นิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งจากการ ‘คัดเลือก สว.’ ว่า เรื่องนี้มันมีปัญหาและกระทบต่อระบบ ซึ่งผมเคยพูดเรื่องนี้ ปัญหาที่ผมเห็นมันเป็นปัญหาตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 60 ซึ่งได้นำเรื่องนี้มาพิจารณา และผมได้ให้ความเห็นไปว่า จะเป็นแบบนี้ไม่ได้
ผมเห็นด้วยกับการเลือกจากสาขาอาชีพ 20 กลุ่มอาชีพ แต่ไม่เห็นด้วยกับการเลือกไขว้ ซึ่งการเลือกจากสาขาอาชีพ 20 กลุ่มอาชีพ สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่ง กกต. จะเป็นผู้กำหนดว่ามีอาชีพอะไรบ้าง ซึ่ง 5 ปีจะกำหนดครั้งหนึ่งก็ได้ ซึ่งต้องปรับเปลี่ยนไปตามสภาพ และต้องแสดงให้ชัดเจนว่าการได้มาซึ่งอาชีพนั้น ๆ มีที่มาที่ไปอย่างไร
รัฐธรรมนูญต้องกำหนดว่า อาชีพอะไรมีพื้นฐานอย่างไร มีความยืดยาวของอาชีพนั้น ๆ หรือไม่ ตอนนี้ทุกอย่างมันหลวมหมดเลย
ตอนนั้นผมยังถามว่า แล้วเขาจะรู้กันได้อย่างไร จะเลือกกันอย่างไร ถ้าเลือกในกลุ่มก็จะกลัวบล็อกโหวตกันอีก และถ้าเลือกข้างมันก็ไม่ได้ ซึ่งตรงนี้เป็นประเด็นมาก เรื่องนี้การเขียนรัฐธรรมนูญมีปัญหาตรงนี้มาก ซึ่งตอนนั้น มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เอามาทดลองครั้งหนึ่ง เป็นคำถามพ่วง เอามาทดลองแล้วก็ยังไม่สะเด็ดน้ำ หลังจากนั้นพอมาเป็นกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มา สว. ยิ่งมีปัญหาใหญ่ เพราะไปเขียนเป็นปลายเปิดหมด เคาะไม่ลง จัดไม่ถูก พอเอามาดำเนินการ มันก็ออกมาจริง ๆ ว่ามีปัญหา และเป็นปัญหาซ้ำซ้อน
ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุต่อไปว่า กกต.เองก็มีการออกระเบียบ พอออกระเบียบว่าไม่ให้ข้อมูลซึ่งกันและกัน ปรากฏว่ามีคนไปร้องศาลปกครอง และศาลปกครองก็ชี้ว่า สามารถทำได้หมด คือจะเอาชื่อเข้าไป หรือแลกกันทำได้หมด ยังไงก็ได้ ทำได้หมด ทำให้วุ่นวายไปหมด มันจึงเป็นเหตุมาถึงปัจจุบัน
ดังนั้น กรณีที่เกิดขึ้น ผมมองว่า มีลักษณะเดียวที่จะเกิดขึ้นคือ คนจะรู้สึกว่า สว. ไปเทียบกับการเลือกตั้งโดยตรง ซึ่งไม่ใช่, รัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดอย่างนั้น มันไม่ใช่รัฐธรรมนูญปี 50 เมื่อคนมีความเชื่ออย่างนั้นทำให้มีปัญหา เมื่อมีปัญหาแล้วมันจะไปจบที่ไหน ซึ่งผมประเมินว่า กกต. น่าจะเจอปัญหาเหล่านี้บ้าง แต่ทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับการไปให้ข้อมูลซึ่งกันและกัน เป็นเรื่องที่ทำได้ ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญนี้
แต่ประเด็นเรื่องการให้เงินให้ทอง ตรงนี้เป็นประเด็น ซึ่งถ้าพิสูจน์ได้ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย เพราะถือว่าเป็นการได้มาโดยไม่สุจริต
ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้น่าจะยืดยาวแน่ ซึ่งปัญหานี้เราต้องรู้ว่ามันเริ่มมาตั้งแต่รัฐธรรมนูญ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ และคำสั่งศาลปกครองในขณะนั้นด้วย
เมื่อถามว่า ถ้าจะไม่ให้มีปัญหาในอนาคต ต้องแก้รัฐธรรมนูญอย่างเดียวใช่หรือไม่? นิกร กล่าวว่า “ผมเชื่อว่าเรื่องนี้ยังไงก็ต้องแก้ ตอนนี้เราเรียนรู้ข้อผิดพลาดตอนที่ มีชัย ทดลองมา 50 คน พอทดลองไปแล้วมันก็มีปัญหา แต่ยังไม่ได้แก้รัฐธรรมนูญ แต่ครั้งนี้คงต้องไปแก้แน่ ๆ จะได้แก้ปัญหาที่ต้นตอไปเลย และไม่ใช่ไปดูที่ปลายน้ำแล้วมีคลื่นมีลม จนหลงทางกันไปหมด มันไม่ได้”
ส่วนเมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะการเมืองด้วยหรือไม่? นิกร กล่าวว่า “ใช่, ก็คลื่นลมทางการเมือง มันเลยยิ่งทำ มันต้องนิ่ง ๆ ใจร่ม ๆ และดูว่าปัญหามันเกิดตรงไหน ไม่อย่างนั้นแก้ไม่ได้หรอก มันจะโยงกันไปหมด และระบบของประเทศมันจะเสียหาย”
เมื่อถามว่า เชื่อว่าส่วนใหญ่สนับสนุนให้มีการแก้ตรงนี้ใช่หรือไม่? นิกร กล่าวว่า “มันต้องแก้เลย เพราะเดิมผมไม่เห็นด้วยมาตั้งแต่ต้น แต่ก็ยังฝืนมาก็มีปัญหาต่อเนื่องมาโดยตลอด มันต้องแก้ทั้งรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. รวมถึงรายละเอียดของ กกต. ว่าอะไรทำได้ ทำไม่ได้ แต่ตอนนี้กฎหมายมันแย้งกันหมด”