‘ปชน.’ ติง ‘รทสช.’ ปมให้ข่าวคว่ำ ‘ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม’

8 ก.ค. 2568 - 05:51

  • ‘ปกรณ์วุฒิ’ ติง ‘รทสช.’ แสดงท่าทีเกินกว่ามติ ‘วิปรัฐบาล’

  • ชี้ยังไม่มีมติคว่ำ ‘ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม’ ฉบับพรรคประชาชน

  • ขอให้ให้เกียรติกัน อย่าสร้างความเข้าใจผิดในสังคม

‘ปชน.’ ติง ‘รทสช.’ ปมให้ข่าวคว่ำ ‘ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม’

ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่เกี่ยวกับการนิรโทษกรรมฯ ที่จะเข้าสภาฯ ในวันที่ 9 ก.ค. นี้ (แทนร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’) ที่ยังมีประเด็นถกเถียงในมาตรา 112 อยู่ ว่า “จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ทั้งหมด 5 ฉบับ ซึ่งมีการเพิ่มของพรรคภูมิใจไทยขึ้นมาอีก 1 ร่าง”

“แต่ละร่างเนื้อหาค่อนข้างใกล้เคียงกัน เพื่อต้องการคลี่คลายความขัดแย้งภายในประเทศ และไม่ได้ลงรายละเอียดใดๆ และมีความแตกต่างกันในรายละเอียดของเนื้อหา บางร่างยกเว้นมาตรา 112 ไว้เลย บางร่างอาจจะแค่เปิดไว้เฉยๆ ขณะที่ร่างของพรรคประชาชนระบุไว้เลยว่า ให้นิรโทษกรรมคดี 112 ด้วย ซึ่งความเห็นของผมสามารถรับไปทุกร่างและไปพูดคุยในชั้นกรรมาธิการได้”

ปกรณ์วุฒิ ย้ำว่า “สภาฯ ไม่ควรที่จะปิดกั้นว่าคดีแบบไหนควรจะได้รับการนิรโทษ คดีมาตราไหนไม่ควรที่จะได้รับการนิรโทษ เพราะคำว่าคดีที่เกิดจากแรงจูงใจทางการเมืองสามารถเกิดได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการชุมนุม การฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.บ. อื่นๆ แม้กระทั่งมาตรา 112 ทุกคดีที่ต้องการนิรโทษกรรมก็คือคดีอาญาเหมือนกัน ดังนั้นจึงอยากให้เข้าไปพูดคุยในชั้นกรรมาธิการ เพื่อให้เกิดการตกผลึก ว่าหน้าตาของร่างควรจะออกมาเป็นอย่างไร เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด”

ทุกพรรคพูดเหมือนกันว่า ต้องการคลี่คลายความขัดแย้งและอยากให้เกิดความปรองดอง ถ้าอย่างนั้นถ้ามีความเปิดกว้าง ความปรองดองก็จะเกิดขึ้นได้ง่ายกว่า

ส่วนเมื่อถามว่าบางพรรคการเมืองขอตัดประเด็น 112 เลย ต้องทำความเข้าใจอย่างไรบ้าง? ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า “เรื่องทำความเข้าใจ พรรคประชาชนทำมาโดยตลอด แต่ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคว่าฟังหรือไม่ ทางไอลอว์ก็ทำอินโฟกราฟิกออกมาอย่างชัดเจน ถึงความแตกต่างของแต่ละร่างว่าเป็นอย่างไร และผลของแต่ละร่างจะออกมาเป็นอย่างไร ถ้าไม่ได้มีธงมาตั้งแต่ที่บ้าน ทุกเรื่องทุกร่างสามารถพูดคุยกันได้หมด”

เมื่อถามว่า วิปรัฐบาลมีมติไม่รับร่างฯ พรรคประชาชน และภาคประชาชน? ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่า “ผมได้อ่านมติของวิปรัฐบาลแล้ว ไม่มีมติคว่ำร่างของพรรคประชาชน แต่ไม่แน่ใจว่าตัวแทนของวิปที่ออกมาให้ข่าวคือรวมไทยสร้างชาติ ผมไม่ทราบเจตนาว่าเป็นอย่างไร และได้รับคำยืนยันจากพรรคอื่นๆ ว่ายังไม่มีมติในเรื่องนี้ เพียงแต่มีมติรับหลักการร่างฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ และร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ของปรีดา บุญเพลิง สส.บัญชีรายชื่อพรรคกล้าธรรม ส่วนร่างอื่นๆ ไม่มีมติอะไร”

ดังนั้น พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องไปคุยกันว่าการที่วิปรัฐบาลของบางพรรคออกมาพูดเกินสิ่งที่รัฐบาลคุยกัน น่าจะต้องให้เกียรติกันมากกว่านี้ เพราะทำให้สังคมเข้าใจผิด ว่าผลที่จะเกิดขึ้นพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร เป็นการสร้างอำนาจต่อรองและกดดันทางพรรคใหญ่หรือไม่ ผมคิดว่าเมื่อยังไม่มีมติ อาจจะต้องรอดูบ่ายนี้ในการประชุมพรรคเพื่อไทย นี่อาจจะเป็นปัจจัยสำคัญที่หน้าตาของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ในวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่าจะกลายเป็นการสร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้นหรือไม่? ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า “ผมไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับใคร แต่ทางฝั่งนั้นไม่แน่ใจ แต่คิดว่าแต่ละพรรคมีเอกสิทธิ์ของตัวเอง เพราะคงจะไม่ใช่ครั้งแรก บางร่าง พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมอื่นๆ ก็เคยมีมติไม่เหมือนกัน ก็ร่วมงานกันต่อได้ไม่เป็นไร ด้านฝ่ายค้านไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ลงมติเหมือนหรือแตกต่างกัน เราก็ทำงานตรวจสอบ ทำหน้าที่ตามจุดยืนของแต่ละพรรคอยู่แล้ว”

เมื่อตั้งข้อสังเกตถึงการที่พรรคเพื่อไทยไม่ชัดเจน เพราะมีกรณี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดนคดี 112 ด้วยนั้น? ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า “เป็นไปได้ แต่อยากให้ตัดสินใจโดยที่ไม่ได้คิดว่าเกิดกับใคร แต่ต้องคิดว่าผลทางสังคมที่จะเกิดขึ้น เวลากฎหมายบังคับใช้ต้องใช้กับทุกคน”

ดังนั้น ไม่ว่าพรรคการเมืองเองหรือสังคม ต้องมองในภาพรวมว่าผลของกฎหมายจะส่งผลทางสังคมอย่างไร ไม่ใช่ส่งผลต่อตัวบุคคลอย่างไร เข้าใจว่ายาก และอาจจะถูกข้อครหาได้ ซึ่งเราพยายามจะปลดล็อกให้ทุกคนที่แสดงออกทางการเมืองตามสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญได้รับโอกาสที่จะได้รับนิรโทษกรรม เนื่องจากการกระทำที่เกิดจากแรงจูงใจทางการเมืองทั้งหมด

เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทย ที่เป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านในขณะนี้ยืนยันมาโดยตลอดว่าจะไม่นิรโทษกรรมมาตรา 112? ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า “เป็นสิทธิของแต่ละพรรค แต่ก็มีการพูดคุยทำความเข้าใจกัน ร่างของพรรคประชาชนไม่มีคำว่า 112 เราไม่ได้ระบุอะไรเอาไว้เลย เพียงแต่ว่าเปิดทางไว้ให้พูดคุยกันเท่านั้น ซึ่งผมคิดว่าการเปิดทางไว้ก่อน ให้พูดคุยได้ในทุกเรื่อง ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”

เมื่อถามว่า ที่อยากให้ไปตกผลึกในชั้นกรรมาธิการในประเด็น 112 นั้นจะทำได้จริงใช่หรือไม่? ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า “สุดท้ายก็ต้องมีมติอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ได้บอกว่าต้องนิรโทษคดี 112 ให้ได้ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม แต่เมื่อมีการเปิดโอกาสและทำความเข้าใจในชั้นกรรมาธิการ ซึ่งเป็นวงเล็กและเป็นคนที่แต่ละพรรคเลือกมาแล้ว ผมก็คิดว่ามีโอกาส และทำให้การทำความเข้าใจและเวลาที่ใช้สั้นลง สุดท้ายก็อยู่ที่มติของกรรมาธิการ”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์