นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคกล้าธรรมกำลังขยับขับเคลื่อนนโยบายของพรรคในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งเราไม่ได้ให้ความสำคัญเฉพาะในภาคของการเกษตรเท่านั้น แต่ภาคการศึกษาก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่พรรคกล้าธรรมให้ความสำคัญเพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศ โดยเรามี ปรีดา บุญเพลิง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม เป็นคนขับเคลื่อน โดยร่วมกับข้าราชการครูทั่วประเทศอีกกว่า 50 ท่าน ซึ่งจะนำมาสู่นโยบายที่ถูกต้อง โดนใจครู นิสิต นักเรียน ถือเป็นการเตรียมพร้อมของพรรค ไม่ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เราก็มีความพร้อมเสมอ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ท้าเปิดรายชื่อ สส.ที่จะย้ายมาพรรคกล้าธรรม? นฤมล กล่าวว่า ก็เป็นความเห็นส่วนตัวของหัวหน้าพรรคประชาชน ในส่วนของพรรคกล้าธรรม เราต้องให้เกียรติทุกคนที่จะเข้ามาร่วมงานกับเรา ในการพิจารณาตัดสินใจจะเข้ามา เราไม่ได้คิดจะมาเล่นเกมอะไรอย่างที่ฝ่ายค้านมอง เราพร้อมที่จะเปิดกว้างรับผู้ที่มีอุดมการณ์ตรงกับเรา ไม่มีเขา ไม่มีเรา ไม่มีพวกใด ๆ ทั้งสิ้น
เป้าหมายของเรา ไม่ได้คิดจะทำเพื่อประโยชน์ของพรรคกล้าธรรม แต่เรายึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เราไม่ได้สร้างคำพูดสวยหรู แต่เราเป็นแบบนั้นจริง ๆ วันนี้ดิฉันกำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ หากมีความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เราก็พร้อมที่จะลงไปช่วยแก้ไข ซึ่งเป็นมาตั้งแต่สมัย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ที่เป็น รมว.เกษตรฯ ก็เป็นเช่นนี้ เราพร้อมที่จะลงไปแก้ปัญหาทุกพื้นที่ และเชื่อว่า ถ้านักการเมืองทุกคนทำงานแบบนี้ ประชาชนก็จะได้ประโยชน์
ส่วนกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า ได้มีการพูดคุยกับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงการย้ายพรรคของ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ การุณ โหสกุล อดีต สส.กทม. พรรคเพื่อไทย จะถูกมองว่าพรรคกล้าธรรมเป็นสาขาพรรคการเมืองอื่นหรือไม่? นฤมล ยืนยันว่า พรรคกล้าธรรมคือพรรคกล้าธรรม ไม่ใช่สาขาพรรคใดแน่นอน และเราก็จะสร้างบ้านและครอบครัวของเราขยายไปเรื่อย ๆ อย่างเข้มแข็ง
ทั้ง 2 ท่านมาร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมเพราะมีอุดมการณ์ที่ตรงกัน เป็นพรรคที่ตรงใจกับเขาในการที่จะช่วยเหลือประชาชนเหมือนกัน ไม่ใช่จะต้องวิ่งไปหาฝ่ายเดียวกันเท่านั้นที่จะช่วยได้ ส่วนการพูดคุยกับทักษิณ เนื่องจากทั้ง 2 ท่านเคยสังกัดพรรคเพื่อไทยมาก่อน ดังนั้น วัฒนธรรมของคนไทยก็ต้องไปลามาไหว้ผู้บริหารพรรคและผู้ที่เคยดูแลมาก่อนเป็นธรรมดา