คณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) มีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และบางกลุ่มกิจการทั่วประเทศ เป็นวันละ 400 บาท โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป คาดแรงงานกว่า 700,000 คนได้รับประโยชน์จากการปรับขึ้นในรอบนี้
บุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง ชุดที่ 22 ครั้งที่ 6/2568 ว่า ที่ประชุมมีมติเสียงข้างมาก 2 ใน 3 จากคณะกรรมการ 15 คน เห็นชอบให้ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวัน โดยมีรายละเอียดดังนี้:
พื้นที่กรุงเทพมหานคร : ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวัน ครอบคลุมทั้งพื้นที่
ต่างจังหวัด : ปรับค่าจ้างเป็น 400 บาทต่อวัน เฉพาะบางกิจการ ได้แก่
- โรงแรมตั้งแต่ระดับ 2 ดาวขึ้นไป หรือโรงแรมที่มีห้องพักตั้งแต่ 50 ห้อง
- กิจการที่มีห้องอาหารในโรงแรม
- สถานบริการตาม พ.ร.บ.สถานบริการ เช่น คาราโอเกะ เลานจ์ ค็อกเทลบาร์ เป็นต้น

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวเป็นการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานไทย ให้ได้รับค่าจ้างที่เหมาะสม สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและค่าครองชีพ
บุญสงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การตัดสินใจปรับขึ้นค่าจ้างครั้งนี้ผ่านกระบวนการกลั่นกรองอย่างรอบคอบในกรอบไตรภาคี ทั้งจากฝ่ายนายจ้าง ลูกจ้าง และภาครัฐ โดยเริ่มต้นจากกลุ่มกิจการในภาคบริการและการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นกลุ่มที่สามารถรองรับภาระค่าจ้างได้ และส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการน้อยที่สุด
“นี่เป็นเพียงก้าวแรกของการยกระดับค่าจ้างขั้นต่ำให้แรงงานไทยมีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน ซึ่งจะมีการประเมินผลกระทบและขยายการปรับค่าจ้างไปยังภาคส่วนอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง”
— บุญสงค์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม มติดังกล่าวจะต้องเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีก่อนมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายอย่างเป็นทางการต่อไป
