'นพดล' ป้องนายกฯ พยายามปกป้องผลประโยชน์ชาติ ปม ‘คลิปเสียง’

19 มิ.ย. 2568 - 07:47

  • นพดล' ป้อง ‘นายน้อย’ พยายามปกป้องผลประโยชน์ชาติ ฟังจากคลิปเห็นว่าไม่ปิดด่านตามความต้องการ 'ฮุน เซน'

  • ย้ำ ‘นายกฯ’ หวังสันติภาพแม้จะถูกวิจารณ์

'นพดล' ป้องนายกฯ พยายามปกป้องผลประโยชน์ชาติ ปม ‘คลิปเสียง’

‘นพดล ปัทมะ’ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง ‘แพทองธาร ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรี และ ‘สมเด็จ ฮุน เซน’ ประธานวุฒิสภาของกัมพูชา โดยระบุว่า แถลงในนาม สส. พรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จากการที่สมเด็จ ฮุน เซน ได้เผยแพร่คลิปการสนทนากับนายกรัฐมนตรี โดยมี 4 ประเด็น ดังนี้

1) การนำคลิปสนทนาส่วนตัวมาเผยแพร่ฝ่ายเดียวโดยที่อีกฝ่ายไม่ทราบ ถือว่าเป็นการผิดมารยาททางการทูต และละเมิดแนวปฏิบัติทางการทูต เป็นการกระทำเพื่อวาระทางการเมืองส่วนตัว ถือว่าเป็นการกระทำโดยไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ละเมิดความสุจริตใจและความจริงใจ ระหว่างกัน ซึ่งความจริงใจทางการพูดถือเป็นพื้นฐานสำคัญ ในการดำรงความสัมพันธ์ที่ดี 

"เวลานี้เป็นเวลาที่คนไทยไม่ควรแตกแยกกัน เพราะความแตกสามัคคีระหว่างคนไทยด้วยกันจะทำให้กัมพูชาสำเร็จตามเป้าประสงค์ที่เขาวางไว้ จึงเรียกร้องให้คนไทยวันนี้ต้องรักษาผลประโยชน์ชาติร่วมกัน"

2) จากการฟังคลิปทั้งหมดจะเห็นว่านายกรัฐมนตรีพยายามปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และจะเห็นได้ว่าฝ่ายกัมพูชาต้องการให้ไทยเปิดด่านก่อน ซึ่งฝ่ายกัมพูชาจะเปิดด่านตามมา แต่นายกรัฐมนตรีไม่ได้ทำตามความประสงค์ของฝ่ายกัมพูชา จึงสรุปได้อย่างชัดเจนว่านายกรัฐมนตรีพยายามปกป้องผลประโยชน์ของชาติอย่างเต็มที่ ไม่ได้เอาผลประโยชน์ของชาติไปให้กับกัมพูชา ตามที่ถูกกล่าวหา เพราะมิเช่นนั้นท่านก็คงทำตามความต้องการของฝ่ายกัมพูชาไปแล้ว โดยสั่งให้มีการเปิดด่าน และจนปัจจุบันนี้รัฐบาลไทยก็ยังไม่ได้เปิดด่านตามที่กัมพูชาต้องการ 

3) ท่านแพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรีที่ต้องการสันติภาพ ไม่ต้องการความขัดแย้ง และสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีแห่งการสร้างสันติภาพ ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีแห่งการสร้างภาพ จากในคลิปจะเห็นว่าท่านพยายามอย่างเต็มที่ที่จะป้องกันไม่ให้ยกระดับความขัดแย้งไปสู่การปะทะทางทหารและสงครามระหว่างเพื่อนบ้าน ท่านพูดชัดเจนว่าไม่อยากให้เกิดสงครามและมีบาดแผล  

"ผมค่อนข้างชื่นชมท่านที่หาทางแก้ไขปัญหาที่ยอมรับได้ทั้ง 2 ฝ่าย พยายามให้วิน-วินทั้งคู่ พยายามนำความขัดแย้งปัจจุบันให้กลับไปสู่สถานะเดิม หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า status quo คือให้มีสันติภาพดังเดิมก่อนที่จะมีความขัดแย้ง แม้ว่าจะมีราคาที่ต้องจ่ายและจะถูกวิจารณ์ก็ตาม แต่ท่านก็มุ่งมั่นที่จะไม่ให้สถานการณ์ลุกลามกลายเป็นความขัดแย้ง กระทบสันติภาพในภูมิภาค ซึ่งประเทศไทยมีหน้าที่ต้องรักษาเสถียรภาพในอาเซียนด้วย" 

4) ในคลิปอาจมีการพาดพิงถึงบุคคลที่ 3 คือแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งในส่วนตัวตนเองในฐานะ สส. ก็ต้องกราบขออภัยท่านผู้ที่ถูกพาดพิง แต่เชื่อโดยสุจริตใจว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้มีเจตนาจะกล่าวตามที่ถูกตีความไปไกล และท่านได้แสดงสปิริตโดยการโทรศัพท์ และแถลงข่าวอีกครั้งวันนี้ด้วย เชื่อว่าท่านไม่ได้มีเจตนาจะไปลบหลู่แม่ทัพภาคที่ 2  

"ผมมั่นใจจากการแถลงของนายกรัฐมนตรีว่าการทำงานของรัฐบาลและกองทัพไทยยังมีความเป็นปึกแผ่น มีความเป็นเอกภาพ และมุ่งมั่นที่จะปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของประเทศไทยต่อไป" นพดล ระบุ 

5) ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย ขอให้ความมั่นใจว่าเราจะปกป้องอธิปไตย และบูรณภาพของดินแดนของประเทศไทยอย่างสุดความสามารถ และจะทำงานร่วมกับกองทัพอย่างมีเอกภาพ เพื่อปกป้องดินแดนและผลประโยชน์ของชาติอย่างเต็มที่ต่อไป 

สำหรับข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบด้วยการ ยุบสภาหรือลาออกนั้น นพดล กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้ง เราในฐานะนักการเมืองต้องรับฟังความเห็นของพี่น้องประชาชน และน้อมรับไปปรับปรุงแก้ไข แต่ต้องให้ความมั่นใจว่าไม่มีตอนใดเลยที่นายกรัฐมนตรีไปสมรู้กับกัมพูชา หรือไปยกประโยชน์ให้กับกัมพูชา ไม่ได้เอาประโยชน์ของตระกูลชินกับตระกูลฮุน มาเหนือประโยชน์ของไทยและกัมพูชา นี่เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม ต้องให้เครดิตท่านนายกรัฐมนตรี 

"การเรียกความเชื่อมั่นต้องเรียกจากการกระทำ ไม่ใช่เรียกจากเพียงถ้อยคำในแถลงการณ์ ต้องเรียกจากผลงาน และการทำงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผมมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะสนับสนุนให้นายกรัฐมนตรี ได้ทำงานเพื่อเรียกความเชื่อมั่นและแก้ไขปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์"  

นพดล กล่าว

นอกจากนี้ยังระบุว่า หากในอนาคตเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจในรัฐสภาก็มีกระบวนการอยู่แล้ว แต่ในระหว่างนี้ต้องให้เวลาให้โอกาสท่าน เพราะเราต้องดูภาพรวมของคลิป ไม่ใช่การสนทนาบางถ้อยคำ 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์