ได้รับการยืนยันมาว่ากัมพูชาได้ลดจำนวนวันจริง ซึ่งฝ่ายไทยก็ได้ออกมาตรการโต้ปรับลดเหลือ 7 วันแล้วเช่นกัน และยังไม่แน่ใจว่าจะดำเนินการไปถึงเมื่อไร เพราะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ในส่วนความตึงเครียดทางทหาร ถือว่าลดลงจากการถอยและกลบคูเลต แต่ยังอยู่ในสภาวะที่เปราะบาง มีความน่ากังวล และสถานการณ์ก็ยังไม่ได้กลับสู่สภาวะปกติ แต่ก็ถือเป็นสัญญาณดี
เมื่อถามว่าในการประชุม JBC กัมพูชายังไม่ขอเจรจาเรื่องข้อพิพาท 4 พื้นที่ที่จะเสนอต่อศาลโลก ไทยจะมีการโน้มน้าวให้มีการนำมาพูดคุยในโต๊ะการประชุมหรือไม่ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ทั้งไทยและกัมพูชาเริ่มคุยกันเรื่องวาระการประชุมแล้ว ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่ามีการคุยเรื่องข้อพิพาท 4 พื้นที่หรือไม่ ทั้งสองฝ่ายอาจมีท่าทีสงวนว่าจะคุยกัน