




แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย อิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์, อัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์, สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์, จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมลงพื้นที่ จ.จันทบุรี เพื่อรับฟังปัญหาต้นทุนการผลิตและผลผลิตจากเกษตรกรชาวสวนผลไม้ และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก รวมถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ
จุดแรก นายกฯ และคณะเข้าเยี่ยมชมสวนรักตะวัน ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี โดยมี สส.พรรคประชาชน (ปชน.) ได้แก่ วรายุทธ ทองสุข สส.จันทบุรี เขต 1, ปรัชญาวรรณ ไชยสืบ สส.จันทบุรี เขต 2 และญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี เขต 3 มาร่วมพบปะและรับฟังปัญหาด้วย
จากนั้นรับฟังรายงานและข้อเสนอจากตัวแทนเกษตรกร ซึ่งขอให้รัฐบาลสนับสนุนผู้ประกอบการทั้งไทยและจีน โดยอำนวยความสะดวก เช่น ตั้งแล็บตรวจทุเรียนในพื้นที่หลัก เนื่องจากหลายประเทศมุ่งส่งทุเรียนเข้าจีน และเสนอให้ใช้ซอฟต์พาวเวอร์ ดึงอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) หรือคนที่มีชื่อเสียง เช่น ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ มาช่วยโปรโมตผลไม้ไทยเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานใหม่ หวังดันยอดขายจากปีละ 2–3 แสนล้านบาท เป็น 5 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ ยังขอให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาการส่งออกล่าช้า เนื่องจากมีตู้ค้างหน้าด่าน 700–1,000 ตู้ จากเดิมใช้เวลา 14 วัน แม้มีการแก้ไขแล้ว แต่ยังใช้เวลา 8–12 วัน จึงอยากให้เร็วขึ้น
ตัวแทนเกษตรกรยังระบุถึงปัญหาทุเรียนอ่อนที่น้ำหนักไม่ถึงเกณฑ์ เพราะยังไม่มีกฎควบคุมที่ชัดเจน จึงขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ออกระเบียบกำกับ รวมถึงแก้ปัญหาแรงงานภาคการเกษตร เช่น การขยายอายุแรงงานต่างด้าว และอนุญาตให้เดินทางข้ามจังหวัดได้ พร้อมขออนุมัติงบกลาง 100 ล้านบาท เพื่อเยียวยาความเสียหายจากช้างป่า
นายกฯ กล่าวว่า ดีใจที่ได้พบชาวจันทบุรี และตั้งใจมารับฟังปัญหาจากชาวสวนโดยตรง โดยเฉพาะเรื่องราคาผลไม้ที่มีปริมาณล้นตลาด รัฐบาลจึงนำเอกชนเข้ามาช่วยซื้อเพื่อพยุงราคาและป้องกันความเสียหาย
นอกจากนี้ รัฐบาลสนับสนุนการวิจัยเพิ่มเติม โดยเฉพาะห้องแล็บ เพื่อวางรากฐานการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไทยให้แข่งขันได้ในระดับโลก ปัจจุบันประเทศเพื่อนบ้านพัฒนาเทคโนโลยีและคุณภาพสินค้าได้ดีกว่าเดิม ลูกค้าจึงเลือกสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า รัฐบาลได้สั่งการ ครม. ดำเนินการวิจัยสินค้าเกษตรส่งออกเรียบร้อยแล้ว
เราเป็นตัวท็อปในเรื่องการส่งออกปลาทะเลและกุ้ง ซึ่งตอนนี้ลดน้อยลง เพราะธรรมชาติเปลี่ยนไปและมีปัจจัยอื่นเข้ามา โดยเฉพาะเพื่อนบ้านมีการวิจัยที่ดี และพัฒนาโปรดักส์ให้ดีมากยิ่งขึ้น ทำให้ลูกค้ามาซื้อของดีคุณภาพสูงราคาถูก เรื่องนี้ดิฉันได้สั่งการในคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรียบร้อยในเรื่องการทำวิจัยสินค้าส่งออกของไทย ตอนนี้ต้องรอการดำเนินการ เพราะการวิจัยคือการวางรากฐานสู่อนาคต โปรดักส์ของเราต้องพัฒนาขึ้น โลกเปลี่ยนไป ทุกอย่างเปลี่ยนไป ต้องพัฒนาศึกษาต่อคือสิ่งที่ไม่ปล่อยแน่นอน
— นายกฯ ระบุ
นายกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า จะเร่งแก้ปัญหามังคุดที่ติดหน้าด่าน ไม่อยากให้เสียหายจนต้นทุนเพิ่ม พร้อมสั่งย้ำให้ลดเวลาขนส่งให้เร็วที่สุด และขอให้ผู้ว่าฯ ตั้งทีมทำงานร่วมกับชาวบ้านเพื่อกำหนดมาตรฐานคุณภาพและราคาผลไม้ให้ชัดเจน
ในเรื่องแรงงาน นายกฯ มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณากฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ส่วนปัญหาช้างป่าจะพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ เพราะกระทบต่อชีวิตประชาชนโดยตรง และขอให้ผู้ว่าฯ เสนอแนวทางเพิ่มเติมเพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
เดี๋ยวจะไปถามด้วยตัวเอง เพราะความจริงแล้วที่พูดแบบนี้ เพราะว่ามีอันตรายถึงชีวิตคน เรื่องนี้สำคัญที่สุดโลกเราเปลี่ยนไป ถ้าเรายังมีลมหายใจ เราก็สู้ได้ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มาถึงชีวิต ฉะนั้นเดี๋ยวจะไปดูเรื่องนี้ให้อย่างจริงจังว่าทำอะไรแล้วบ้าง และต้องทำอะไรเพิ่มได้อีกบ้าง หากถ้าคิดไม่ออกอาจจะส่งคำถามมาที่ผู้ว่าฯว่ามีข้อแนะนำอะไรบ้าง ขอฝากผู้ว่าฯ ไว้ก่อน เพื่อเป็นช่องทางที่สามารถพูดคุยกันได้
— นายกฯ ระบุ
ต่อมา นายกฯ เยี่ยมชมจุดไลฟ์สดขายทุเรียนของกลุ่ม Young Smart Farmer พร้อมรับฟังการบริหารจัดการผลไม้ปี 2568 และดูระบบควบคุมสารเคมีตกค้างในทุเรียนเพื่อการส่งออก จากนั้นปลูกต้นทุเรียน ชมการใช้รถพ่นยาในสวน (แอร์บัส) และรับมอบทุเรียนหมอนทองจากสภาเกษตรกรจังหวัดจันทบุรี ก่อนเดินชมต้นทุเรียนร้อยปี และทดลองตัดทุเรียนในสวน
จากนั้น นายกฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมชมบูธร้านอาหารที่ได้รับเครื่องหมาย Thai SELECT และรณรงค์การบริโภคผลไม้ไทยตามฤดูกาล ณ โรงแรมมณีจันท์รีสอร์ท ต.พลับพลา
โดยนายกฯ ระบุว่า ผลไม้ไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก อยากให้คนไทยบริโภคมากขึ้น เพราะผลไม้ไทยได้รับการยอมรับว่าเป็น King of Fruit และ Queen of Fruit ปีนี้ฝนตกมาก ผลผลิตออกมามาก จึงขอให้ช่วยกันบริโภคผลไม้ไทย และขอเป็นกำลังใจให้เกษตรกรและชาวสวนทุกคน
จากนั้น ได้เยี่ยมชมบูธร้านอาหารที่ได้รับเครื่องหมาย Thai SELECT ซึ่งนำผลไม้มาสร้างสรรค์เป็นเมนูต่างๆ และมอบป้าย Thai SELECT ให้แก่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ