‘นายกฯ อิ๊งค์’ ยันบ่ายนี้ชัดเจน! แผนรับมือ ‘ทรัมป์’ รีดภาษี

8 เม.ย. 2568 - 07:54

  • ‘นายกฯ อิ๊งค์’ ยันบ่ายนี้ชัดเจน! แผนรับมือ ‘กำแพงภาษีสหรัฐฯ’ เผย ‘รมว.คลัง’ นำทีมเจรจา

  • ยันไม่รู้จัก ‘ไฮโซเก๊’ บอกครอบครัวโดนหลายเรื่อง ไม่เสี่ยงทำแบบนี้ วอนอย่าเชื่อ

Paetongtarn_on_US_tariff_policy_SPACEBAR_Hero_ac042d4b2b.jpg

แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการรับมือนโยบายกำแพงภาษีจากสหรัฐอเมริกา ว่า เรามีหลายประเด็นมาก ๆ และเดี๋ยวช่วงบ่ายวันนี้จะประชุมในรายละเอียด แต่ในอันดับแรก หัวหน้าทีมที่จะไปพูดคุยคือ พิชัย ชุนหวชิระ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ซึ่งเป็นตัวแทนนายกรัฐมนตรีไปเจรจา และพิชัยรับผิดชอบดูแลเรื่องเศรษฐกิจต่าง ๆ อยู่แล้ว ส่วนในตัวรายละเอียดก็จะมีทีมงานตามไปด้วย

เดี๋ยวบ่ายนี้จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่องของอเมริกา จะเห็นภาพชัดขึ้นเยอะ

แพทองธาร ชินวัตร

ยันไม่รู้จัก ‘ไฮโซเก๊’ ลั่นครอบครัวโดนหลายเรื่อง ไม่เสี่ยงทำแบบนี้

ส่วนเมื่อถูกถามถึงกรณีการจับกุม ‘ไฮโซเก๊’ ที่มีการแอบอ้างว่ารู้จักนายกฯ นั้น แพทองธาร ชี้แจงว่า ขออนุญาตสื่อมวลชนฝากสื่อสารไปยังประชาชนด้วย เรื่องไฮโซเก๊เป็นเรื่องหนึ่งที่เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ในตอนนี้ ซึ่งยืนยันว่าไม่จริง ดิฉันไม่รู้จัก โดยเคยได้ยินแบบนี้มาหลายทีแล้ว

เรื่องการแอบอ้างว่าสนิทกับนายกฯ เพื่อนดิฉันเองยังมาบอกเลยว่า รู้จักกับคนคนนี้ ต้องให้งานอย่างนี้อย่างนั้น เพราะสนิทกับนายกฯ ไม่มีนะคะ ถ้าดูประวัติที่ผ่านมาของครอบครัวด้วยนะว่าโดนหลายเรื่องเหมือนกัน ถ้าดิฉันจะต้องมาเสี่ยงอะไรแบบนี้ ดิฉันไม่ทำอยู่แล้ว มันไม่จำเป็นด้วย ต้องมาวิ่งอะไรแบบนี้ มันเสี่ยง และดิฉันก็เข้ามาแบบว่าเห็นทุกการโดนอะไรแบบนี้มา รู้สึกว่าไม่ได้สนับสนุน และก็ไม่อยากให้เชื่อ บางทีก็มีเแมสเสจ (message) ที่เป็นหน้าดิฉันเลย ส่งไปตามดีเอ็ม (DM: Direct Message ) ของคนต่าง ๆ แล้วก็บอกว่า ให้สนับสนุนเงินอะไรอย่างนี้ ไม่มีเวลาทำอย่างนั้นเลย ขอให้อย่าเชื่อกัน และสื่อสารกันว่าไม่จริง ก่อนหน้านี้ก็มีของท่านทักษิณ ว่าจะแจกเงิน เคยเห็นบ่อยมากเลย ไม่มี ไม่เคยเลย อย่าไปเชื่อ อย่าไปหลงกล

แพทองธาร ชินวัตร

นายกฯ ระบุด้วยว่า ลักษณะดังกล่าวเป็นรูปแบบหนึ่งของคอลเซ็นเตอร์เช่นกัน จึงอย่าไปเชื่อ

บางทีคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติก็มี ที่ขึ้นเป็นหน้าของคนมีชื่อเสียงคนหนึ่ง แต่เป็นอีกชื่อหนึ่ง ดิฉันก็เคยโดนส่งมา สมัยที่คอลเซ็นเตอร์เยอะ ๆ ฉะนั้นอย่าไปเชื่ออะไรแบบนี้ ไม่มี ขอให้ความเสียหายมันจบตรงแบบนี้ละกัน

แพทองธาร ชินวัตร

เปิดข้อสั่งการ ‘นายกฯ’ เยียวยา-หาต้นเหตุ ‘ตึกถล่ม’ พร้อมพัฒนาระบบเตือนภัย

ขณะที่ จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ก่อให้เกิดตึกถล่มบริเวณเขตจตุจักร เมื่อวันที่ 28 มีนาคม โดยเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว 11 วัน การดำเนินการกู้ชีวิตและค้นหาผู้ประสบภัยยังต้องดำเนินการต่อไป ควบคู่กับการรื้อถอนซากตึกและการสืบสวนหาสาเหตุ 

และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร ภาคประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ บรรเทาทุกข์ได้อย่างรวดเร็ว

โดยข้อสั่งการระบุว่า ในขั้นตอนต่อไปคือการเยียวยา การสืบหาต้นเหตุตึกถล่ม และการพัฒนาระบบเตือนภัยให้มีประสิทธิภาพ ต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดตามที่ได้สั่งการไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 

และเมื่อเช้านี้เวลา 8.30 น. นายกรัฐมนตรีได้เชิญคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมารายงานความคืบหน้าเพื่อหาผู้กระทำผิดและดำเนินการตามกฎหมาย และกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อไป

ยันไม่นิ่งนอนใจ ‘กำแพงภาษีสหรัฐฯ’ ย้ำวางแผนล่วงหน้ากว่า 4 เดือน

ส่วนในเรื่องของกำแพงภาษีของประเทศสหรัฐอเมริกา ผลกระทบจากการประกาศของประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้น มาตรการดังกล่าวถือเป็นการกำหนดกติกาการค้าโลกที่สร้างผลกระทบไปทุกประเทศทั่วโลก 

โดยรัฐบาลได้ตั้งคณะทำงานมาตั้งแต่ 6 มกราคม 2568 ก่อนการรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 20 มกราคม 2568 แล้ว โดยคณะทำงานได้รายงานต่อนายกรัฐมนตรีเป็นระยะ ๆ ในการศึกษาและหามาตรการต่าง ๆ ไว้เจรจา และเตรียมมาตรการที่จะลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด

ทั้งนี้ ขอให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องเร่งปรับตัวตามมาตรการใหม่นี้ โดยวันนี้เวลา 13.00 น. นายกรัฐมนตรีได้เชิญคณะกรรมการชุดดังกล่าวเข้ารายงานเรื่องนี้เป็นการเฉพาะกับหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้อง และจะมีการชี้แจงในรายละเอียดต่อไป

ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและได้มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าและดำเนินการมาตลอดกว่า 4 เดือน และจะดำเนินการอย่างเหมาะสมต่อไป เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศไทยและพี่น้องประชาชนคนไทยเป็นที่ตั้ง

จิรายุ ห่วงทรัพย์

สั่งการทุกหน่วยงานดูแลประชาชนช่วงสงกรานต์

จิรายุ กล่าวต่อไปว่า ในช่วงปลายสัปดาห์นี้จะเป็นช่วงของเทศกาลสงกรานต์ นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการว่าในช่วงปลายสัปดาห์นี้จะมีงานเฉลิมฉลองและจัดกิจกรรมต่าง ๆ ทั่วประเทศ ขอให้ทุกหน่วยงานอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัยในงานเทศกาล กิจกรรมต่าง ๆ ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ให้ดูแลนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

โดยมีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้

  • กระทรวงคมนาคม จัดการขนส่งมวลชน และการบริการขนส่งสาธารณะทุกระบบให้เพียงพอ และต้องมีความปลอดภัย โดยให้เน้นที่ผู้ขับขี่รถโดยสารและผู้ให้บริการต้องมีความพร้อมเพื่อให้บริการได้อย่างปลอดภัย
  • นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ตรวจสอบเส้นทางที่มีการก่อสร้างต่าง ๆ ว่ามีความปลอดภัย เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นแก่พี่น้องประชาชน เช่น บริเวณถนนพระราม 2 และอื่น ๆ ที่มีความเสี่ยง
  • หน่วยงานความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ทั่วประเทศดูแลเส้นทางการจราจรให้มีความคล่องตัว ให้มีป้ายบอกทางที่ชัดเจน กวดขันการขับขี่ให้เป็นไปตามกฎหมาย ให้มีจุดตรวจจับการดื่มแอลกอฮอล์
  • กระทรวงสาธารณสุข ให้เตรียมพร้อมดูแลผู้ป่วย ตลอดจนผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
  • กระทรวงศึกษาธิการ ขอความร่วมมือและอาสาสมัครนักเรียนอาชีวะช่วยซ่อมแซมรถที่เสียระหว่างเดินทาง
  • กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอให้ดูแลให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จัดเตรียมตำรวจท่องเที่ยวหรืออาสาสมัครในการให้บริการและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรณรงค์เข้มงวด “ดื่มไม่ขับ” และเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ต้องตั้งเป้าให้อุบัติเหตุ, จำนวนผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บลดลง และขออวยพรให้พี่น้องประชาชนทุกท่านเดินทางพักผ่อนและท่องเที่ยวให้สนุกปลอดภัย มีความสุขกับครอบครัวในโอกาสสงกรานต์ปีใหม่ไทย

อ้างอิง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์