‘แรงแค้น’ บันดาล ‘แรงค้าน’
‘ภูมิใจไทย’ ถอนตัว ‘พรรคร่วมรัฐบาล’ ได้ไม่ถึง 1 สัปดาห์ เริ่มเล่น ‘บทฝ่ายค้าน’ ที่มี ‘ความแค้น’ นำทาง มีมติพรรคฯ ยื่น ‘อภิปรายไม่ไว้วางใจ’ นายกฯ-ครม. แบบลงมติ ตาม รธน. มาตรา 151 โดยเตรียมยื่นหลังเปิดสมัยประชุม 3 ก.ค.นี้ ทำให้ฝั่ง ‘เพื่อไทย’ ถึงกับ ‘ออกอาการ’ พร้อมดักคอให้ ‘ระวังเข้าตัว’ เพราะเพิ่งเป็น ‘รัฐมนตรี’ มาด้วย
เชื้อไฟที่ ภท. ถอนตัวจากรัฐบาล มาจากเหตุ ‘คลิปเสียง’ บทสนทนาระหว่าง ‘แพทองธาร-ฮุน เซน’ เรียกว่า ‘ชิงถอนตัว’ ก่อนโดน ‘เพื่อไทย’ ยึด ‘มหาดไทย’ ที่เท่ากับ ‘ไล่’ ออกจาก ครม. ทางอ้อม สิ่งเหล่านี้มาไวกว่ากำหนด เพราะก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า ภท. อาจถอนตัวจากพรรคร่วม รบ. ในปีหน้า ก่อน ‘ยุบสภา’ มากกว่าที่จะออกในปีนี้ ด้วยสัมพันธ์ ‘2 ผู้นำจิตวิญญาณ’ ระหว่าง ‘เนวิน ชิดชอบ - ทักษิณ ชินวัตร’ ที่ยากจะเหมือนเดิม กับอมตะวาจา ‘มันจบแล้วครับนาย’
การออกจาก ‘รัฐบาล’ ของ ภท. แม้ ‘รบ.แพทองธาร’ ยังเป็น ‘รบ.เสียงข้างมาก’ แต่ก็อยู่ในสภาวะ ‘เสียงปริ่มน้ำ’ อยู่ที่ประมาณ 256-261 เสียง ที่ต้องเสียง ‘สส.งูเห่า’ จาก ‘ฝ่ายค้าน’ มาเติม แต่ก็ทำให้เสถียรภาพ ‘รบ.แพทองธาร’ ลดลง
สูตรผสม ภท.-ปชน.-พปชร. ยื่นซักฟอก
สมฉายา ‘ภูมิใจขวาง’ จากนี้ฝั่ง ภท. ก็สามารถ ‘ค้าน’ ได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้อง ‘เหนียม’ อีกต่อไป โดยเฉพาะนโยบายเรือธงของ ‘เพื่อไทย’ เช่น พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ฯ เพื่อสกัดการทำ ‘กาสิโน’ เป็นต้น
การยื่น ‘ซักฟอก’ ต้องอาศัยเสียง 1 ใน 5 จาก สส. ทั้งหมด ที่ขณะนี้มี สส. 498 คน โดย 1 ใน 5 เท่ากับ 99 เสียง ซึ่ง ภท. มี สสป 69 คน ต้องไปขอเสียง ‘พรรคฝ่ายค้าน’ ที่ตอนนี้ ‘พลังประชารัฐ’ ประกาศพร้อมลงชื่อ โดยมี สส. อยู่ 20 คน (-1 เคยโหวตสวน = 19 คน) ต้องขอเสียงพรรคอื่นๆ อีก 10-11 เสียง โดยเฉพาะจาก ‘พรรคประชาชน’ จะร่วมลงชื่อทั้ง 143 เสียง หรือไม่ ที่ในสัปดาห์หน้า ปชน. จะหารือในเรื่องนี้
ปชน. ระวังเป็นลูกไล่ ภท.
ในฝั่ง ปชน. ก็ต้องระวังกลายเป็น ‘เครื่องมือ’ ให้กับฝั่ง ภท. เพราะเพิ่ง ‘ซักฟอก’ นายกฯอิ๊งค์ เพียง 1 คน ไปเมื่อปลาย มี.ค.68 ในสมัยประชุมฯ ที่ผ่านมา ซึ่งผ่านมาเพียง 3 เดือนเท่านั้น
อีกทั้งเพื่อไม่ให้ ภท. เล่นบท ‘ชิงนำ’ จนทำให้ ปชน. กลายเป็น ‘ลูกไล่’ เพราะตำแหน่ง ‘ผู้นำฝ่ายค้าน’ อยู่ที่ ปชน. นั่นคือ ‘เท้ง-ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ’ หน.พรรคประชาชน
แผน ‘รีแบรนด์-ชุบตัว’ ภท.
ภท. ในขณะนี้อยู่ในช่วง ‘รีแบรนด์-ชุบตัว’ ครั้งใหม่ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เป็น ‘ฝ่ายค้าน’ ย้อนกลับไปสมัย ‘รบ.ยิ่งลักษณ์’ ภท. ก็ทำหน้าที่ ‘ฝ่ายค้าน’ มาแล้ว แต่ภาพจำอยู่ที่ ‘ประชาธิปัตย์’ มากกว่า แต่ในช่วงเวลานั้นกระแส ‘เพื่อไทยฟีเวอร์-นารีขี่ม้าขาว’ และ ‘รบ.ยิ่งลักษณ์’ ชนะแบบ ‘แลนด์สไลด์’
สถานการณ์ต่างจาก ‘นายกฯ แพทองธาร’ ทั้งสิ้น แม้สุดท้าย ‘ยิ่งลักษณ์’ จะอวสานด้วยเหตุ ‘รัฐประหาร 2557’ ก็ตาม แต่บริบทของ ‘นายกฯ แพทองธาร’ เป็น ‘รัฐบาลข้ามขั้ว’ ที่ยังอยู่กับ ‘ขั้วอนุรักษนิยม’ ที่มี ‘กองทัพ’ อยู่ในสมการ
กระแสเลือกตั้งปี 2570 ตามโรดแมป หาก ‘รบ.เพื่อไทย’ อยู่ครบ 4 ปี ก็คาดการณ์กันว่า โอกาสที่ ‘พรรคประชาชน’ จะชนะเลือกตั้งแบบ ‘อดีตพรรคก้าวไกล’ มีสูงมาก ส่วนจะ ‘แลนด์สไลด์’ หรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่อง ด้วยกระแสสังคมตอนนี้ไปทาง ‘ฝ่ายค้าน’ มากกว่า ‘ฝ่ายรัฐบาล’ ซึ่งจุดนี้เอง ภท. อ่าน ‘กระแสสังคม’ ออก
ดังนั้น ปชน. จึงต้องชั่งน้ำหนักให้ดี จะร่วม ‘ผสมโรง’ กับ ภท. หรือไม่ จะใช้จังหวะช่วงใด และจะช่วงชิง ‘บทนำ’ ได้อย่างไร ไปพร้อมๆกัน เพื่อไม่ให้เป็น ‘ลูกไล่ ภท.’ ในบทบาทฝ่ายค้าน
หาก ปชน. ไม่ชิงจังหวะนี้ ตามที่ ภท. ยื่นมา ก็จะต้องเผชิญครหาเฉกเช่นในอดีต เช่น ชกไม่สุดแรง หรือการขุด ‘ดีลลับฮ่องกง’ ขึ้นมาอีก เป็นต้น เพราะญัตติที่ ภท. จะยื่นเปิดซักฟอก มี ‘สารตั้งต้น’ คือ ‘คลิปเสียง’ การสนทนาระหว่าง ‘แพทองธาร - ฮุน เซน’ นั่นเอง
ภท. ตี 2 ตลาด กระแส + บ้านใหญ่
การมาเป็น ‘ฝ่ายค้าน’ ในอีกแง่ ก็เพื่อมา ‘ชุบตัว’ หวังผลในการ ‘เลือกตั้ง’ ครั้งหน้า แข่งกับ ปชน. ได้ แต่ในอีกแง่ก็เก็บ ‘พลังบ้านใหญ่’ ตุนเอาไว้ด้วย เพื่อสู้กับฝั่ง ‘เพื่อไทย-กล้าธรรม’ รวมทั้งการทำให้ ‘สส.พื้นที่’ อยู่ในพื้นที่ง่ายขึ้น แม้อาจสะดุดเรื่อง ‘งบ-นโนบาย’ ที่อาจลงมาในพื้นที่ได้ไม่เท่ากับการเป็น ‘ฝ่ายรัฐบาล’ ตัดไปที่ฝั่ง ‘สส.เพื่อไทย’ ที่อยู่ในพื้นที่ ต่างเจอ ‘แรงเสียดทาน’ จากคนในพื้นที่ ผลพวงจากการ ‘บริหารงาน’ ของรัฐบาล
เท่ากับว่า ภท. กำลังตี 2 ตลาด คือ ฝั่งฝ่ายค้านในแง่ ‘กระแส’ และซุ่มเก็บกำลัง ‘สส.บ้านใหญ่’ ไปในตัว
เข็มทิศ ภท. ซักฟอก ‘ครม.อิ๊งค์2’ ปิดประตูยุบสภา
การที่ ภท. เคยบริหารงานใน ‘3 รัฐบาล’ ย่อมรู้ ‘ข้อมูล-กลไก’ ของกระทรวงฯ ที่เคยอยู่มาตั้งแต่ยุค ‘รบ.ประยุทธ์’ มาถึง ‘รบ.เศรษฐา-แพทองธาร’ ยังไม่นับรวม ‘ภาวะหนอนบ่อนไส้’ ที่อาจเกิดขึ้น หากมีการ ‘ล้างบาง’ เกิดขึ้น ในกระทรวงที่เคยอยู่ในกำกับ ภท. โดยเฉพาะในช่วง 2 รัฐบาลที่ผ่านมา แต่ ภท. ก็อย่าได้ชะล่าใจ เพราะอาจ ‘เข้าเนื้อตัวเอง’ เช่นกัน
ท่าทีของ ภท. โดยเฉพาะ ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ หน.ภูมิใจไทย มีเงื่อนไขกับ ปชน. หลักๆ คือ การแก้ไข ม.112 ที่ไม่สามารถร่วมทางกันได้ แต่ในปัจจุบันพบว่าท่าที ปชน. ก็เบาเรื่อง ม.112 ลงไปอย่างมาก ซึ่ง ‘อนุทิน’ เคยให้สัมภาษณ์สื่อ ปลาย พ.ค.68 มีท่าที ‘ไม่ปิดประตู’ จับมือ ปชน. ร่วมรัฐบาลในอนาคต หาก ‘นโยบาย’ ไปด้วยกันได้
หาก ‘ฝ่ายค้าน’ ยื่น ม.151 ต่อสภาฯ แล้ว ก็จะทำให้ ‘แพทองธาร’ ไม่สามารถใช้อำนาจ ‘ยุบสภา’ ได้ ตามกลไกของ รธน. เว้นแต่จะมีการถอนญัตติ หรือ นายกฯ-รมต. ได้เสียง ‘ไว้วางใจ’ เกินครึ่งขององค์ประชุม สส.
นิติสงคราม ขั้วแดง VS ขั้วนำเงิน เล่นกันแรง ถึงตายไหม ?
อย่างไรก็ตาม ‘สงครามตัวแทน’ หรือ Proxy War ระหว่าง ‘ขั้วแดง-ขั้วน้ำเงิน’ ยังคงดำเนินต่อไป เพราะ ‘ขั้วแดง’ ไม่ได้ ‘สิ้นไร้ไม้ตอก’ และฝั่ง ‘สีน้ำเงิน’ ก็มีชนักติดหลังไม่น้อย
โดยเฉพาะ ‘คดีเลือกฮั้ว สว.’ ที่ลากไปถึง ‘บิ๊กเนม ภท.’ เรียบร้อย ทั้ง ‘เนวิน-อนุทิน-ไชยชนก ชิดชอบ’ ที่ กกต. เรียกให้ไปชี้แจงข้อกล่าวหา ไม่นับรวม ‘สว.สีน้ำเงิน’ ที่ไปยื่นศาล รธน. และ ป.ป.ช. ถอดถอน ‘แพทองธาร’ พ้น นายกฯ เซ่นปม ‘คลิปเสียง’ อีกด้วย
อีกทั้ง ‘สารพัดนักร้อง’ ที่เคยไปยื่น ‘ยุบพรรค’ ทั้ง ‘เพื่อไทย-ภูมิใจไทย’ ต่อ ‘องค์กรอิสระ’ ผลพวงจาก ‘นิติสงคราม’ ที่เกิดขึ้น เรียกว่า ‘เล่นกันแรง’
สุดท้ายต้องจับตา ‘ม็อบบนถนน’ โดยกลุ่ม ‘รวมพลังแผ่นดิน’ ที่นัดชุมนุมใหญ่ 28 มิ.ย.นี้ จะมี ‘การเมืองฝ่ายใด’ ไป ‘ผสมโรง’ ด้วยหรือไม่ เพราะหลักการในการ ‘ทำม็อบ’ ต้องอาศัย ‘กำลัง’ 2 ฝ่าย ในการขับเคลื่อน เฉกเช่น สมัยม็อบ กปปส. ที่เป็น ‘สารตั้งต้น’ ทำให้ ‘รบ.ยิ่งลักษณ์’ อวสาน มาแล้ว