แผ่นดินไหวครั้งใหญ่รอบหมู่เกาะโทคาระอันห่างไกลของญี่ปุ่น และการปะทุของภูเขาไฟที่ดับไปนานแล้วในเกาะคิวชู ทำให้เกิดความวิตกกังวลของประชาชนอีกครั้ง โดยเฉพาะข่าวลือเกี่ยวกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2025 ตามคำทำนายของการ์ตูนมังงะญี่ปุ่นเรื่อง ‘The Future I Saw’ ของ ริโอะ ทัตสึกิ ผู้ซึ่งเคยทำนายเหตุการณ์แผ่นดินไหวโทโฮคุเมื่อปี 2011 ได้อย่างแม่นยำ (อ่านเพิ่มเติมที่นี่ ญี่ปุ่นวุ่น! นักท่องเที่ยวแห่ยกเลิกทริปเพราะกลัวคำทำนายแผ่นดินไหวจากการ์ตูนมังงะ)
ภูเขาไฟชินโมเอดาเกะปะทุเมื่อวันอาทิตย์ (22 มิ.ย.) ที่ผ่านมา หลังจากสงบมานาน 7 ปี โดยพ่นเถ้าถ่านขึ้นไปในอากาศสูงถึง 500 เมตร มีรายงานว่ามีเถ้าถ่านตกลงมาในพื้นที่โดยรอบ ขณะที่เจ้าหน้าที่เตือนว่าอาจมีหินภูเขาไฟที่กระเด็นไปไกลถึง 2 กิโลเมตรจากปากปล่องภูเขาไฟ
อย่างไรก็ตาม นักแผ่นดินไหววิทยาได้ออกมาปฏิเสธความเชื่อมโยงใดๆ ระหว่างกิจกรรมแผ่นดินไหวล่าสุดกับคำทำนายดังกล่าว โดยเน้นย้ำว่าไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถทำนายได้อย่างแม่นยำถึงเวลา สถานที่ หรือขนาดของแผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
หมู่เกาะโทคาระในจังหวัดคาโกชิมะทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่นกำลังได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวมากกว่า 470 ครั้งนับตั้งแต่วันเสาร์ (21 มิ.ย.) ที่ผ่านมา วัดความรุนแรงตั้งแต่ระดับ ‘shindo’ 1 ขึ้นไป (shindo = มาตราวัดความรุนแรงของแผ่นดินไหวที่ใช้ในประเทศญี่ปุ่น)
ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น (JMA) เตือนว่าแผ่นดินไหวจะยังคงเกิดขึ้นอีกสักระยะหนึ่ง พร้อมเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ระมัดระวังแผ่นดินไหวที่อาจมีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากกิจกรรมทางธรณีแสดงสัญญาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีความถี่มากกว่าครั้งก่อนๆ
ตั้งแต่วันเสาร์ (21 มิ.ย.) ถึงบ่ายวันพุธ (25 มิ.ย.) มีการบันทึกแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงระดับ 1 หรือสูงกว่าจำนวน 432 ครั้ง โดยในจำนวนนี้มี 6 ครั้งที่วัดได้ระดับ 4, 21 ครั้งที่วัดได้ระดับ 3, 114 ครั้งที่วัดได้ระดับ 2 และ 291 ครั้งที่วัดได้ระดับ 1 โดยพบแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดคือขนาด 5.1 ซึ่งเกิดขึ้นที่เกาะอาคุเซคิจิมะในหมู่บ้านโทชิมะประมาณ 5 โมงเย็นของวันอาทิตย์ (22 มิ.ย.) วัดความรุนแรงได้ระดับ 4 ตามมาตรวัดของญี่ปุ่น (ซึ่งหมายถึงแผ่นดินไหวที่ทำให้คนส่วนใหญ่ตกใจ จานชามสั่น และวัตถุแขวนอย่างโคมไฟแกว่งอย่างเห็นได้ชัด)
นอกจากนี้ ยังพบแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงระดับ 1 หรือ 2 บนเกาะใกล้เคียงหลายแห่ง รวมถึงเกาะอามามิโอชิมะด้วย แต่ไม่พบคลื่นสึนามิ
สำหรับจำนวนครั้งของแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงระดับ 1 ขึ้นไปโดยวัดในแต่ละวันได้แก่ : วันเสาร์ (21 มิ.ย.) 28 ครั้ง, วันอาทิตย์ (22 มิ.ย.) 119 ครั้ง, วันจันทร์ (23 มิ.ย.) 175 ครั้ง, วันอังคาร (24 มิ.ย.) 59 ครั้ง, และวัดอีกครั้งในวันพุธ (25 มิ.ย.) เวลา 16.00 น. ได้ 51 ครั้ง
พื้นที่รอบเกาะโคดาการาจิมะในหมู่เกาะโทคาระเคยมีประวัติการเกิดแผ่นดินไหวจำนวนมากในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นกัน โดยในเดือนกันยายน 2023 มีการบันทึกแผ่นดินไหวระดับ 1 ขึ้นไป 346 ครั้งภายใน 15 วัน และในเดือนธันวาคม 2021 พบแผ่นดินไหว 308 ครั้ง ภายใน 26 วัน
เจ้าหน้าที่ JMA เตือนให้ประชาชนระมัดระวังแผ่นดินไหวรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นเป็นระยะเวลาหนึ่ง โดยระบุว่ามีบางกรณีที่แผ่นดินไหวยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลาหลายสิบวัน
“แผ่นดินไหวในพื้นที่นี้เกิดจากการที่แผ่นเปลือกโลกฟิลิปปินส์กำลังดันตัวลงใต้แผ่นเปลือกโลกอีกแผ่นหนึ่งที่เชื่อมต่อกับทวีปเอเชีย ซึ่งทำให้เกิดความเครียดสะสมจนส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหว”
— ผู้เชี่ยวชาญด้านภูเขาไฟและธรณีวิทยาทางทะเลจากมหาวิทยาลัยคุมาโมโตะอธิบาย
(Photo by JAPAN METEOROLOGICAL AGENCY, FUKUOKA REGIONAL HEADQUARTERS / AFP / ภาพประกอบ : กลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นจากปากปล่องภูเขาไฟชินโมเอดาเกะในเทือกเขาคิริชิมะ จังหวัดคาโกชิมะ บนเกาะคิวชูทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ซึ่งปะทุขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2017)